ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

บุคคลในประวัติศาสตร์ความรอด บทเรียนที่ 1 อาดัมและเอวา

บุคคลในประวัติศาสตร์ความรอด บทเรียนที่ 1
อาดัมและเอวา : เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
      1. เรียนรู้ชีวิตของอาดัมและเอวา มนุษย์คู่แรกซึ่งเป็นสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงรักมากที่สุด
      2. ตระหนักว่าชีวิตของเราเป็นสิ่งสร้างที่เป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้า
      3. เลือกที่จะปฏิเสธสิ่งที่ไม่ถูกต้องและเลือกที่จะฟังเสียงของพระเจ้าในการดำเนินชีวิตเสมอ

 

กิจกรรม  ผู้สอนเล่าเรื่อง “โต้ง” ให้ผู้เรียนฟัง           

          “โต้ง” เป็นเด็กซนมาก ความซนทำให้เขาคิดแต่เรื่องสนุก ไม่เชื่อคำตักเตือนของพ่อแม่ ซนถึงขนาดเคยเอาฝาขวดน้ำอัดลมไปวางไว้บนรางรถไฟเพื่อให้รถไฟที่กำลังแล่นอยู่ตรงหน้าทับฝานั้น แต่มันรุนแรงกว่าที่คิด เพราะฝาขวดกระเด็นมาโดนนิ้วก้อยมือขวาของเขา ความแรงทำให้มันฝังอยู่บนมือและต้องถูกตัดนิ้วก้อยด้านขวาทิ้งในเวลาต่อมาเนื่องจากติดเชื้อ

          เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น “โต้ง” ไม่ชอบไปโรงเรียน และยังใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยไปกับการแต่งรถมอเตอร์ไซด์แม้ฐานะทางบ้านไม่ได้ยากจนแต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้า แถมเขายังหัวดื้อ ไม่เชื่อฟังคำตักเตือนและคำห้ามปรามของพ่อแม่และผู้ใหญ่แถวบ้าน ทั้งเรื่องสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และชอบออกไปซิ่งรถมอเตอร์ไซด์ในตอนกลางคืนกับเพื่อน ๆ เป็นประจำ จนครั้งหนึ่งเกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์เกี่ยวกันล้ม ได้รับบาดเจ็บต้องนอนพักอยู่หลายสัปดาห์ แต่โชคดีที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ครั้งนั้นโต้งตั้งใจว่าจะเลิกการกระทำต่าง ๆ เหล่านี้ เพราะเห็นพ่อแม่ต้องมาเสียใจ เสียเวลาและขาดรายได้จากการหยุดงานเพราะต้องมาดูแลเขา แต่เมื่อ “โต้ง” หายดีเขาก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม เข้ากลุ่มกับเด็กแถวบ้าน สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และแข่งมอเตอร์ไซค์กัน แต่ครั้งนี้โชคไม่เข้าข้าง มอเตอร์ไซค์ของ “โต้ง” เกิดอุบัติเหตุ ร่างของเขาไปกระแทกกับเสาไฟฟ้า ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องตัดขาทั้งสองข้างทิ้ง ในวันต่อมา “โต้ง” ถึงแก่ความตายเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ส่วนเพื่อนของโต้งที่นั่งไปด้วยกันก็พิการต้องนอนติดเตียงตลอดชีวิต เป็นเรื่องเตือนใจว่าไม่ควรลองหรือท้าทายกับเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่าอันตราย และความดื้อดึงที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำเตือนของผู้ใหญ่ ผลเสียที่ได้รับอาจรุนแรงจนนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและส่งผลกระทบต่อคนใกล้ตัวอีกด้วย


 วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
              1. ตัวละครในเรื่องเล่านี้มีใครบ้าง (โต้ง, พ่อแม่, ผู้ใหญ่, เพื่อน ๆ)
              2. ผู้เรียนคิดว่า โต้ง มีนิสัยอย่างไร (ซน, ดื้อ, ไม่เชื่อฟังคำตักเตือน, เอาแต่ใจตนเอง)
              3. ตอนเด็ก ๆ โต้งทำอะไรถึงได้รับบาดเจ็บ (เอาฝาขวดน้ำอัดลมวางไว้บนรางรถไฟเพื่อให้รถไฟที่กำลังแล่นอยู่ทับ แต่ฝาขวดกลับกระเด็นมาโดนนิ้วก้อยมือขวา)
              4. เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นโต้งดำเนินชีวิตอย่างไร (เป็นวัยรุ่นที่คึกคะนอง, ไม่ชอบไปโรงเรียน, สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ซิ่งรถมอเตอร์ไซค์)
              5. ทำไมโต้งถึงเสียชีวิต (เพราะไม่เชื่อฟังที่พ่อแม่และผู้ใหญ่เตือนไม่ให้สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า แข่งรถ แต่เขาก็ยังทำจนเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทำให้เขาต้องตัดขา และที่สุดทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิต)
              6. ผู้เรียนคิดว่าผลจากการกระทำของโต้ง ส่งผลกระทบต่อใครบ้าง (พ่อแม่และญาติพี่น้องต้องเสียใจที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก, เพื่อน ที่ต้องนอนติดเตียงเนื่องจากพิการตลอดชีวิต)

 

            สรุป  การไม่เชื่อฟังพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่คอยตักเตือนเมื่อเรากำลังทำสิ่งที่ผิด ส่งผลให้เกิดการสูญเสียตามมาทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น นำความเสียใจมาสู่พ่อแม่และบุคคลที่รักเรา ยิ่งกับพระเจ้าด้วยแล้วเรายิ่งต้องเชื่อฟังพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่งต่าง ๆ เพื่อเรา และที่สำคัญพระองค์ทรงสร้างเรามาด้วยความรักและพระองค์ทรงรักเรา

 

คำสอน                                         

           1. กฎระเบียบและข้อบังคับมีไว้เพื่อการอยู่ร่วมกัน ตั้งแต่ระดับเล็กคือครอบครัว ไปจนถึงกฎระเบียบในโรงเรียนมหาวิทยาลัย ในบริษัท ทุกองค์กร และในสังคมที่ใหญ่ขึ้นก็ยิ่งต้องมีกฎหมายมาควบคุม เพื่อความสงบสุข ไม่วุ่นวาย โดยเฉพาะกฎหมายจราจรบนท้องถนนก็เพื่อควบคุมการขับขี่ยานพาหนะ ให้ระมัดระวัง มีสติ รอบคอบแต่แทบจะทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นสูญเสียชีวิต เป็นเพราะบางคนฝ่าฝืนกฎ เช่น ฝ่าสัญญาณไฟแดง ขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนด กลับรถในที่ห้ามกลับรถ เมาแล้วขับ ฯลฯ แม้จะมีกฎหมายควบคุมบังคับใช้ แต่ก็มีคนที่ไม่เชื่อฟัง ไม่ทำตาม ส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียตามมา ซึ่งไม่ใช่แค่ทรัพย์สินเท่านั้น บางรายถึงแก่ชีวิตเหมือนเรื่องของ “โต้ง” ที่ได้ฟังไปแล้ว และแน่นอนว่ามันส่งผลกระทบมิใช่แค่ตัวผู้ก่อเหตุ แต่ไปถึงครอบครัวบรรดาญาติพี่น้องของคู่กรณี และหากถึงขั้นเสียชีวิต ผลที่ตามมาของผู้ที่ทำผิดกฎก็ต้องได้รับโทษ หมดอิสรภาพบางรายอาจต้องตายตามกันไปเพียงเพราะการไม่เชื่อฟังและอยากจะทำตามใจตนเอง

 

