"พระเจ้าทรงรักเรา" คือข่าวดีที่มาถึงเราในทุกวันใหม่
ให้เราประกาศข่าวดีนี้ด้วยชีวิต พระวาจาของพระคริสต์ก็มีแนวทางให้นะจ๊ะ
ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น จะต้องสูญเสียชีวิตนั้น แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา และเพราะข่าวดี ก็จะรักษาชีวิตได้ (มก. 8:35)
พระเยซูเจ้าตรัสกับว่า “ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง (มก. 16:15)
ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องละอายต่อข่าวดี เพราะนี่คืออานุภาพของพระเจ้าซึ่งนำความรอดพ้นให้แก่ทุกคนที่มีความเชื่อ ให้แก่ชาวยิวก่อนและให้แก่คนต่างชาติด้วยเช่นกัน (รม. 1:16)
เรายอมรับความยากลำบากทุกอย่างเพื่อจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการประกาศข่าวดีเรื่องพระคริสตเจ้า (1คร. 9:12)
แต่ในการประกาศข่าวดีข้าพเจ้าไม่รู้สึกภูมิใจแม้แต่น้อย เพราะข้าพเจ้าจำเป็นต้องประกาศอยู่แล้ว หากข้าพเจ้าไม่ประกาศข่าวดี ข้าพเจ้าย่อมได้รับความวิบัติ (1คร. 9:16)
ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพระเจ้าผู้ทรงเริ่มกิจการดีนี้ในท่านแล้ว จะทรงกระทำต่อไปให้สำเร็จบริบูรณ์จนถึงวันของพระคริสตเยซู (ฟป. 1:6)
ท่านทั้งหลายจงประพฤติตน ให้คู่ควรกับข่าวดีของพระคริสตเจ้า (ฟป. 1:27)
จงใช้ทุกโอกาสเพื่อปฏิบัติตนต่อคนต่างศาสนาด้วยความเฉลียวฉลาดรอบคอบ จงให้คำพูดของท่านอ่อนโยนและถูกกาลเทศะอยู่เสมอ จงรู้จักตอบทุกคนอย่างดีที่สุด (คส. 4:5-6)
เราจึงประกาศข่าวดีนี้ มิใช่เพื่อเอาใจมนุษย์ แต่เพื่อเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าผู้ทรงพิสูจน์จิตใจเรา (1ธส. 2:4)
ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ประกาศ เป็นอัครสาวก และเป็นครู เพื่อประกาศข่าวดีนี้ (2ทธ. 1:11)
จงมีความประพฤติดีงามในหมู่คนต่างศาสนา แม้เขาจะใส่ร้ายท่านว่าประพฤติชั่วร้าย เขาจะต้องยอมรับว่ากิจการที่ท่านทำนั้นเป็นกิจการดี และจะสรรเสริญพระเจ้าในวันที่พระองค์เสด็จมา (1ปต. 2:12)
พระเจ้ามีพระประสงค์ให้ท่านทำความดี ปิดปากคนโง่เขลามิให้พูดไร้สาระ (1ปต. 2:15)
จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า คือพระคริสตเจ้าในจิตใจของท่าน จงพร้อมเสมอที่จะให้คำอธิบายแก่ทุกคนที่ต้องการรู้เหตุผลแห่งความหวังของท่าน (1ปต. 3:15)