พระเยซูสไตล์เรา
ความสัมพันธ์ของเราต่อผู้อื่นนั้น เป็นเครื่องบ่งบอกถึงชีวิตการเป็นคริสตชนของเราแต่ละคน ความสัมพันธ์ที่ดีทั้งต่อผู้คนโดยทั่วไป หรือต่อคนใดคนหนึ่งนั้นเป็นกุญแจเพื่อไขไปสู่การถ่ายทอดพระวรสารสู่บุคคลเหล่านั้น
ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำ 10 ประการ...
1. จงเป็นตัวของตัวเอง
พระเยซูเจ้าเสด็จมาประทับในตัวเรา เพื่อเราจะได้เป็นบุคคลที่มีเอกลักษณ์ตามที่พระเจ้าได้ทรงสร้างเรามา อย่าพยายามทำตัวเองเป็น “จิต” เพราะการกระทำของพระจิตเจ้าเองในพระธรรมใหม่ก็ไม่ได้เป็นจิตอย่างที่เราตีความกันไปทุกวันนี้ ตอนที่เปโตรถูกจำคุก ทูตสวรรค์ของพระเจ้ามาช่วยท่านและกล่าวว่า “ลุกขึ้นเร็วเข้าเถิด.....คาดเข็มขัดสวมรองเท้า.....สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วตามมา” นี่เป็นคำพูดของทูคสวรรค์ซึ่งหมายถึงกระทำตามแบบของตัวเอง มิใช่ทำแบบทูตสวรรค์ แต่ทำด้วยสไตล์เรา
2. เป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน
นี่เป็นหลักการรับสภาพมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซูเจ้า พระองค์เสด็จมายังโลก เพื่อจะได้เป็นคนหนึ่งในท่ามกลางพวกเราอย่างแท้จริง พระองค์บัญชาให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน ให้เราเปิดตัวเองให้คนอื่นได้รับรู้ว่าเราเองก็มีความเจ็บปวด มีความหวังในชีวิตและมีความรู้สึกเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ รู้สึกเช่นกัน
3. รับฟังผู้อื่น
การรับฟังนี่แหละที่แสดงให้รู้ว่า "รัก" คืออะไร การฟังเป็นงานที่ประเสริฐมาก จงพยายามนึกดูซิว่า ใครเป็นคนสุดท้ายที่ได้พูดคุยกันกับท่านอย่างตั้งอกตั้งใจ มีการถามและตั้งใจฟังคำตอบจากท่าน เมื่อมีการแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้สึกและการเจ็บปวด เราจะรู้ถึงความรักของพระเจ้าโดยผ่านทางบุคคลอื่น
4. ยอมรับผู้อื่น
กี่ครั้งกี่หนที่เราประพฤติเช่น ยอห์น บัปติสที่กระทำต่อบุคคลในสมัยนั้น เราพยายามสอน แก้ไขความบกพร่อง ชี้ความผิดของผู้คนและโมโหในบางครั้งกับความผิดของบุคคลนั้น ๆ แต่พระเยซูเจ้ามีรูปแบบความสัมพันธ์ที่ต่างออกไป พระองค์เชื่อในตัวประชาชน ยอมรับประชาชน พระองค์ทรงเรียกชาวประมงให้มาเป็นสานุศิษย์ พระองค์ทรงรักโสเภณี ฟาริสี ชาวสะมาเรีย ผู้คนต่างพบกับความหวังใหม่ เพื่อได้มามีความสัมพันธ์กับพระเยซูเจ้า
5. ร่วมตัดสินใจกับผู้อื่น
การให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในการวางแผนงาน แม้ว่าเราจะทำการวางแผนเพื่อครอบครัวของเรา วัดของเราหรือระดับใด ๆ ก็ตาม เป็นการให้เกียรติแก่บุคคลเหล่านั้น รวมถึงการร่วมกันวางจุดประสงค์เป้าหมายหรือการแสวงหายุทธวิธีในการทำงานต่าง ๆ ด้วย
6. อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงผู้อื่น
ใครเป็นคนที่ช่วยท่านมากที่สุด ในยามที่ท่านตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยากลำบากใจ มันอาจจะไม่ใช่จากคนที่ให้คำปรึกษาแนะนำ เมื่อเราให้ข้อแนะนำแก่ใคร เราวางตนเองอยู่เหนือคนนั้น การบีบบังคับให้คนอื่นเปลี่ยนแปลง อาจทำให้คน ๆ นั้นยอมรับเราไม่ได้
7. รักผู้อื่นอย่างเฉพาะเจาะจง
จงรักใครคนหนึ่งคนใดด้วยความรักเฉพาะเจาะจง เราจะล้มเหลวเมื่อเราพยายามที่จะรักทุกคน แทนที่เราจะรักบางคนด้วยการเอาใจใส่พิเศษโดยเฉพาะ พระอาณาจักรของพระเจ้าทั้งสิ้นเกิดขึ้นก็เพราะว่า พระเยซูเจ้าทรงใช้เวลาสามปีกับคนสิบสองคนอย่างพิเศษ มีความสัมพันธ์อย่างพิเศษกับพวกเขา
8. จงขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
จงเต็มใจที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น ลักษณะเช่นนี้ของพระเยซูเจ้า ควรเป็นลักษณะของผู้นำที่ดีในยุคปัจจุบัน พระเยซูเจ้าขออาหาร น้ำ ความช่วยเหลือและความเป็นเพื่อน จากผู้อื่น ถ้าเราเต็มใจขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เราไม่เคยได้รับมาก่อนเลยในชีวิต
9. รักอย่างมีความหมายกับผู้อื่น
จงให้ในสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่ให้ในสิ่งที่เราต้องการจะให้ คนที่ท่านรักต้องการความช่วยเหลือจากท่านในเรื่องอะไร แล้วท่านได้สนองตอบความต้องการของเขาไหม ท่านจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้คนที่รักผิดหวัง
10. อย่าทำเล่น ๆ หรือปลอดภัยไว้ก่อน
การมีความสัมพันธ์กับใครก็ตาม เรียกร้องการมีความจริงใจ การที่ทำเล่น ๆ ไม่มั่นคง เป็นการเสี่ยงต่อความรัก เสี่ยงต่อการหัวเราะเยาะ การเข้าใจผิดและการปฏิเสธเพื่อที่จะรัก มันมีความหมายที่ลึก มันอาจจะเป็นความเจ็บปวด และการขัดแย้ง แต่พระเจ้าสถิตกับเรา และเราจะพบคำตอบได้ในพระองค์