          2. เมื่อพูดถึงการไม่เชื่อฟัง ในพระคัมภีร์ตั้งแต่ปฐมกาลก็ทำให้คิดถึงอาดัมและเอวา มนุษย์คู่แรกที่พระเจ้าทรงสร้างให้เป็นชายและหญิงตามภาพลักษณ์ของพระองค์ และเป็นสิ่งสร้างที่พระเจ้ารักที่สุด เราจดจำ และสามารถเล่าเรื่องของอาดัมและเอวาได้ นอกจากเรื่องการสร้างของพระเจ้า ทั้งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาในวันที่หกและทรงนำเขามาอยู่ในสวนเอเดน เพื่อเพาะปลูกและดูแลสวน

 

ทรงบัญชาให้กินผลไม้ทุกต้นในสวนได้ ยกเว้นต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว ที่กินเมื่อไรมนุษย์จะต้องตาย แต่ซาตานในคราบของ “งู” ก็มาล่อลวงหญิงนั้นให้กินผลไม้เพื่อจะเป็นเหมือนพระเจ้า ทั้งอาดัมและเอวาร่วมกันทำความผิดคือการไม่เชื่อฟังพระเจ้า หลังจากนั้นตาของเขาก็เปิดและเห็นว่าตนเองเปลือยกายอยู่ จึงเอาใบมะเดื่อมาเย็บเป็นเครื่องปกปิดร่างกายของตน (เทียบ ปฐก. 3:1-20) เมื่อพระเจ้าทรงทราบ พระองค์ทรงสาปแช่ง “งู” และกล่าวถึงความยากลำบากที่จะตามมาในชีวิตของมนุษย์ ซึ่งเป็นผลจากการไม่เชื่อฟังพระเจ้าจนกว่ามนุษย์จะกลับเป็นดินอีก เพราะมนุษย์ถูกปั้นมาจากดิน แต่พระเจ้ายังทรงเมตตามนุษย์เพราะความรักพระองค์ไม่ได้ทรงทำลาย แต่ทรงขับไล่ออกจากสวนเอเดน ให้มนุษย์หากินจากแผ่นดินด้วยความทุกข์ยากทุกวันตลอดชีวิต (เทียบ ปฐก. 3:14-24 )

 

           3. พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างมนุษย์ตามลักษณ์ของพระองค์ และทรงตั้งเขาให้เป็นมิตรกับพระองค์ มนุษย์ในฐานะสิ่งสร้างที่มีจิตวิญญาณ ย่อมดำเนินชีวิตในมิตรภาพนี้ไม่ได้ ถ้าเขาไม่สมัครใจยอมอ่อนน้อมเชื่อฟังพระเจ้าโดยอิสระเสรี การที่พระเจ้าห้ามมนุษย์มิให้กินผลไม้แห่งความรู้ดี-รู้ชั่ว แสดงถึงความจริงเรื่องนี้ “วันใดที่ท่านกินผลจากต้นนั้น ท่านจะต้องตาย” (ปฐก. 2:17) เป็นความตายจากชีวิตพระหรรษทานจากความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า “บาปกำเนิด” จึงถือกำเนิดขึ้น เมื่ออาดัมและเอวาเลือกที่จะไม่เชื่อฟังพระเจ้า หลังจากนั้นบาปก็เข้ามารุกรานทั่วโลกอย่างแท้จริง เริ่มจากกาอินฆ่าอาแบลน้องชาย (เทียบ ปฐก. 4:1-8) ความเสื่อมทรามทั่วโลกเป็นผลตามมาของบาป (CCC 401) ดังที่นักบุญเปาโลยืนยันไว้ว่า “บาปเข้ามาในโลกนี้เพราะมนุษย์คนเดียว และความตายเข้ามาเพราะบาปฉันใด ความตายก็แพร่กระจายไปถึงมนุษย์ทุกคนเพราะทุกคนทำบาปฉันนั้น...” (รม. 5:12)

 

