บทที่ 13 จงนับถือบิดามารดา
จุดมุ่งหมาย เพื่อให้เรียนรู้จักหน้าที่ที่ต้องมีต่อบิดา ผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายศาสนาและฝ่ายบ้านเมือง และปฏิบัติหน้าที่นั้นด้วยความเคารพรัก
ขั้นที่ 1 กิจกรรม
ครูพูดคุยกับนักเรียนถึงเรื่อง “วันพ่อ” และ “วันแม่”
- ตกตรงวันที่เท่าไร ?
- ทำไมจึงมี “วันพ่อ” และ “วันแม่” ?
- พ่อแม่สำคัญอย่างไร ?
- เราที่เป็นลูกมีหน้าที่ต่อพ่อแม่อย่างไร ?
ฯลฯ
ทุกชาติทุกภาษาต่างยกย่องเทิดทูลพ่อแม่ไว้เหนือสิ่งใด ทั้งนี้เนื่องจากสายสัมพันธ์ตามธรรมชาติ
สรุป สำหรับสังคมไทยเรายิ่งให้เกียรติและยกย่องพ่อแม่เป็นทวีคูณถึงกับมีความเชื่อถือว่า ใครนับถือพ่อแม่จะประสบความเจริญรุ่งเรือง ใครไม่นับถือพ่อแม่จะอับโชค ทำกินไม่ขึ้น
ขั้นที่ 3 คำสอน
- พระเยซูคริสได้ทรงวางแบบอย่างอันพึงปฏิบัติต่อพ่อแม่ไว้ให้เราคริสตชนได้เห็นและปฏิบัติตาม คือ “เมื่อพระกุมารมีพระชนมายุได้สิบสองพรรษา พวกเขา (พระกุมาร พระนางมารีอา นักบุญยอแซฟ) ได้ไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในเทศกาลปัสกาตามธรรมเนียม เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ขณะที่เดินทางกลับพระกุมารยังค้างอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มโดยบิดามารดาไม่รู้ เขาทั้งสองคิดว่าพระกุมารคงปะปนมากับผู้ที่เดินทางมาด้วยกัน พอเดินทางมาได้หนึ่งวันออกตามหาพระกุมารในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู่จัก แต่ไม่พบ จึงรีบกลับไปกรุงเยรูซาเล็มอีกเที่ยวตามหาอยู่สามวัน จึงพบพระกุมารประทับอยู่ในพระวิหารท่ามกลางบรรดาอาจารย์ทั้งหลาย กำลังฟังและไต่ถามอาจารย์เหล่านั้นอยู่ คนทั้งปวงที่ได้ยินที่ได้ฟังต่างก็พิศวงในสติปัญญาและคำตอบของพระกุมารยั้น ฝ่ายบิดามารดาเห็นก็ประหลาดใจ มารดาจึงกล่าวว่า “ลูกเอ๋ย ทำไมจึงทำเช่นนี้ ดูซิ พ่อกับแม่ตามหาลูกด้วยความเป็ฯห่วงยิ่ง” พระกุมารตอบว่า “คุณพ่อคุณแม่ตามหาลูกทำไม ? ไม่ทราบหรือว่าลูกจะต้องกระทำภารกิจของพระบิดา ?” แต่บิดามารดาไม่เข้าใจคำตอบนี้ แล้วพระกุมารก็กลับไปนาซาแร็ธกับบอดามารดาและอยู่ใต้โอวาทของท่านทั้งสอง ฝ่ายพระมารก็เก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจและพระกุมารก็เจริญเติบโตขึ้นทั้งสติปัญญาและวัยวุฒิ เป็นที่พอพระทัยของพระเป็นเจ้า และของเพื่อนบ้าทุกคน” (ลก. 2,42 – 52)
จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราเห็นพระกุมารกำลังทำหน้าที่ต่อบิดามารดาในสองระดับคือ 1) ต่อพระบิดา คือ พระเป็นเจ้าในสวรรค์และ 2) ต่อบิดามารดา คือพระนางมารีอาและนักบุญยอแซฟในโลกนี้ หน้าที่ต่อพระบิดาในสวรรค์ต้องมาก่อน เพราะพระองค์ทรงเป็นพระบิดาเที่ยงแท้นิรันดรของพระองค์ ส่วนหน้าที่ต่อพระนางมารีอาและนักบุญยอแซฟมาทีหลัง เพราะท่านทั้งสองเป็ฯบิดามารดาของพระองค์ในโลกนี้ พระกุมารจึงตอบว่าพระองค์ต้องทำภารกิจของพระบิดา และแล้วก็ทำหน้าที่บิดามารดา คือกลับไปนาซาแร็ธกับท่าน และอยู่ใต้โอวาทของท่าน
