อิสรภาพในพระเจ้าหมายถึงอะไร เราจะตอบรับพระองค์ไหม และจะใช้อิสรภาพอย่างไร
ให้พระวาจาพระเจ้าเป็นคำตอบแก่เรา
ไม่มีชนชาติอื่นใดในแผ่นดินเหมือนอิสราเอลประชากรของพระองค์ ที่มีพระเจ้าเสด็จมากอบกู้อิสรภาพให้เป็นประชากรของพระองค์ (1พศด. 17:21)
ในยามทุกข์ร้อน ข้าพเจ้าร้องหาพระยาห์เวห์ พระองค์ก็ทรงตอบข้าพเจ้า และทรงปลดปล่อยให้เป็นอิสระ (สดด. 118:5)
ข้าพเจ้าจะดำเนินไปอย่างเสรี เพราะข้าพเจ้าแสวงหาข้อบังคับของพระองค์ (สดด. 119:45)
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ไม่มีใครที่ละทิ้งบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง บิดามารดา บุตรหรือไร่นาเพราะเห็นแก่เรา และเพราะเห็นแก่ข่าวดี จะไม่ได้รับการตอบแทนร้อยเท่าในโลกนี้ เขาจะได้บ้านเรือน พี่น้องชายหญิง มารดา บุตร ไร่นา พร้อมกับการเบียดเบียน และในโลกหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร (มก. 10:29-31)
พระจิตของพระเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ (ลก. 4:18)
พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร (ยน. 3:16)
พระเยซูเจ้าตรัสกับชาวยิวที่เชื่อในพระองค์ว่า ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง ท่านจะรู้ความจริง และความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ (ยน. 8:31-32)
เพราะฉะนั้น ถ้าพระบุตรทำให้ท่านเป็นอิสระ ท่านก็จะเป็นอิสระอย่างแท้จริง (ยน. 8:36)
บรรดาประกาศกทั้งปวงเป็นพยานยืนยันถึงพระองค์ว่า “ทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะได้รับการอภัยบาปเดชะพระนามของพระองค์” (กจ. 10:43)
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ท่านเคยเป็นทาสของบาป แต่ท่านเต็มใจเชื่อฟังพระธรรมคำสอนที่ท่านได้รับมา และเมื่อเป็นไทยพ้นจากบาปแล้ว ท่านก็มาเป็นทาสรับใช้ความชอบธรรม (รม. 6:17-18)
แต่บัดนี้ท่านได้รับอิสระจากบาปมาเป็นทาสรับใช้พระเจ้าแล้ว ท่านได้รับประโยชน์อันนำไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ ผลสุดท้ายก็คือชีวิตนิรันดร (รม. 6:22)
กฎของพระจิตเจ้าซึ่งประทานชีวิตในพระคริสตเยซูนั้น ช่วยท่านให้พ้นจากกฎของบาปและกฎของความตาย (รม. 8:2)
สรรพสิ่งยังมีความหวังว่า จะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสของความเสื่อมสลาย เพื่อไปรับอิสรภาพอันรุ่งเรืองของบรรดาบุตรของพระเจ้า (รม. 8:21)
ท่านมักพูดว่า ‘ข้าพเจ้าทำอะไรก็ได้ทุกสิ่ง’แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า “ทุกสิ่งมิใช่เป็นประโยชน์เสมอไป” ข้าพเจ้าทำอะไรได้ทุกสิ่งก็จริง แต่ไม่ยอมให้สิ่งใดมาครอบงำข้าพเจ้า (1คร. 6:12)
พระเจ้าทรงซื้อท่านมาด้วยราคาแพง จงอย่ากลับเป็นทาสของมนุษย์อีก (1คร. 7:23)
แม้ว่าข้าพเจ้าเป็นอิสระ ข้าพเจ้าก็ยอมเป็นทาสรับใช้ทุกคน เพื่อเอาชนะใจผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ (1คร. 9:19)
พระคริสตเจ้าทรงปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระแล้ว ฉะนั้น จงยืนหยัดมั่นคง และอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย (กท. 5:1)
พี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มารับอิสรภาพ ขอเพียงแต่อย่าใช้ อิสรภาพนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่จะทำตามใจตน แต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรัก (กท. 5:13)
เดชะพระคริสตเจ้าและด้วยความเชื่อในพระองค์ เราจึงกล้าเข้าไปเฝ้าพระเจ้าด้วยความมั่นใจ (อฟ. 3:12)
ท่านรู้อยู่แล้วว่าถ้าแต่ละคนทำดีไว้อย่างไร ก็จะได้รับค่าตอบแทนจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่าเขาจะเป็นทาสหรือเป็นอิสระก็ตาม (อฟ. 6:8)
ข้าพเจ้ายังไม่บรรลุเป้าหมายหรือยังทำไม่สำเร็จ ข้าพเจ้ายังมุ่งหน้าวิ่งต่อไป เพื่อจะช่วงชิงรางวัลให้ได้ดังที่พระคริสตเยซูทรงช่วงชิงข้าพเจ้าไว้ได้แล้ว (ฟป. 3:12)
ส่วนผู้ที่พิจารณาบัญญัติแห่งอิสรภาพและยึดมั่นในบัญญัตินั้น มิใช่ฟังแล้วลืม แต่ฟังแล้วนำไปปฏิบัติตาม ผู้นั้นย่อมประสบความสุขในการปฏิบัตินั้น (ยก. 1:25)
จงประพฤติตนดุจคนอิสระ อย่าใช้อิสรภาพเป็นข้ออ้างเพื่อปิดบังความชั่ว แต่จงประพฤติดุจผู้รับใช้ของพระเจ้า (1ปต. 2:16)