           4. แต่พระเจ้าไม่ทรงละทิ้งมนุษย์ ตรงกันข้ามทรงเรียกเขาและแจ้งให้เขารู้ว่าจะมีชัยชนะเหนือความชั่ว และได้รับการยกขึ้นจากการตกในบาป ข้อความนี้ในหนังสือปฐมกาลได้ชื่อว่าเป็น “ข่าวดีประการแรก” เพราะเป็นการแจ้งข่าวครั้งแรกเรื่องพระเมสสิยาห์ เรื่องการต่อสู้ระหว่าง “งู” กับ “หญิง” และชัยชนะในที่สุดของเชื้อสายคนหนึ่งของหญิงผู้นี้ (CCC 411) เรื่องราวนี้มาปรากฏในพันธสัญญาใหม่ เมื่อกล่าวถึงสตรีผู้หนึ่งที่ปฏิสนธินิรมลหมายความว่าเกิดมาโดยไม่มีบาปกำเนิด ซึ่งก็คือพระนางมารีย์แต่ผู้เดียวเท่านั้น เพราะพระนางจะเป็นผู้ให้กำเนิดพระผู้ไถ่ ช่วยเราให้รอดพ้นจากอำนาจของบาป ทำให้ทุกคนกลับมารับความศักดิ์สิทธิ์ที่เสียไปกลับคืนมา (เทียบคาทอลิกสอนอะไร ข้อ 26)

 

           5. อุบัติเหตุอาจนำมาซึ่งความตายฝ่ายร่างกาย แต่หากเราไม่เชื่อฟังพระเจ้าและปล่อยตัวเองให้ตกในความบาปจะนำมาซึ่งความตายฝ่ายวิญญาณ ทำให้เราขาดออกจากพระเจ้า เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้วให้เราภาวนาวอนขอพละกำลังจากพระเจ้า ช่วยเราให้เอาชนะความโน้มเอียงในทางบาปทุกชนิด สวดภาวนา อ่านพระวาจาพระเจ้าและนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เลือกที่จะฟังเสียงของพระเจ้า และกล้าที่จะปฏิเสธเสียงของปีศาจที่มาล่อลวงเราให้ทำบาป และขอพระเจ้าช่วยเราให้ทำกิจการดีต่าง ๆ ในแต่ละวันด้วยความตั้งใจดีและไม่ท้อถอย

 

ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ         
         1. มนุษย์เป็นสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงรักมากที่สุด
         2. ซาตานในคราบของงู มาล่อลวงเอวาให้กินผลไม้ เพื่อจะเป็นเหมือนพระเจ้า
         3. วันใดที่ท่านกินผลจากต้นนั้น ท่านจะต้องตาย (ปฐก. 2:17) เป็นความตายจากชีวิตพระหรรษทาน จากความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้า
         4. “บาปกำเนิด” ถือกำเนิดขึ้น เมื่ออาดัมและเอวาเลือกที่จะไม่เชื่อฟังพระเจ้า มนุษย์จึงถูกขับไล่ออกจากสวนเอเดน ต้องหากินจากแผ่นดินด้วยความทุกข์ยากทุกวันตลอดชีวิต
         5. อุบัติเหตุอาจนำมาซึ่งความตายฝ่ายร่างกาย แต่หากเราไม่เชื่อฟังพระเจ้า และปล่อยตัวเองให้ตกในความบาปจะนำมาซึ่งความตายฝ่ายวิญญาณ ทำให้เราขาดออกจากพระเจ้า
         6. ให้เราภาวนาวอนขอพละกำลังจากพระเจ้า ช่วยเราให้เอาชนะความโน้มเอียงในทางบาปทุกชนิด สวดภาวนา อ่านพระวาจาพระเจ้าและนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

 

ข. กิจกรรม         ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน ทบทวนหลังบทเรียน

