ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

ccpcommandment07.jpgบทที่ 16 อย่าลักขโมย
จุดมุ่งหมาย
เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจเรื่องสิทธิและหน้าที่ขั้นพื้นฐานของมนุษย์ รู้จักเคารพสิทธิ ในทรัพย์สินของผู้อื่น และรู้จักหน้าที่ที่จะต้องแบ่งปันทรัพย์สินของตนแก่ผู้ที่ขัดสนต้องการด้วย

ขั้นที่  1  กิจกรรม
ครูเล่าเรื่องต่อไปนี้ให้ฟัง
 ปกติธรรมดาพ่อแม่มักรักลูก แต่ต้องรักอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่รักจนหลง  ลูกทำอะไรดูดีไปเสียทั้งหมด ลูกก็จะเสียคนง่าย  หรือเข้มงวดนัก  ลูกก็ประสาทกิน  ควรเดินสายกลางเป็นดีที่สุด  ที่พูดเช่นนี้เพราะไม่อยากให้พ่อแม่แต่ละคนต้องเสียลูกสุดทีรักไปโดยไม่ตั้งใจ

 ขอยกตัวอย่าง ป่อง (นามสมมุติ)  เป็นลูกชายคนเล็กที่ฉลาด  เรียนหนังสือเก่ง  และมีหัวทาอิเล็กทรอนิกส์  ป่องจะเก่งมาก เป็นความเก่งตามธรรมชาติโดยไม่ต้องเรียนด้วยซ้ำไป
 ป่องสามารถเปิดตู้เซฟทุกชนิดได้  แม้กระทั่งรถคันไหนถูกถอดชิ้นส่วน  หรือไม่มีกุญแจ ป่องสามารถขับรถคันนั้นออกไปได้  ทั้ง ๆ ที่ป่องอายุแค่ 13 ขวบ  แม่และพี่ ๆ รักและเอ็นดูป่องมาก มีหลายครั้งที่ป่องแอบหยิบเงินแม่และพี่โดยไม่รู้ตัว  แม่และพี่ก็ขำ……..มีการต่อว่ากันพอเหม็นปากเหม็นคอกันนิดหน่อย หลังจากนั้นก็รักกันเหมือนปาทองโก๋แบบเดิม ล่าสุดป่องเซ็นเช็คลายเซ็นเหมือนพ่อเปี๊ยบ  ไปเบิกเงินธนาคารไปใช้  ธนาคารเห็นเป็นลูกชายเลยจ่ายให้  ป่องเลยเอาเงินไปซื้อรถขับชนเล่นอย่างสบาย  ตอนหลังพ่อรู้ว่าป่องแอบปลอมลายเซ็น  พ่อเลยโกรธขาดใจ  ป่องจึงหนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนทีไม่เอาไหน  ในที่สุดป่องก็ถูกจับฐานเป็นขโมย พี่สาวจึงชวนผู้เขียนไปด้วย  ภาพที่เห็นก็คือถูกจับทั้งแก๊ง  มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่  และมีป่องเป็นเด็กเพียงคนเดียวในแก๊ง เล่นเอาพี่สาวสงสารเข้าไส้  แล้วหันมาบอกผู้เขียนว่า “ดูซิ  ผู้ใหญ่มันทำได้  ชักชวนเด็กให้เสียคน” ตำรวจกลับบอกว่า “ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนบอกว่าเด็กคนนี้เป็นหัวหน้าชักชวนให้เขาเป็นโจรจนหมดอนาคตต่างหากล่ะ”

          คำพังเพยโบราณจึงใช้กับกรณีนี้ไม่ได้  เพราะแทนที่จะเป็น  “คบเด็กสร้างบ้าน”  กลายเป็น  “คบเด็กเข้าคุก”  ไปเสียฉิบ   (โดย  สุพัตรา  สุภาพ  จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)