- หน้าที่เอกของลูกจึงได้แก่ความนบนอบเชื่อฟังบิดามารดา เป็นต้น เมื่อลูกๆ ยังอยู่กับท่าน พระคัมภีร์ยังเตือนย้ำถึงหน้าที่นี้อยู่บ่อยๆ เช่น “ลูกเอ๋ย จงถือบัญญัติของพ่อเจ้า และอย่าละทิ้งคำสั่งสอนของแม่เจ้ามัดมันติดไว้ในใจเจ้าเสมอ เมื่อเจ้าเดินมันจะนำเจ้า เมื่อเจ้านอนมันจะเฝ้าเจ้า เมื่อเจ้าตื่นมันจะพูดกับเจ้า” (สภษ. 6,20 – 22) และ เด็กๆทั้งหลาย จงนบนอบพ่อแม่ของเจ้าในทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะการกระทำเช่นนี้พอพระทัยพระเป็นเจ้า” (คส. 3,20)
หน้าที่ต่อมาของลูกต่อบิดามารดาก็คือความกตัญญูรู้คุณ เพราะท่านเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดในโลกนี้ เป็นผู้ให้กำเนิดลูกมา เลี้ยงดูอบรมสั่งสอน ปกป้องคุ้มครองจนเติบใหญ่ “จงนับถือดามารดาของเจ้าด้วยความเคารพเหนือเกล้า จงอย่าลืมมารดาที่ให้กำเนิดเจ้ามาด้วยความเจ็บปวด อย่าลืมว่าท่านทั้งสองเป็นผู้บังเกิดเกล้า พระคุณของท่านต่อเจ้านั้นจะหาอะไรมาทดแทนได้ ?” (บสร. 7,27 – 28) ความกตัญญูรู้คุณนี้แสดงออกด้วยการให้ความช่วยเหลือพ่อแม่ทั้งทางกายและทางใจ เป็นต้นในยามท่านแก่ชรา เจ็บป่วย อยู่โดดเดี่ยว หรือประสบความยากลำบากใดๆ
- ลูกๆยังต้องเคารพบิดามารดาของตนอยู่เสมอ ให้เกียรติท่านยกย่องท่านไว้มนที่สูง ไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นการลบหลู่ดูหมิ่น แม้ด้วยวาจา หนังสือบุตรสิรากล่าวว่า “พระเจ้ายกย่องบิดามารดารเหนือบุตร ทรงสนับสนุนสิทธิของบิดามารดาเหนือบุตร บุตรที่เคารพนับถือบิดาก็ใช้หนี้บาปของตน บุตรที่ให้เกียรติมารดาก็เท่ากับสะสมทรัพย์สมบัติไว้ ใครเคารพนับถือบิดาก็จะประสบความสุขสันต์หรรษากับบุตรของตนเอง ในวาระที่เขาภาวนาอ้อนวอนพระเจ้าก็จะสดับฟัง บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน บุตรที่เชื่อฟังพระเจ้าจะทำให้มารดาชื่นใจ (บสร. 3,2 – 6)
เมื่อเราเคารพนับถือบิดามารดา เราก็ต้องเคารพนับถือญาติพี่น้องของเราด้วย เป็นต้นพี่น้องที่คลานตามกันมา จงทำให้บ้านมีสันติด้วยการรักใคร่ปรองดองกันระหว่างพี่น้อง ไม่ทะเลาะเบาะแว้งแก่งแย่งชิงดีกันอันจะทำให้พ่อแม่หนักใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจงทำตนเป็นลูกที่ดี ประพฤติดี มีสัมมาอาชีพ ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรมและมีศรัทธากล้าแข็งต่อพระเป็นเจ้าอยู่เสมอ พ่อแม่จะได้ปลื้มใจที่ได้เห็นผลงานความสำเร็จในชีวิตของท่าน คือเป็นผู้ให้กำเนิดทั้งกายและใจแก่ลูกๆตามหน้าที่ที่ท่านได้รับมาจากพระเป็นเจ้า ท่านจะได้ตายตาหลับเหมือนผู้เฒ่าสิเมโอนที่กล่าวว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าหลับตาตายเป็นสุขได้แล้ว เพราะตาข้าพเจ้าได้เห็นความรอดแล้ว” (ลก. 2,29 – 30)
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
- ข้อควรจำ
- “จงนับถือบิดามารดา”
- “พระเยซูกลับไปนาซาแร็ธกับบิดามารดาและอยู่ใต้โอวาทของท่านทั้งสอง” (ลก. 2,51)
- “บุตรที่เกียรติบิดาจะมีอายุยืน บุตรที่เชื่อฟังพระเจ้าจะทำให้มารดารชื่นใจ”
- “อย่าลืมว่าท่านทั้งสองเป็นผู้บังเกิดเกล้า พระคุณของท่านต่อเจ้าจะเอาอะไรมาทดแทนไม่ได้” (บสร. 7,28)
- จงทำตนเป็นลูกที่ดี ประพฤติดี มีสัมมาอาชีพ ตั้งมั่นในศีลในธรรม และมีศรัทธากล้าแข็งต่อพระเป็นเจ้าอยู่เสมอ
- กิจกรรม ให้ผู้เรียนกลับไปปฏิบัติหน้าที่ลูกที่ดีต่อพ่อแม่ที่บ้าน นำสวดภาวนาเช้าค่ำที่บ้าน และสอดแทรกภาวนาเพื่อพ่อแม่เป็นพิเศษ