1. พระเจ้าสั่งอาดัมและเอวาเกี่ยวกับต้นไม้นั้นอย่างไร (บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนกินได้หมด ยกเว้นต้นเดียวคือต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว เพราะวันใดที่กินจะต้องตาย)
2. ใครมาล่อลวงเอวาและให้เอวาทำอะไร (ซาตานในคราบของงู ให้กินผลไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว)
3. เรื่องของ “อาดัมและเอวา” ต้องการสอนให้เห็นถึงคุณธรรมในเรื่องใดเป็นพิเศษ (การเชื่อฟัง)
4. หากผู้เรียนถูกชักชวนให้ทำสิ่งที่ผิดเช่นเดียวกับ “อาดัม” จะแก้ปัญหาด้วยวิธีการใด (ให้ผู้เรียนแต่ละคนได้แบ่งปันความคิด)คำถามเพิ่มเติม สำหรับเด็กโต ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ขึ้นไป หรือให้อยู่กับดุลยพินิจของผู้สอน
5. ผู้เรียนคิดว่า “งู” หมายถึงอะไรบ้างในยุคปัจจุบันที่สามารถล่อล่วงให้เราตกในบาป (ยาเสพติด, สื่อออนไลน์ที่ไม่ดี, การพนัน, เพื่อนไม่ดี, การแข่งรถมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ)
6. ผู้เรียนได้รับบทสอนหรือข้อคิดอะไรบ้างจากเรื่องราวของ “อาดัมและเอวา” (คำถามข้อ 5 และ 6 ขอให้ผู้สอนบันทึกคำตอบของเด็กลงกระดาษหรือบนกระดาน เพื่อสรุปในตอนท้ายคาบ)

 

***หรือ เด็กเล็ก ให้ระบายสีและตกแต่งภาพให้สวยงาม :::: Download ภาพระบายสี ::::

ค. การบ้าน              

1. อ่านใบความรู้เรื่องอาดัมและเอวา เพิ่มเติมท้ายบทเรียน
2. ให้ผู้เรียนจะได้เชื่อฟังพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ญาติพี่น้อง คุณครูและผู้ใหญ่ที่เตือนสอนเราเสมอ
3. หากวันนี้เรามีพฤติกรรมที่ดื้อ ไม่ฟัง หรือเถียงใคร ให้ผู้เรียนไปขอโทษและตั้งใจดีที่จะเชื่อฟังให้มากขึ้น       

 

::: Download  บทเรียนที่ 1 ::

อาดัมและเอวา

(ปฐมกาล บทที่ 1-3)

            ในปฐมกาล พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งสิ่งที่เห็นได้และไม่อาจแลเห็นได้ และในบรรดาสิ่งสร้างทั้งหลาย มนุษย์เป็นสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงรักมากที่สุดเพราะทรงสร้างตามภาพลักษณ์ของพระองค์ มนุษย์คนแรกที่พระเจ้าทรงสร้างคือ “อาดัม” และต่อมาพระเจ้าทรงสร้าง “เอวา” พระเจ้าทรงนำมนุษย์มาไว้ในสวนเอเดนเพื่อเพาะปลูกและดูแลสวน แล้วทรงบัญชามนุษย์นั้นว่า “ท่านจะกินผลไม้จากต้นไม้ทุกต้นในสวนได้ แต่อย่ากินจากต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว วันใดที่ท่านกินผลจากต้นนั้น ท่านจะต้องตาย”จนกระทั่งวันหนึ่ง “ซาตานที่มาในคราบของ งู” ได้เข้ามาล่อลวงและถามหญิงว่า “จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้ามว่า อย่ากินผลจากต้นไม้ใด ๆ ในสวนนี้” หญิงตอบงูว่า “ผลของต้นไม้ต่าง ๆ ในสวนนี้เรากินได้แต่ผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวนเท่านั้น พระเจ้าตรัสห้ามว่าอย่ากินหรือแตะต้องเลย มิฉะนั้นท่านจะต้องตาย” งูบอกกับหญิงว่า “ท่านจะไม่ตายดอก พระเจ้าทรงทราบว่า ท่านกินผลไม้นั้นวันใด ตาของท่านจะเปิดในวันนั้น ท่านจะเป็นเหมือนพระเจ้า คือรู้ดีรู้ชั่ว” หญิงเห็นว่าต้นไม้นั้นมีผลน่ากิน งดงามชวนมอง ทั้งยังน่าปรารถนาเพราะให้ปัญญา นางจึงเด็ดผลไม้มากินแล้วยังให้สามีซึ่งอยู่กับนางกินด้วย เขาก็กิน ทันใดนั้นตาของทั้งสองคนก็เปิดและเห็นว่าตนเปลือยกายอยู่ จึงเอาใบมะเดื่อมาเย็บเป็นเครื่องปกปิดร่างไว้