ขั้นที่ 2  กิจกรรม
ครูถามความรู้สึกของผู้เรียน
- รู้สึกอย่างไรเมื่อได้ฟังเรื่องนี้ ?
- ป่องเป็นคนอย่างไรในตอนแรก ?  ต่อมากลายเป็นคนอย่างไร ?
- อะไรเป็นสาเหตุให้ป่องเสียคน ?
      มีสองสิ่งที่เป็นจุดเด่นของเรื่องนี้คือ
- การขโมย  ซึ่งเริ่มตั้งแต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ จนกลายเป็นสิ่งใหญ่โตในภายหลัง
- การปล่อยปละละเลยของผู้ใหญ่โดยคิดว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย  ยิ่งกว่านั้นยังสนับสนุนกลาย ๆ  หรือให้ท้ายอีกด้วย

สรุป  “ใครที่ซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย  จะซื่อสัตย์ในสิ่งใหญ่โตด้วย  และใครที่ไม่ซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย  ก็จะไม่ซื่อสัตย์ในสิ่งใหญ่โตเช่นกัน”  (ลก 16,10)

ขั้นที่  3   คำสอน
1. มนุษย์ทุกคนมีสิทธิเหนือทรัพย์สิ่งของของตน  สิทธินี้เกิดมาจากธรรมชาติ  เพื่อให้มนุษย์สามารถมีสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตอยู่ได้  จึงไม่มีใครบังอาจล่วงละเมิดสิทธิประการนี้  พระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาก็ได้ประทานพระบัญญัติประการที่ 7  เพื่อคุ้มครองสิทธิของมนุษย์คือ  “อย่าลักขโมย”  การลักขโมยก็คือการยึดเอาทรัพย์สิ่งของของผู้อื่นมาเป็นของตน  โดยที่เจ้าของไม่ยินยอมเต็มใจ  ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม  ต่อไปนี้ก็อยู่ในข่ายลักขโมยทั้งสิ้น  เช่น  การไม่คืนสิ่งของที่ยืมมา  การเก็บสิ่งได้แล้วไม่คืนเจ้าของ  การฉ้อโกง  การไม่จ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างตามความยุติธรรม  การค้ากำไรเกินควร   การฉ้อราษฎร์บังหลวง  การเบียดบังเวลาทำงานไปทำอย่างอื่น  การเก็บภาษีดอกเบี้ยเกินควร  การปลอมแปลงเช็คตั๋วแลกเงิน  และเอกสารการเงินอื่น ๆ  การทำลายทรัพย์สินส่วนบุคคลและส่วนรวม ที่ว่าอยู่ในข่ายลักขโมยก็เพราะว่า  การกระทำดังกล่าวล้วนเป็นการล่วงละเมิดสิทธิของผู้คนไม่ว่าจะเป็นส่วนตัวหรือส่วนรวมก็ตาสม

2. ภายใต้พระบัญญัติประการที่ 7  ที่ห้ามการลวงละเมิดสิทธิของผู้อื่น  โดยการลักขโมยนี้  ยังกินความถึงการห้ามทำลายทรัพยากรในธรรมชาติด้วย  เช่น  สัตว์  ต้นไม้  อากาศ  น้ำ  สิ่งของอื่นๆ  ทั้งนี้ก็เพราะพระเจ้าทรงสร้างสิ่งเหล่านี้มาเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติโดยส่วนรวม  ไม่มีใครมีสิทธิที่จะยึดหรือกระทำต่อสิ่งเหล่านี้เพื่อประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว  โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายต่อผู้อื่น  หรือเหมือนกับว่าตนเป็นเจ้าของสิ่งเหล่านี้แต่เพียงผู้เดียว  ตัวอย่างเช่น  การทำลายป่า  ซึ่งส่งผลร้ายคือ  ทำให้เกิดความแห้งแล้ง  เพราะป่าเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำสายต่าง ๆ  ทั้งยังทำลายพงษ์พันธุ์สัตว์นานาชนิด  เพราะป่าเป็นที่พักพิงและเป็นแหล่งอาหารเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ให้ดำรงชีวิตอยู่ได้  พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ขึ้นมาเพื่อเป็นเพื่อนร่วมโลกกับมนุษย์  และเป็นประโยชน์ให้มนุษย์ได้ใช้สอยในการยังชีพ  มนุษย์สามารถใช้ประโยชน์จากสัตวได้  แต่มนุษย์ไม่มีสิทธิที่จะทำลายสัตว์เหล่านั้น  นอกจากนั้นการทำให้เกิดมลภาวะทางน้ำก็ดี  ทางอากาศก็ดี  ล้วนเป็นการลาวงละเมิดสิทธิของส่วนรวมทั้งนั้น

3. เพียงแต่ไม่ลักขโมย  คือไม่ล่วงละเมิดสิทธิในทรัพย์สิ่งของของผู้อื่น  หรือของส่วนรวม  ยังไม่พอ  พระบัญญัติประการที่ 7  ยังสั่งให้เราแบ่งปันทรัพย์สิ่งของที่เรามีแก่ผู้ที่ต้องการและขัดสนด้วย  สังคายนาวาติกันที่ 2  กล่าวกำชับไว้ว่า  “มนุษย์จะต้องเอาใจใส่ใช้สิ่งของที่ตนมีมิใช่เพื่อประโยชน์สุขของตนเพียงฝ่ายเดียว  แต่จะต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนอื่น ๆ ด้วย….เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับปัน  ส่วนทรัพย์สิ่งของของโลกนี้ตามควรแก่สถานะ  บรรดาปิตารย์และนักปราชญ์ของพระศาสนจักรจึงยืนยันเป็นเสียงเดียงกันว่า  มนุษย์มิใช่เพียงต้องแบ่งปันทรัพย์สิ่งของที่ตนมีอย่างฟุ่มเฟือยให้แก่คนยากจนขัดสนเท่านั้น  แต่มีหน้าที่ต้องแบ่งปันแม้กระทั่งทรัพย์สิ่งของที่ตนจำเป็นต้องมีต้องใช้ให้แก่เขาอีกด้วย….”  จงเลี้ยงคนที่กำลังจะหิวตายเพราะถ้าท่านไม่เลี้ยงเขา  ก็เท่ากับท่านฆ่าเขา”  (พระสาสนจักรในโลกปัจจุบัน  ข้อ 69)

4. พระบัญญัติประการที่ 7 ยังสั่งให้ซื่อสัตย์ต่อสัญญา  ข้อตกลงเกี่ยวกับการซื้อขาย เช่า จ้าง แลกเปลี่ยน  หนี้สิน  เพราะการไม่ซื่อสัตย์  คือไม่ถือตามสัญญาหรือข้อตกลงนั้นจะก่อให้เกิดผลเสียหายต่อสิทธิอันพึงมีของคู่กรณี  ในกรณีที่มีการบิดพลิ้วไม่ซื่อสัตย์ฝ่ายที่ผิดสัญญาหรือข้อตกลงมีหน้าที่ที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอยางไม่มีทางหลีกเลี่ยง  ศักเคียสกล่าวกับพระเยซูคริสต์อย่างกล้าหาญว่า  “ข้าพเจ้าขอยกทรัพย์สิ่งของของข้าพเจ้าครึ่งหนึ่งให้แก่คนยากจน  และหากข้าพเจ้าได้ฉ้อโกงใครเขามา  ข้าพเจ้าจะชดใช้ให้สี่เท่า”  และพระเยซูคริสต์ก็ตรัสว่า  “วันนี้ความรอดมาถึงบ้านนี้แล้ว….”  (ลก 19, 8-9)

