ชีวิตเราอยู่ในสายพระเนตรของพระเจ้าเสมอ และพระองค์เฝ้ามองเราด้วยความรัก

ขอพระเจ้าช่วยให้เรามองทุกคนและทุกอย่างด้วยสายตาแห่งความรักเช่นกัน ขอพระวาจาพระเจ้านำทางเรา

แต่พระยาห์เวห์ตรัสกับซามูเอลว่า ‘อย่าสนใจมองแต่รูปร่างหน้าตา หรือความสูงของเขา เพราะเราไม่เลือกเขา พระยาห์เวห์ไม่ทรงมองอย่างมนุษย์มอง มนุษย์มองแต่รูปร่างภายนอก แต่พระยาห์เวห์ทรงมองจิตใจ’ (1ซมอ. 16:7)

ข้าพเจ้าจะเห็นพระองค์อยู่เคียงข้าง นัยน์ตาของข้าพเจ้าจะแลเห็นพระองค์ไม่ใช่อย่างคนแปลกหน้า ข้าพเจ้ารู้สึกมีความมั่นใจเช่นนี้ (โยบ 19:27)

พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพฤติกรรมของมนุษย์ ทรงเห็นทุกย่างก้าวของเขา (โยบ 34:21)

โปรดทรงรักษาข้าพเจ้าไว้ดุจแก้วตา โปรดทรงปกป้องข้าพเจ้าไว้ใต้ร่มปีกของพระองค์ (สดด. 17:8)

ข้าพเจ้าจะสอนท่านและจะชี้ทางเดินให้ท่าน ข้าพเจ้าจะคอบดูแลให้คำปรึกษาแก่ท่าน (สดด. 32:8)

แต่พระยาห์เวห์ทรงเฝ้าพิทักษ์ผู้ที่ยำเกรงพระองค์ ผู้ที่หวังในความรักมั่นคงของพระองค์ (สดด. 33:18)

สายพระเนตรของพระยาห์เวห์จับอยู่ที่ผู้ชอบธรรม พระกรรณของพระองค์ฟังเสียงของเขาที่ร้องขอความช่วยเหลือ (สดด. 34:15)

โปรดทรงเปิดตาข้าพเจ้า ให้แลเห็นความน่าพิศวงแห่งธรรมบัญญัติของพระองค์ (สดด. 119:18)

ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงสร้างข้าพเจ้าให้เป็นดังปาฏิหาริย์ พระราชกิจของพระองค์น่าพิศวง พระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้าอย่างดี (สดด. 139:14)

เพราะพระยาห์เวห์ทอดพระเนตรเห็นวิถีทางของมนุษย์ ทรงเห็นทางเดินทั้งหมดของเขา (สภษ. 5:21)

พระยาห์เวห์ทรงเห็นทุกแห่ง ทรงเฝ้าดูคนชั่วและคนดี (สภษ. 15:3)

หูที่ฟังและดวงตาที่มองเห็น ทั้งสองสิ่งนี้พระยาห์เวห์ทรงสร้างขึ้นมา (สภษ. 20:12)

พระเนตรของพระยาห์เวห์ปกป้องความรู้ พระองค์ทรงคว่ำถ้อยคำของคนสับปลับ (สภษ. 22:12)

“ความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของท่าน ทางของท่านก็ไม่ใช่ทางของเรา” — พระยาห์เวห์ตรัส (อสย. 55:8)

พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม ถ้าท่านรักแต่คนที่รักท่าน ท่านจะได้บำเหน็จรางวัลอะไรเล่า (มธ. 5:45-46)

จงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มธ. 28:20)

พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรบรรดาศิษย์แล้วตรัสว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าเป็นเช่นนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงทำได้ทุกสิ่ง” (มก. 10:27)

เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์ ตั้งแต่นี้ไป ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข (ลก. 1:48)

หลังจากนั้น พระองค์เสด็จออกไป ทอดพระเนตรเห็นคนเก็บภาษีคนหนึ่งชื่อเลวีนั่งอยู่ที่ด่านภาษี จึงตรัสสั่งเขาว่า “จงตามเรามาเถิด” (ลก. 5:27)

เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงที่นั่น ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรตรัสกับเขาว่า ‘ศักเคียส รีบลงมาเถิด เพราะเราจะไปพักที่บ้านท่านวันนี้ (ลก. 19:5)

นาธานาเอลทูลถามว่า “พระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้าได้อย่างไร” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ก่อนที่ฟิลิปจะเรียกท่าน เราเห็นท่านอยู่ใต้ต้นมะเดื่อ” (ยน. 1:48)

พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร (ยน. 3:16)

บัดนี้ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทอดพระเนตรคำข่มขู่ของเขาทั้งหลายและประทานให้ข้ารับใช้ของพระองค์ประกาศพระวาจาของพระองค์ด้วยความกล้าหาญอย่างยิ่งเถิด (กจ. 4:29)

แต่พระเจ้าทรงเลือกสรรคนโง่เขลาในสายตาของโลกเพื่อทำให้คนฉลาดต้องอับอาย พระเจ้าทรงเลือกสรรคนที่โลกถือว่าอ่อนแอเพื่อทำให้ผู้แข็งแรงต้องอับอาย (1คร. 1:27)

ดังนั้น จงอย่าตัดสินเรื่องใด ๆ ก่อนจะถึงเวลา จงคอยจนกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา พระองค์จะทรงฉายแสงให้ความลับที่ซ่อนอยู่ในความมืดแจ่มแจ้ง และจะทรงเปิดเผยความในใจของทุกคนให้ปรากฏ เมื่อนั้น ทุกคนจะได้รับคำชมเชยจากพระเจ้าตามสมควร (1คร. 4:5)

ขอพระองค์โปรดให้ตาแห่งใจของท่านสว่างขึ้น เพื่อจะรู้ว่าพระองค์ทรงเรียกท่านให้มีความหวังประการใด และความรุ่งเรืองที่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะได้รับเป็นมรดกนั้นบริบูรณ์เพียงไร (อฟ. 1:18)

เราเป็นผลงานของพระองค์ ถูกสร้างมาในพระคริสตเยซูเพื่อให้ประกอบกิจการดี ซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้เราปฏิบัติ (อฟ. 2:10)

ไม่มีสรรพสิ่งใด ๆ ซ่อนเร้นไว้เฉพาะพระพักตร์ แต่ทุกสิ่งเปิดเผยอย่างชัดเจนต่อสายพระเนตรของพระผู้ซึ่งเราจะต้องทูลถวายรายงาน (ฮบ. 4:13)

ท่านอย่าประดับตนเพียงภายนอก แต่จงประดับตนในส่วนลึกของจิตใจให้งดงามอย่างถาวรโดยมีใจอ่อนโยนและสงบเสงี่ยม ความงามเช่นนี้มีค่ายิ่งเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า (1ปต. 3:3-4)

เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรผู้ชอบธรรม ทรงเอียงพระกรรณสดับเสียงร้องของเขา แต่พระพักตร์ของพระองค์มึนตึงต่อผู้ที่กระทำความชั่ว (1ปต. 3:12)

จงดูเถิดว่า ความรักที่พระบิดาประทานให้เรานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด เพื่อทำให้เราได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า และเราก็เป็นเช่นนั้นจริง (1ยน. 3:1)