3. ใช้อย่างไรให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ?
ก. มากกว่าแค่การมอง
เด็ก ๆ สามารถมองเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้นานตราบเท่าที่ดวงตาของเขาไม่เป็นอะไร การมองเป็นธรรมชาติและขึ้นอยู่กับเจตนา การมองเฉย ๆ โดยไม่มีเจตนาอาจจะไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก แต่การมองแบบพินิจพิเคราะห์ มองแบบมีสติ มองแบบตั้งใจมอง จะทำให้ผู้มองเกิดการเรียนรู้ได้ ดังนั้นก่อนที่จะให้เด็กได้มองดูภาพอะไร เราควรที่จะให้คำอธิบายก่อนเพื่อเป็นแนวทาง การตั้งคำถามเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ในการที่จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้ค้นพบความหมายของภาพนั้น ๆ
ข. อย่ามากเกินไป
การนำเสนอภาพที่มากเกินไป และให้ดูอย่ารวดเร็วจะทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่าย ไม่เกิดประโยชน์ต่อการสอน เราควรนำเสนอเพียงสองหรือสามภาพที่มีคุณค่าเหมาะสมกับหัวเรื่องที่เราต้องการให้กับเด็ก ๆ เพราะจุดประสงค์ในการใช้ภาพของเราก็คือเพื่อให้การสอนของเราชัดเจนขึ้น หรือเพื่อเสริมการพูดของเรา เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องถ้าเราจะสอนคำสอนโดยการให้เด็ก ๆ ดูแต่รูปภาพเท่านั้น อันตรายอีกอย่างหนึ่งก็คือการให้เด็กดูภาพยนต์ หรือวีดีโอ โดยที่เราไม่ได้ให้คำแนะนำที่ดีเสียก่อน เพราะภาพยนต์นั้นมีความหมายเฉพาะเรื่องของมันที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ภาพเหล่านั้นจะดึงดูดเด็ก ๆ ไปสู่ความเคลื่อนไหวจากบทต่าง ๆ ในภาพยนต์ และพวกเขาจะไม่ฟังการสอนของครูเลย
ภาพที่ดีมีความหมายที่สุดก็คือภาพที่ยิ่งดูยิ่งทำให้เราเกิดความเข้าใจและความชื่นชม และทำให้เราอยากที่จะดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูแล้วให้ข้อคิดใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทุกครั้งที่เรามองดูภาพหนึ่งภาพใดด้วยความตั้งใจ จิตใจของเราจะลงลึกลงไปสู่ความหมายทางจิตวิญญาณ เราต้องการให้เด็ก ๆ ของเราได้สำนึกว่าภาพต่าง ๆ เหล่านี้มีความหมายมากกว่าแค่การมองอย่างผิวเผิน เราต้องฝึกเด็กของเราให้ไปไกลกว่าความงดงามที่เห็นภายนอก ภาพที่เราประดับอยู่ตามกำแพงอาจจะอยู่เป็นเดือนเป็นปี แต่เด็ก ๆ อาจจะไม่ได้รับประโยชน์จากภาพเหล่านั้นก็ได้ ถ้าเราไม่ชี้แนะให้พวกเขารู้จักมอง
ภาพที่ใช้ในการสอนคำสอนส่วนใหญ่เป็นภาพจากพระคัมภีร์ หรือภาพที่เกี่ยวข้องกับเรื่องในพระคัมภีร์ ซึ่งเราสามารถนำมาจากนิตยสารหรือสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ก็ได้ ภาพเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการฝึกอบรมเพื่อความเชื่อ แต่จำเป็นที่จะต้องเลือกภาพให้เหมาะสมเช่นกัน และการที่จะเลือกภาพได้ดีและเหมาะสมนั้นครูจะต้องรู้จักพระคัมภีร์และอ่านพะรคัมภีร์อยู่เสมอ ๆ
รูปภาพมิใช่ของวิเศษที่จะรับประกันถึงความสำเร็จในการเรียนการสอน การสอนคำสอนมิใช่พอใจที่ให้เด็ก ๆ “ได้ดู” ภาพ แต่ต้องให้พวกเขาได้ “ปฏิบัติ” ภาพเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น แต่ภาพก็ยังไม่สามารถมาแทนที่ “กิจกรรม” ต่าง ๆ ที่ให้เด็ก ๆ ได้ลงมือทำงานด้วยตัวของเขาเอง และจากกิจกรรมนั้นได้โน้มนำจิตใจของพวกเขาไปสู่เรื่องของจิตวิญญาณ เราต้องช่วยเด็ก ๆ ของเราให้ก้าวหน้าขึ้นไป จากการมองไปสู่การคิด การคิดไปสู่การรำพึงตริตรอง ภาพเปรียบเหมือนบุรุษผู้นำทางของงานที่อยู่ภายในเท่านั้น