รูปแบบต่าง ๆ ของการภาวนา
ความสัมพันธ์กับพระเยซูเจ้า นำบรรดาศิษย์ให้มีท่าทีแห่งการภาวนา และการรำพึง
ซึ่งพระอาจารย์เองทรงมี การเรียนรู้จักการภาวนากับพระเยซูเจ้า ต้องภาวนา
ด้วยความรู้สึกแบบเดียวกับที่พระเยซูเองทรงภาวนาต่อพระบิดา กล่าวคือ
การนมัสการ การสรรเสริญ ขอบพระคุณ การวางใจฉันลูก การอ้อนวอน
และความยำเกรง (GDC 85)
คำสอนพระศาสนจักรฯข้อที่ 2626-2643 สอนเราถึงรูปแบบต่างๆของการภาวนาดังนี้
1. การอวยพรและการนมัสการ(Blessing and Adoration)
พระคัมภีร์ถือว่าสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งฝ่ายจิตวิญญาณ ฝ่ายกายหรือ
สิ่งของก็ดี ล้วนแต่เป็น "พระพร" ทั้งสิ้น
"การอวยพร" จึงเป็นการแสดงออกของดวงใจที่ซาบซึ้งในพระพร พระมหากรุณาธิคุณ
ความยิ่งใหญ่ และคุณงามความดีต่างๆ รวมทั้งทุกสิ่งทุกอย่างที่พระเจ้าประทานให้แก่โลกและตัว
ของเรา โดยการกล่าวถวายสดุดี หรือถวายพระพรแด่พระองค์ เช่น ขอทรงพระเจริญ ขอให้พระ
นามของพระองค์ จงเป็นที่สักการะ ฯลฯ (เพื่อความเข้าใจ เราอาจจะเปรียบเทียบจุดประสงค์
ของการอวยพร กับการสาปแช่งก็ได้)
เราสามารถภาวนาแบบอวยพรกันและกัน โดยวอนขอต่อพระเจ้าให้เป็นผู้ประทานพร
เช่น พ่อแม่สวดอวยพรให้ลูกหลาน ผู้ใหญ่สวดอวยพรให้ลูกน้อง เช่น ขอพระเจ้าอวยพรให้อยู่
เย็นเป็นสุข ขอพระเจ้าอวยพรให้ทำมาค้าขึ้น ฯลฯ ส่วนผู้น้อยก็สามารถภาวนาอวยพรให้ผู้ใหญ่
ได้ เช่น ขอพระเจ้าประทานพระพรให้มีอายุมั่นขวัญยืน ฯลฯ เป็นต้น
"การนมัสการ" เป็นท่าทีแห่งการยอมรับว่าตัวของเราเองเป็นเพียงสิ่งสร้างเล็ก ๆ
ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมา ส่วนพระเจ้าทรงเป็นพระผู้ทรงสรรพานุภาพ เป็นพระผู้ช่วยให้รอด
เป็นผู้ปลดปล่อย เป็นผู้ที่มีพระคุณ เป็นเจ้าของชีวิต เราจึงต้องกราบต่อพระพักตร์นมัสการ
ด้วยความสุภาพถ่อมตนอยู่เสมอ (ภาษาไทยเรามักใช้คำว่า "ไปไหว้พระ" "ไปกราบพระ")
ให้เขียนคำ "ถวายพระพร" และ "นมัสการ" แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยคำพูดของเราเอง
(ร้อยแก้วหรือร้อยกรองก็ได้) อย่างละ 1 บท
............................................................................................................
............................................................................................................
............................................................................................................
............................................................................................................
............................................................................................................
2. การภาวนาวอนขอ(Petition)
การวอนขอเป็นการแสดงความสุภาพของตนเองในฐานะที่เป็นสิ่งสร้าง เป็นคนบาป
คนไม่บริสุทธิ์ สำนึกตนเองดีว่าชีวิตนี้จะต้องพึ่งพาพระเจ้าอยู่เสมอ เพราะหาก "ปราศจากพระเจ้า
เราทำอะไรไม่ได้เลย" เราจึงต้องมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วยการภาวนาอยู่ตลอดเวลา
การวอนขอประการแรกคือการภาวนาวอนขอให้เรารู้จักการภาวนา การวอนขอให้
พระองค์ ทรงให้อภัยบาป การวอนขอให้รู้จักแสวงหาพระราชัยของพระเจ้า การวอนขอสำหรับ
สิ่งของที่จำเป็นสำหรับชีวิต และการภาวนาในทุกสถานการณ์ของชีวิต
เชิญ ค้นคว้าจากพระคัมภีร์เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการภาวนาวอนขอ แล้วคัดลอกลงในช่องว่าง
ก. โรม 8:26-27 (เมื่อเราไม่รู้วาจะวอนขอสิ่งใด ขอให้เราเราอัญเชิญพระจิตมาช่วยเรา)
…………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………
ข. 1 ยอห์น 3:22 (ภาวนาอย่างไรจึงจะได้รับตามคำวอนขอ)
…………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
ค. มัทธิว 6:33 (ลำดับขั้นในการวอนขอ เราควรวอนขอเรื่องอะไรก่อนดี)
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………….