ขั้นที่  4  ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ
1. อย่าลักขโมย
2. “ใครที่ซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย  จะซื่อสัตย์ในสิ่งใหญ่โตด้วย  และใครที่ไม่ซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย  ก็จะไม่ซื่อสัตย์ในสิ่งใหญ่โตเช่นกัน”  (ลก  16,10)
3. พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมา  และประทานสิทธิแก่มนุษย์ที่จะมีทรัพย์สิ่งของที่จำเป็น  หรือเป็นประโยชน์แก่การดำรงชีวิตเป็นของตนเอง  ซึ่งใครจะล่วงละเมิดมิได้
4. ทรัพยากรธรรมชาติเป็นของส่วนรวม  ใครทำลายทรัพยากรธรรมชาติก็ล่วงละเมิดสิทธิของส่วนรวม
5. มนุษย์มิใช่เพียงต้องแบ่งปันทรัพย์สิ่งของที่ตนมีอย่างฟุ่มเหือยให้แก่คนยากจนขัดสนเท่านั้น  แต่มีหน้าที่ต้องแบ่งปันแม้กระทั่งทรัพย์สิ่งของตนที่จำเป็นต้องมีต้องใช้ให้แก่เขาอีกด้วย

ข.  กิจกรรม   
ประดิษฐ์อักษร  “ซื่อกินไม่หมด   คดกินไม่นาน”  ลงในกรอบ  ตกแต่งระบายสีให้สวยงาม  เสร็จแล้วนำมาติดแสดงหน้าชั้น

ร้องเพลงพร้อมท่าทางประกอบ
   
ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์เป็นสมบัติของผู้ดี  หากว่าใครไม่มี 
ชาตินี้เอาดีไม่ได้  มีความรู้ท่วมหัว  เอาตัวไม่รอดถมไป 
คดโกงแล้ว   ใครจะรับไว้ให้ร่วมการงาน 

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

ชุมนุมและฟื้นฟูจิตใจคริสตชนใหม่ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 3
👟"การจาริกแห่งความหวัง"ชุมนุมและฟื้นฟูจิตใจคริสตชนใหม่ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 3❤️วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ศูนย์คริสตศาสนธรรม ราชบุรี...
พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์และปิดการอบรมค่ายคำสอนภาคฤดูร้อน ปี 2025
วันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2025 เวลา 09.30 น. พระคุณเจ้าซิสวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี...
วันชุมนุมครูคำสอน สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 31 “ครูคำสอน ผู้จาริกแห่งความหวัง”
🎉วันชุมนุมครูคำสอน สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 31🌈“ครูคำสอน ผู้จาริกแห่งความหวัง” วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2024 ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี...

Youcat-คำสอนเยาวชน

Youcat 115 เครื่องหมายและชื่อของพระจิตเจ้ามีอะไรบ้าง ?
เครื่องหมายและชื่อของพระจิตเจ้ามีอะไรบ้าง ? #YOUCAT 115 บอกเราว่า......
Youcat 475 พระเยซูเจ้าทรงภาวนาอย่างไร ?
พระเยซูเจ้าทรงภาวนาอย่างไร ? #YOUCAT 475 บอกเราว่า...
Youcat 169 เกิดอะไรขึ้นกับเราเมื่อเราเฉลิมฉลองพิธีกรรม ?
เกิดอะไรขึ้นกับเราเมื่อเราเฉลิมฉลองพิธีกรรม ? เมื่อเราเฉลิมฉลองพิธีกรรม เรานำตัวเราเข้าสู่ความรักของพระเจ้าซึ่งรักษาและเปลี่ยนแปลงเรา จุดประสงค์หนึ่งเดียวของพิธีกรรมในพระศาสนจักรและศีลศักดิ์สิทธิ์ทุกประการ...

พระวาจานำชีวิต

ดำเนินชีวิตในพระจิตเจ้า
ชีวิตของผู้ที่มีพระจิตเจ้าประทับอยู่ จะเกิดผลเป็นความดี ขอพระวาจาพระเจ้าเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตในพระองค์ คนชั่วย่อมติดกับดักอยู่ในความชั่วของตน แต่ผู้ชอบธรรมย่อมร่าเริงและยินดี...
ให้ชีวิตเป็นพระพรแก่กันและกัน
ขอพระวาจาพระเจ้านำชีวิตเราให้เป็นพรเพื่อกันและกันในทุกวัน ดั่งเช่นพระนางมารีย์ที่นำพระพรไปสู่นางเอลีซาเบธในวันนี้ ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพรท่านและพิทักษ์รักษาท่าน ขอพระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระพักตร์แจ่มใสต่อท่านและโปรดปรานท่าน (กดว....
เร็วที่จะรับฟัง ช้าเมื่อจะต้องพูด
เราอยู่ในยุคที่มีแต่คนอยากพูด แต่ไม่ค่อยมีใครรับฟังกันและกัน ขอให้พระวาจาช่วยเตือนใจเราให้ “เร็วที่จะรับฟัง แต่ช้าเมื่อจะต้องพูด”...

คู่มือแนะแนวการสอนคำสอน ค.ศ.2020

DC224 ทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปได้รับเรียกให้มีวุฒิภาวะทางความเชื่อ มีสิทธิที่จะได้รับการสอนคำสอนอย่างเหมาะสม
ทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปได้รับเรียกให้มีวุฒิภาวะทางความเชื่อ มีสิทธิที่จะได้รับการสอนคำสอนอย่างเหมาะสม ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของพระศาสนจักรที่ต้องตอบสนองต่อสิ่งนี้ในลักษณะที่น่าพอใจ พระวรสารไม่ได้มีไว้สำหรับมนุษยชาติในแบบนามธรรม...
DC223 ควรให้กำลังใจแก่ความพยายามในการสอนคำสอนในสถานที่ต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม เป็นความจริงที่พลังของพระศาสนจักรที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นโดยอาศัยการสอนคำสอน ก็มีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ด้วยเช่นกัน ควรให้กำลังใจแก่ความพยายามในการสอนคำสอนในสถานที่ต่าง...
DC222 เป็นการเหมาะสมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสถานที่โดยเฉพาะสำหรับการสอนคำสอนในฐานะเครื่องมือการประกาศและการศึกษาในความสัมพันธ์ของมนุษย์
พื้นที่สำหรับการสอนคำสอน เป็นที่ที่จัดให้ชุมชนแสดงออกถึงวิธีการประกาศข่าวดีของตนในบริบททางสังคมและวัฒนธรรมในปัจจุบัน เป็นการเหมาะสมที่จะสะท้อนให้เห็นถึงสถานที่โดยเฉพาะสำหรับการสอนคำสอนในฐานะเครื่องมือการประกาศและการศึกษาในความสัมพันธ์ของมนุษย์ ดังนั้น จึงจำเป็นที่สภาพแวดล้อมดังกล่าวจะได้รับการต้อนรับและได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อสื่อถึงบรรยากาศแห่งความคุ้นเคยที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างสงบในกิจกรรมของชุมชนสภาพแวดล้อมที่แพร่หลายมากที่มีลวดลายหลังจากอาคารเรียนไม่ได้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการเผยแพร่กิจกรรมทางคำสอน...

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก(CCC)

สารคำสอน 182 (ปีการศึกษา2023)

สารคำสอน 182 (ปีการศึกษา2023)

เรียนคำสอนกับพ่อวัชศิลป์

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์

สถิติการเยี่ยมชม

0.png6.png1.png1.png9.png2.png7.png
วันนี้2109
เมื่อวานนี้2355
สัปดาห์นี้9369
เดือนนี้35912
ทั้งหมด611927

ขณะนี้มีผู้เยี่ยมชม

10
Online

วันพฤหัสบดี, 12 มิถุนายน 2568 20:34