ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2011
ทำไมคนเราจึงไม่ยอมรับความจริง
(มัทธิว 21:33-43)
           

               ในฐานะที่มีส่วนรับรู้เกี่ยวกับงานของโรงเรียนอยู่บ้าง จึงได้รับรู้ถึงความทุกข์ของคุณครูหลายๆท่านที่โดนบรรดาผู้ปกครองต่อว่าต่อขาน หรือบางครั้งถึงกับลงไม้ลงมือเอาเรื่องคุณครูที่ลงโทษเด็กหรือส่งจดหมายรายงานความประพฤติของเด็กๆ ซึ่งแทนที่ผู้ปกครองจะรับฟังแล้วช่วยกันตักเตือนแก้ไขหรือให้การอบรมลูกหลานของพวกเขา แต่กลับไม่ยอมรับความจริงนั้น เข้าข้างลูกหลานของตน หรือใช้วิธีง่ายๆคือปฏิเสธไม่ยอมรับรายงานที่คุณครูส่งมาให้


               เหตุการณเช่นนี้เกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้ามาแล้ว พูดไปแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่า คนที่ทำความดีแบบพระเยซูเจ้า จะมีคนไม่ยอมรับ ดูซิพระองค์เสด็จไปที่ไหนก็ทำแต่ความดีที่นั้น พระองค์ทรงชี้ทางให้ประชาชนดำเนินชีวิตอย่างดีเพื่อจะได้มีความสุขแท้จริง พระองค์สอนให้รักและให้อภัยต่อกันและกัน พระองค์ทรงพูดและกระทำตามคำพูดนั้น แต่ก็มีคนจำนวนมากไม่ชอบพระองค์ ปฏิเสธพระองค์ ด่าว่าพระองค์ และที่สุดลงโทษพระองค์

             ทำไมคนเราจึงไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับคนดี ไม่ยอมรับศาสนา ไม่ยอมรับคำสอนของพระเยซู ???????

            คงมีหลากหลายเหตุผลด้วยกัน แต่เหตุผลประการหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ ความจริงอาจทำให้เขาต้องเจ็บปวดหรือต้องสูญเสียอะไรบ้างอย่างที่เรายึดติดอยู่ก็ได้

            การยอมรับความจริงนี้ไม่ได้หมายถึงแค่การยอมรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณงามความดีและความรักของพระเจ้าเท่านั้น แต่เป็นการยอมรับความจริงที่ว่า เรามนุษย์นั้นจะต้องตอบสนองต่อความดีและความรักที่พระเจ้ามีต่อเราอย่างเหลือล้น และสิ่งที่พระองค์ทรงเรียกร้องเรานั้นก็คือ การยอมรับพระองค์ที่ไม่ใช่แค่การยอมรับด้วยปากหรือคำพูดเท่านั้น แต่เป็น “การเปลี่ยนแปลง” ชีวิตของตนเองเลยทีเดียว เป็นการเปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรมของตนเอง เมื่อความจริงที่เราต้องเผชิญนั้นเป็นความอ่อนแอของเรา เป็นความล้มเหลวของเรา เป็นความบกพร่องของเรา เป็นนิสัยที่ไม่ดีของเรา เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้ใครมาแตะต้องเรา ฯลฯ ที่สุด สิ่งที่เรากลัว หรือทำให้เราไม่ยอมรับความจริงหรือความดี คือ เรากลัวที่จะต้อง “เปลี่ยนแปลง” ตนเองนั้นเอง(เหมือนผู้ปกครอบที่ไม่ยอมรับว่าลูกของตนประพฤติผิด)

พระวาจาของพระเจ้าประจำสัปดาห์นี้ พระเยซูเจ้าทรงสอนเราเป็นเรื่องเปรียบเทียบดังนี้
             “ท่านทั้งหลาย จงฟังอุปมาอีกเรื่องหนึ่งเถิด คหบดีผู้หนึ่งปลูกองุ่นไว้สวนหนึ่ง ทำรั้วล้อม ขุดบ่อย่ำองุ่น สร้างหอเฝ้า ให้ชาวสวนเช่า แล้วก็ออกเดินทางไปต่างเมือง เมื่อใกล้ถึงฤดูเก็บผล เจ้าของสวนจึงให้ผู้รับใช้ไปพบคนเช่าสวนเพื่อรับส่วนแบ่งจากผลผลิต แต่คนเช่าสวนได้จับคนใช้ ทุบตีคนหนึ่ง ฆ่าอีกคนหนึ่ง เอาหินทุ่มอีกคนหนึ่ง เจ้าของสวนจึงส่งผู้รับใช้จำนวนมากกว่าพวกแรกไปอีก คนเช่าสวนก็ทำกับพวกนี้เช่นเดียวกัน ในที่สุด เจ้าของสวนได้ส่งบุตรชายของตนไปพบคนเช่าสวน คิดว่า ‘คนเช่าสวนคงจะเกรงใจลูกของเราบ้าง’ แต่เมื่อคนเช่าสวนเห็นบุตรเจ้าของสวนมา ก็พูดกันว่า ‘คนนี้เป็นทายาท เราจงฆ่าเขาเสียเถิด เราจะได้มรดกของเขา’ “เขาจึงจับบุตรเจ้าของสวน นำตัวออกไปนอกสวนแล้วฆ่าเสีย ดังนี้ เมื่อเจ้าของสวนมา เขาจะทำอย่างไรกับคนเช่าสวนพวกนั้น” บรรดาผู้ฟังตอบว่า “เจ้าของสวนจะกำจัดพวกใจอำมหิตนี้อย่างโหดเหี้ยม และจะยกสวนให้คนอื่นเช่า ซึ่งจะแบ่งผลคืนให้เขาตามกำหนดเวลา”  (มัทธิว 21:33-43)

             เราทราบดีว่า เจ้าของสวนคือพระบิดา บุตรของเจ้าของสวนคือพระเยซู สวนองุ่นคืออาณาจักรพระเจ้า แล้วคนเช่าสวนหมายถึงใคร ใครคือคนที่ไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า ใครคือผู้ปฏิเสธความจริง ใครคือผู้ปฏิเสธพระเยซูเจ้า ใครที่ทำร้ายพระเยซูเจ้า

             เราอาจจะตอบว่า ก็คือคนที่ไม่มีศาสนา คนที่ไม่มีความเชื่อ แต่เมื่อเราอ่านพระวาจาของพระเจ้าแล้ว เราจะเห็นว่าพระเยซูเจ้าทรงเล่าเรื่องนี้ให้บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนฟัง บุคคลทั้งสองกลุ่มนี้ถือว่าตนเองเป็นพวกที่มีความรู้ทางเรื่องศาสนาดี เป็นคนเคร่งครัดในสายตาของคนอื่นๆ ดังนั้นพระเยซูเจ้าไม่ได้สอนบรรดาคนที่ไม่นับถือศาสนาหรือคนไม่เชื่อเรื่องศาสนา แต่พูดสอนกับคนที่ถือว่าตนเองรู้เรื่องศาสนาดีโดยตรงเลยทีเดียว

             ดังนั้นจุดนี้จึงเป็นประเด็นที่ให้เราต้องตั้งคำถามกับตนเอง ใครกันแน่ที่ปฏิเสธพระเยซูเจ้า ใครกันแค่ที่ลงโทษพระเยซูเจ้า ความศรัทธาที่แท้จริงอยู่ทีไหน เป็นแค่เรื่องการยอมรับภายนอกหรือการยอมรับที่ออกมาจากหัวใจ

           คำสอนของพระเยซูเจ้าเป็นสิ่งที่ท้าทายเราอย่างมากทีเดียว และบางครั้งสำหรับบางคนเป็นเรื่องที่น่ากลัวด้วยซ้ำไป เพราะการฟังหรือการยอมรับพระเยซูเจ้านั้นหมายถึงการนำเอาคำสั่งสอนที่เราฟังและเชื่อนั้นไปปฏิบัติจริงในชีวิต เราคงจำคำสอนเด่นๆของพระเยซูเจ้าที่ว่า เช่น ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเรา ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้เช่นเดียวกัน - ถ้าท่านให้อภัยผู้ทำความผิด พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ ก็จะประทานอภัยแก่ท่านด้วย - แต่ถ้าท่านไม่ให้อภัยผู้ทำความผิด พระบิดาของท่านก็จะไม่ประทานอภัยแก่ท่านเช่นเดียวกัน” - ถ้าพี่น้องของท่านทำผิดจงไปตักเตือนเขาตามลำพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา – เราต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์ ฯลฯ

               ตัวอย่างคำสอนของพระเยซูเจ้าที่ยกขึ้นมานี้ ถ้าเราบอกกับตนเองว่า “รู้แล้ว” แล้วก็ทำเฉย นี้ก็แสดงว่าเรายอมรับแต่เพียงภายนอกเท่านั้น เราทำท่าเหมือนกับว่ายอมรับพระเยซูเจ้า แต่แท้จริงเราเป็นผู้ที่  “ปฏิเสธ” พระเยซูเจ้านั้นเอง มิใช่ใครที่ไหน

               แต่ถ้าเรายอมรับแบกกางเขน คือ ภาระหน้าที่ของตนเอง ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความไม่สะดวกสบาย ความไม่ได้อะไรตามใจของเราบ้าง ถ้าเราให้อภัยแก่คนที่ทำความผิดกับเรา ถ้าเราตักเตือนพี่น้องที่ทำความผิดให้กลับมาในทางที่ถูกต้อง ถ้าเราเชื่อฟังพระเจ้า ฯลฯ นี้แหละแสดงว่าเรายอมรับและศรัทธาต่อพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริง
เรามีโอกาสได้รับฟังพระวาจาของพระเจ้าทุกวันอาทิตย์ แต่เรามักจะคิดว่าพระวาจาตอนนี้หรือตอนนั้นเหมาะกับคนๆโน้นคนๆนี้ โดยลืมไปว่าพระวาจาของพระเจ้ามุ่งตรงมายังตัวของเราเอง ไม่ใช่ใครเลย เราต้องนำพระวาจาของพระเจ้าไปปฏิบัติจริงๆ มิใช่บอกให้คนอื่นไปปฏิบัติ

           ความจริงหรือคำสอนอาจจะทำให้เราเจ็บปวด แต่การยอมรับความจริงจะช่วยทำให้เราเป็นคนที่สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น คำสอนของพระเจ้าทำให้เราหลุดพ้นจากความแก่ตัวและมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความรักเยี่ยงพระเยซูเจ้า อย่าแปลกใจหรือเที่ยวมองหาว่าใครปฏิเสธหรือไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า จนลืมมองมาที่ตนเอง

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

นักศึกษาศูนย์คำสอนเชียงใหม่ มาศึกษาดูงาน
🎊ภราดาสารพัน แคเซอ ผู้รับผิดชอบศูนย์คำสอนเชียงใหม่ ได้นำนักศึกษา จำนวน 8 คน ผู้ดูแล 1 คน...
ชุมนุมและฟื้นฟูจิตใจคริสตชนใหม่ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 3
👟"การจาริกแห่งความหวัง"ชุมนุมและฟื้นฟูจิตใจคริสตชนใหม่ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 3❤️วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ศูนย์คริสตศาสนธรรม ราชบุรี...
การจาริกแห่งความหวัง การเดินทางแสวงบุญและทำกิจเมตตาผู้เรียนคำสอนรุ่นที่ 8/2024
💜การจาริกแห่งความหวัง การเดินทางแสวงบุญและทำกิจเมตตาผู้เรียนคำสอนรุ่นที่ 8/2024 ของอาสนวิหารแม่พระบังเกิด วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2025 💜การจาริกแสวงบุญครั้งนี้มีจุดปนะสงค์เพื่อเตรียมตัวรับศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นชีวิตคริสตชน โดยมีผู้ร่วมจาริกแสวงบุญครั้งนี้...

Youcat-คำสอนเยาวชน

Youcat 96 ทำไมผู้ชายรักสันติเช่นพระเยซูเจ้า จึงถูกกล่าวโทษให้ตายบนไม้กางเขน ?
📍 ทำไมผู้ชายรักสันติเช่นพระเยซูเจ้า จึงถูกกล่าวโทษให้ตายบนไม้กางเขน ?📒พระเยซูเจ้าได้ตั้งคำถามกับคนในสมัยของพระองค์ว่าพระองค์ทรงปฏิบัติตนแบบผู้ที่ได้รับอำนาจจากสวรรค์ หรือว่าพระองค์ทรงเป็นคนหลอกลวง...
Youcat 5 ทำไมมนุษย์จึงปฏิเสธว่าพระเจ้ามีอยู่จริง หากพวกเขาสามารถรู้จักพระองค์ด้วยเหตุผล ?
💜ทำไมมนุษย์จึงปฏิเสธว่าพระเจ้ามีอยู่จริง หากพวกเขาสามารถรู้จักพระองค์ด้วยเหตุผล ? YOUCAT 5...
Youcat 235 เราไปสารภาพบาปได้หรือไม่ แม้มิได้กระทำบาปหนัก ?
📍เราไปสารภาพบาปได้หรือไม่ แม้มิได้กระทำบาปหนัก ?#YOUCAT 235 บอกเราว่า..☂การสารภาพบาปเป็นพระพรอันยิ่งใหญ่แห่งการเยียวยารักษา...

พระวาจานำชีวิต

มอบตนแด่พระเจ้าโดยสิ้นเชิง
พระเยซูเจ้าเป็นต้นแบบแก่เราในการมอบตนแด่พระเจ้าโดยสิ้นเชิง ในเหตุการณ์การเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าในอาทิตย์ใบลาน และจะเข้าสู่สัปดาห์แห่งพระมหาทรมานของพระองค์ ขอพระวาจาพระเจ้าช่วยเราให้มอบตนแด่พระเจ้าเช่นกัน จงวางอาวุธเถิด...
เอาชนะความโกรธและความเคียดแค้นใจ
พระวาจาพระเจ้าที่ให้แนวทางแก่เรา เพื่อช่วยเราเอาชนะความโกรธและความเคียดแค้นใจ แม้จะวุ่นวายใจ ก็จงอย่าทำบาป จงคิดคำนึงขณะที่นอนบนเตียงอย่างเงียบ...
พระเจ้าทรงอดทนและรอคอยเรา
พระเจ้าทรงอดทน รอคอยให้ชีวิตเราเกิดผลในฐานะคนของพระคริสต์ ให้พระวาจาพระเจ้ามาเปลี่ยนแปลงเราให้เกิดผลดีเหมาะสมกับที่พระเจ้ารอคอยเรา อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย...

คู่มือแนะแนวการสอนคำสอน ค.ศ.2020

DC222 เป็นการเหมาะสมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสถานที่โดยเฉพาะสำหรับการสอนคำสอนในฐานะเครื่องมือการประกาศและการศึกษาในความสัมพันธ์ของมนุษย์
พื้นที่สำหรับการสอนคำสอน เป็นที่ที่จัดให้ชุมชนแสดงออกถึงวิธีการประกาศข่าวดีของตนในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมในปัจจุบัน เป็นการเหมาะสมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสถานที่โดยเฉพาะสำหรับการสอนคำสอนในฐานะเครื่องมือการประกาศและการศึกษาในความสัมพันธ์ของมนุษย์ ดังนั้น จึงจำเป็นที่สภาพแวดล้อมดังกล่าวจะได้รับการต้อนรับและได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อสื่อถึงบรรยากาศแห่งความคุ้นเคยที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างสงบในกิจกรรมของชุมชนสภาพแวดล้อมที่แพร่หลายมากที่มีลวดลายหลังจากอาคารเรียนไม่ได้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเผยแพร่กิจกรรมทางคำสอน...
DC220  การปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างผู้คนทำให้กลุ่มเป็นสถานที่ที่มีการแลกเปลี่ยนและการสื่อสารที่ลึกซึ้งเบ่งบาน
การปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างผู้คนทำให้กลุ่มเป็นสถานที่ที่มีการแลกเปลี่ยนและการสื่อสารที่ลึกซึ้งเบ่งบานเมื่อสิ่งนี้เข้มข้นและมีประสิทธิภาพกลุ่มจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุดในการสนับสนุนการเติบโตของสมาชิกของตน ในความเป็นจริงของพระศาสนจักรกลุ่มได้รับการทำให้มีชีวิตชีวาโดยพระจิตเจ้าผู้สร้างสรรค์แท้จริงของความก้าวหน้าในความเชื่อทั้งหมด อย่างไรก็ตามการเปิดกว้างต่อพระหรรษทานนี้ไม่สามารถลดทอนการฝึกฝนในการเรียนการสอนได้ซึ่งมองว่ากลุ่มในฐานะความจริงทางสังคมประกอบด้วยพลังและกฎแห่งการเติบโตของตนเอง ความสามารถในการมีส่วนร่วมเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ สามารถเป็นวิธีการที่ถูกต้องเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกของเอกลักษณ์และความเป็นสมาชิกเพื่ออำนวยความสะดวกในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของสมาชิกแต่ละคนส่งเสริมกระบวนการของการทำให้เกิดความเชื่อภายในและจัดการกับความตึงเครียดระหว่างบุคคลในเชิงบวก...

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหา Update ล่าสุด

เนื้อหาและบทเรียน

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก(CCC)

สารคำสอน 182 (ปีการศึกษา2023)

สารคำสอน 182 (ปีการศึกษา2023)

เรียนคำสอนกับพ่อวัชศิลป์

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์

สถิติการเยี่ยมชม

0.png4.png8.png5.png4.png3.png5.png
วันนี้2793
เมื่อวานนี้5591
สัปดาห์นี้8385
เดือนนี้81887
ทั้งหมด485435

ขณะนี้มีผู้เยี่ยมชม

9
Online

วันอังคาร, 29 เมษายน 2568 14:27