ง. โรม 10:1 (ภาวนาเพื่อขอความรอดจากบาป)
…………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………….
จ. ยากอบ 1:5-8 (วอนขอปรีชาญาณ เช่น ซาโลมอน)
…………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
ร้องเพลง "จงแสวงหา" พร้อมกัน
จงแสวงหาน้ำพระทัยพระเป็นเจ้า และความเที่ยงตรงของพระองค์
แล้วทุกทุกสิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน อัลเลลู อัลเลลูยา
3. การภาวนาอ้อนวอนเพื่อมวลชน(Intercession)
การภาวนาอ้อนวอนเพื่อมวลชน เป็นการภาวนาเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น เป็นการแผ่
เมตตาถึงคนอื่น ที่ต้องการความช่วยเหลือจากคำภาวนา ตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้าเองที่
ทรงภาวนาเพื่อเราคนบาปอยู่เสมอ เราจะต้องภาวนามิใช่เพื่อ "ผลประโยชน์ของตนเท่านั้น
แต่เพื่อผลประโยชน์ของคนอื่น ๆ ด้วย" (ฟป 2:4) แม้กระทั่งภาวนาให้กับบรรดาผู้ที่ทำร้ายเขา
ด้วย (CCC 2635)
การภาวนาอ้อนวอนเพื่อมวลชนเป็นการภาวนาที่ไม่มีขอบเขต เราสามารถภาวนา
ให้ทุก ๆ คน ทุก ๆ กรณี
แบบฝึกหัด : ให้เขียนคำภาวนาอ้อนวอนเพื่อมวลชน
(โดยให้เราภาวนาเพื่อผู้อื่นที่กำลังต้องการคำภาวนามากที่สุด อาจจะเป็นคนที่เรา
รู้จัก หรือไม่รู้จัก มิตรหรือผู้ที่ไม่ถูกกัน ฯลฯ)
4. การภาวนาขอบพระคุณ(Thankgiving)
เราทุกคนมีอะไรต้องขอบพระคุณพระเจ้าอยู่เสมอในทุก ๆ วัน เป็นต้น ขอบพระคุณ
สำหรับ ผลงานแห่งความรอดที่พระเยซูเจ้าทรงไถ่บาปปลดปล่อยเราจากบาปและความตาย
การประทาน ความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เรา และในทุก ๆ เหตุการณ์ ตามคำสอนของนักบุญเปาโล
ที่ว่า "จงขอบพระคุณพระเจ้า ในทุกกรณี เพราะพระองค์ทรงปรารถนาให้ท่านทำสิ่งเหล่านี้ใน
พระคริสตเยซู" (1ธส 5:18)
แบบฝึกหัด : การภาวนาขอบพระคุณ
ท่านมีอะไรที่จะขอบพระคุณพระเจ้า เชิญเขียนคำภาวนา....
5. การภาวนาสรรเสริญ (Praise)
เรายกย่องสรรเสริญใครก็เพราะเขามีอะไรที่ดีที่ควรแก่การสรรเสริญ สำหรับเรา
คริสตชน พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะ "มีพระเจ้าเที่ยงแท้อยู่องค์เดียว คือ พระบิดาผู้สร้าง
สิ่งทั้งปวง และเรามีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์" (1คร 8:6)
นักบุญเปาโลสอนเราว่า "จงให้พระจิตสถิตอยู่กับท่านเต็มที่ จงทักทายกันด้วย
ถ้อยคำจากเพลงสดุดี บทเพลงและบทขับร้องอันศักดิ์สิทธิ์ ร้องเพลงและถวายสดุดีพระเจ้า
สรรเสริญพระองค์อย่างจริงใจ" (อฟ 5:19)
แบบฝึกหัด : การภาวนาสรรเสริญ
ให้เลือกบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงออกถึงการสรรเสริญพระเจ้า แล้วช่วยกันสรรเสริญพระเจ้า
ด้วยเพลงนั้น
6. "พิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ" เป็นสุดยอดของการภาวนา เพราะแสดงออกทุกรูปแบบ
ของการภาวนา(CCC 2643)