           อาดัม-เอวาเย็นวันนั้น เมื่อพระเจ้าเข้ามาในสวน อาดัมและเอวาได้ยินเสียงของพระเจ้า เขาทั้งสองจึงหลบไปซ่อนตัวในหมู่ต้นไม้ของสวน ด้วยเขาเกิดความรู้สึกผิด เมื่อพระเจ้าเรียกหาเขา “ท่านอยู่ไหน” มนุษย์ทูลตอบพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของพระองค์ในสวนก็กลัว เพราะข้าพเจ้าเปลือยกายอยู่ จึงได้ซ่อนตัว” พระเจ้าจึงตรัสถามว่า “ใครบอกท่านว่าท่านเปลือยกายอยู่ ท่านได้กินผลจากต้นไม้ที่เราห้ามมิให้กินนั้นหรือ” มนุษย์ทูลตอบว่า “หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กับข้าพเจ้า ได้ให้ผลจากต้นไม้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงกิน” พระเจ้าตรัสกับหญิงว่า “ท่านทำอะไรไป” หญิงทูลตอบว่า “งูหลอกลวงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงกิน”


           ดังนั้น พระเจ้าจึงลงโทษ ทรงสาปแช่ง “งู” มากกว่าสัตว์ตัวอื่น โดยให้มันเลื้อยด้วยท้องและจะกินฝุ่นดินเป็นอาหารตลอดชีวิต ยิ่งกว่านั้น พระเจ้าตรัสว่า “เราจะทำให้เจ้าและหญิงเป็นศัตรูกัน ให้ลูกหลานของเจ้าและลูกหลานของนางเป็นศัตรูกันด้วย เขาจะเหยียบหัวของเจ้า และเจ้าจะกัดส้นเท้าของเขา” ผู้หญิงจะมีความยากลำบากและเจ็บปวดในการตั้งท้องและคลอดลูกและผู้ชายจะปกครองตัวเธอ พระเจ้าตรัสกับมนุษย์ว่า “เพราะท่านได้ฟังเสียงของภรรยาและกินผลจากต้นไม้ที่เราห้ามมิให้กิน แผ่นดินจะถูกสาปแช่งเพราะท่าน ท่านจะต้องหากินจากแผ่นดินด้วยความทุกข์ยากทุกวันตลอดชีวิต แผ่นดินจะผลิตต้นหนามและกอหนาม และท่านจะกินพืชที่งอกในทุ่งนา ท่านจะมีอาหารกินก็ด้วยหยาดเหงื่อบนใบหน้า จนกว่าท่านจะกลับเป็นดินอีก เพราะท่านถูกปั้นมาจากดิน ท่านเป็นฝุ่นดิน และจะกลับไปเป็นฝุ่นดินอีก” พระเจ้าได้ทำเสื้อจากหนังสัตว์ให้อาดัมและเอวาสวมปกปิดร่างกายทรงขับไล่เขาออกจากสวนเอเดน พระเจ้าตั้งพวกทูตสวรรค์ถือดาบเพลิง เฝ้าทางที่จะไปยังต้นไม้แห่งชีวิต เกรงว่ามนุษย์จะไปหยิบผลไม้จากต้นไม้แห่งชีวิตมากินและจะมีอายุยืนชั่วนิรันดร์

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน