บทที่ 33 กิจการแห่งความรัก
จุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้เรียนมิเพียงคิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น แต่เอาใจใส่ในความทุกข์ของคนอื่นด้วย และแสดงออกมาด้วยการกระทำ
ขั้นที่ 1 กิจกรรม เกม “ช่วยเพื่อนมนุษย์”
ครูเตรียมของต่อไปนี้ ยาสีฟัน ยาแก้ปวดท้อง น้ำ เงิน ผ้าห่ม ขนม กระดาษทิชชู่ พัด ข้าว เสื้อผ้า
สบู่ ยาแก้ปวดศีรษะ ยาแก้ไข้
และบัตรคำต่อไปนี้ หิวข้าว ปวดท้อง ปวดศีรษะ กระหายน้ำ ร้อน หนาว ไข้จับสั่น หิวขนม ไปสุขา
วิธีเล่น เลือกผู้เรียน 5 คน เป็นหน่วยบริการแจกของ ผู้เรียนที่เหลือแบ่งเป็นกลุ่มๆให้เท่ากับจำนวนบัตรคำ เสร็จแล้วให้แต่ละกลุ่มส่งผู้แทนมาเลือกจับบัตรคำกลุ่มละ 1 บัตรกลับเข้ากลุ่มปรึกษากัน
ครูเรียกผู้แทนของแต่ละหกลุ่มออกมาแสดงท่าทางใบ้บอกอาการตามบัตรคำที่จับได้ต่อหน้าหน่วยบริการแจกของห้ามใช้เสียง
เมื่อเสร็จทุกกลุ่มแล้ว หน่วยบริการแจกของปรึกษากันว่ากลุ่มที่แสดงนั้นมีความต้องการอะไร ให้นำสิ่งของไปแจกให้แต่ละกลุ่ม
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
ครูตรวจดูว่า แต่ละกลุ่มมีบัตรคำและสิ่งของตรงกับความต้องการหรือไม่ คือ
หิวข้าว – ข้าว ปวดท้อง – ยาแก้ปวดท้อง
ปวดศีรษะ – ยาแก้ปวดศีรษะ กระหายน้ำ – น้ำ
ร้อน – พัด หนาว – เสื้อผ้า
ไข้จับสั่น – ยาแก้ไข้ หิวขนม – ขนม
ไปสุขา – กระดาษทิชชู่
สรุป สังคมจะร่มเย็นเป็นสุขเมื่อมวลมนุษย์ห่วงใยช่วยเหลือกันและกัน
ขั้นที่ 3 คำสอน
1. ความรักต้องแผ่ไปถึงคนอื่นๆด้วยจึงจะเป็นความรักที่แท้จริง นักบุญยอห์นอัครสาวกกล่าวว่า “ดังนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ทรงยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเราทั้งหลาย และเราทั้งหลายก็ควรสละชีวิตของเราเพื่อเพื่อพี่น้อง แต่ถ้าผู้ใดมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้และเห็นพี่น้องของตนขัดสน แล้วยังใจจืดใจดำไม่สงเคราะห์เขา ความรักของพระเป็นเจ้าจะดำรงอยู่ในผู้นั้นได้อย่างไร ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่ารักกันด้วยคำพูดและปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและความจริงเถิด” (1 ยน. 3,16 – 18) กิจการแห่งความรักจึงเป็นเครื่องหมายของความรักที่อยู่ในใจ เหมือนลมหายใจเป็นเครื่องหมายของชีวิต ถ้าขาดลมหายใจก็ขาดชีวิต
2. ความรักต่อคนตกทุกข์ได้ยาก เราเรียกว่า “ความเมตตา” ซึ่งเป็นคุณธรรมประจำใจคนไทยเราทุกคน ทำให้สังคมไทยร่มเย็นเป็นสุข สมดังที่ว่า “เมตตาค้ำจุนโลก” คนไทยเราได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้มีจิตใจจิตเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และต่อสัตว์ด้วย ดังจะยังพบเห็นได้ในการสร้างศาลาพักร้อนสำหรับคนเดินทาง การตั้งตุ่มน้ำไว้ริมทางเพื่อบริการคนที่กระหายน้ำ การปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ฯลฯ
และทุกวันนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม พายุพัด คนไทยจะระดมสรรพกำลัง ความช่วยเหลือต่างๆ ไปจุนเจืออย่างคับคั่งทุกครั้ง เราคริสตชนไทยก็ควรภาคภูมิใจในคุณธรรมอันล้ำเลิศนี้ และพยายามปลูกฝังลงในจิตใจของพวกเราให้มั่นคง
3. คนที่ตกทุกข์ได้ยากยังมีอีกมากมายนัก เริ่มจากคนที่อยู่ใกล้ตัวเราก่อน ได้แก่คนในครอบครัวของเราเอง เพื่อนบ้านใกล้เคียง คนที่เราประสบพบเห็น หรือแม้กระทั่งศัตรูของเรา เราควรมีจิตใจเผื่อแผ่ช่วยเหลือคนเหล่านี้ด้วยคำภาวนา และด้วยการกระทำ เช่น บริจาคข้างของเครื่องใช้ที่จำเป็น บริการรับใช้ เยี่ยมเยียน ปลอบบรรเทาใจ ฯลฯ พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “ผู้ใดให้น้ำเย็นแก้วหนึ่งแก่พี่น้องที่ต่ำต้อยที่สุดของเรา ผู้นั้นจะไม่ขาดบำเหน็จเลย” (มธ. 10,42)
4. กิจการแห่งความรักที่พระศาสนจักรสั่งสอน มีอยู่ 2 ประเภทคือ
ก. กิจการแห่งความรักฝ่ายวิญญาณ มี 7 อย่าง
1. ให้คำแนะนำแก่ผู้สงสัย
2. สอนคนที่ไม่รู้
3. ตักเตือนคนบาป
4. บรรเทาใจผู้ทุกข์ยาก
5. ให้อภัยผู้ทำความผิด
6. อดทนต่อความผิดของผู้อื่น
7. ภาวนาสำหรับผู้เป็นและผู้ตาย
ข. กิจการแห่งความรักฝ่ายกาย มี 7 อย่าง
1. ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย
2. ให้น้ำแก่ผู้กระหาย
3. ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ไม่มีนุ่งห่ม
4. ให้ที่พักแก่ผู้ที่ไร้ที่อยู่
5. เยี่ยมผู้ป่วย
6. เยี่ยมผู้ต้องขัง
7. ร่วมงานฝังศพ
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
- ข้อควรจำ
1. “ผู้ใดให้น้ำเย็นแก้วหนึ่งแก่พี่น้องที่ต่ำต้อยที่สุดของเรา ผู้นั้นจะไม่ขาดบำเหน็จเลย” (มธ. 10,42)
2. เมตตาค้ำจุนโลก
3. “อย่ารักกันด้วยคำพูดและปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและความจริง (1 ยน. 3,18)
4. เราจงแสดงความรักต่อผู้อื่น โดยกระทำกิจการแห่งความรักทั้งฝ่ายวิญญาณและฝ่ายกาย
- กิจกรรม
ให้ผู้เรียนเลือกปฏิบัติกิจการแห่งความรักอย่างใดอย่างหนึ่ง เขียนเป็นข้อตั้งใจด้วยอักษรที่สวยงามนำไปติดไว้ที่บ้าน แล้วงงมือปฏิบัติตามที่ได้ตั้งใจไว้นั้น ร้องเพลง “จงรักกันและกัน”
จงรักกันและกัน
(รับ) จงรักซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปัน
จงรักซึ่งกันและกัน ดังที่เรารักท่าน
1. จงรับปังไปกินให้ทั่วกันเถิด ปังบ่อเกิดแห่งชีวิต
จงดื่มน้ำองุ่นในถ้วยกาลิกส์ ชีวิตฉันเพื่อท่าน (เพื่อท่าน)
2. จงเป็นดังตะเกียงส่องแสงสว่าง เป็นแบบอย่างที่ดีไซร้
จงเป็นเกลือที่เค็มเสมอไป ดังที่เราสอนท่านไว้ (สอนท่านไว้)
3. จงร่วมจิตร่วมใจสวดภาวนา ตามวาจาที่เราสอน
จงรับใช้ซึ่งกันด้วยใจอาทร ดังที่เรารับใช้ท่าน (รับใช้ท่าน)
4. จงอภัยในความผิดและเคืองโกรธ ยกโทษทัณฑ์ให้กันไป
ยกโทษให้ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด ดังที่เรายกให้ท่าน (ยกให้ท่าน)
5. จงมีใจเอ็นดูกรุณา มีเมตตาผู้ต่ำต้อย
จงมีใจเผื่อแผ่แก่ผู้รอคอย ความช่วยเหลือของพวกท่าน (ของพวกท่าน)