บทที่ 3 พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยความอ่อนหวานและเมตตาสงสาร
จุดมุ่งหมาย ให้ผู้เรียนรู้สึกซาบซึ้งในพระทัยเมตตาของพระเป็นเจ้าพระบิดาต่อมนุษย์ที่หลงผิดทำบาป
ขั้นที่ 1 กิจกรรม
ครูเล่าเรื่องต่อไปนี้ให้เด็กฟัง
“ยอห์น บอสโก เมื่อยังเล็กๆ อยู่เคยเล่นซุกซนจนกระทั่งทำขวดน้ำมันตกแตก เขารู้สึกตกใจและเสียใจมาก จัดแจงเก็บเกวาดเศษแก้วให้เรียบร้อย แล้วไปเอากิ่งไม้มาเหลาเป็นไม้เรียวเตรียมไว้ พอแม่กลับมาก็เข้าไปหา ยื่นไม้เรียวแล้วพลางกล่าวว่า “คุณแม่ครับ ผมซุกซนจนทำขวนน้ำมันตกแตก ผมผิดไปแล้ว ผมเสียใจ ขอคุณแม่ทำโทษผมเถอะครับ” แม่เห็นดังนั้นก็รู้สึกตื้นตันใจเลยพูดว่า “แม่ไม่ลงโทษลูกหอก เพราะลูกสำนึกผิดแล้ว”
“ยอร์ช วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา เมื่อยังเล็กๆอยู่ บิดาซื้อขวานเล็กๆเล่มหนึ่งให้เป็นของขวัญวันเกิด ยอร์ชดีใจมาก เอาขวานเที่ยวฟันเล่นสนุกสนานตามประสาเด็ก เผอิญไปฟันเอาต้นไม้ต้นหนึ่งที่บิดารักและหวงมากขาดเป็นสอท่อน ยอร์ชจึงเข้าไปหาบิดาพูดว่า “คุณพ่อครับ ผมเสียใจ ผมเอาขวานฟันต้นไม้ที่คุณพ่อรักมากขาดไปเสียแล้ว ขอคุณพ่อลงโทษผมเถอะครับ” บิดาเอามือลูบศีรษะลูกกล่าวว่า “เอาเถอะลูกเอ๋ย ที่ลูกทำผิดแล้วเสียใจมาขอโทษนี้มีค่ามากกว่าต้นไม้นั้นหลายสิบเท่านัก พ่อไม่ลงโทษลูกหรอก”
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
ครูถามผู้เรียนว่า
เด็กสองคนนี้ได้ทำอะไรผิด ?
เมื่อทำผิดแล้วเขาได้ทำอะไร ?
ผลที่ได้รับคืออะไร ?
ผู้เรียนมีความรู้สึกอย่างไรต่อแม่และบิดาในเรื่องนี้ ?
สรุป พ่อแม่ย่อมรักลูกมาก แม้เมื่อลูกทำผิดก็ยังพร้อมที่จะให้อภัยให้เสมอ ความรักของพ่อแม่ต่อลูกนั้นใหญ่ยิ่งนัก
ขั้นที่ 3 คำสอน
- พระเป็นเจ้าก็เช่นเดียวกัน พระองค์ทรงเป็นพระบิดาผู้พระทัยดีและเมตตา ทรงอภัยความผิดของลูกๆของพระองค์เสมอ นับตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อบิดามารดาเดิม คือ อาดัมและเอวา ได้ทำผิดต่อพระเป็นเจ้าโดยปลงใจละเมิดคำส่งของพระองค์ด้วยการกินผลไม้ที่พระองค์ทรงห้าม (อ่านเรื่องราวละเอียดใน ปฐมกาล 3,1 – 7) เมื่อมีความผิดก็ต้องมีโทษตามมาตามความยุติธรรม โทษนั้นก็คือ
จะตั้งครรภ์และคลอดบุตรด้วยความยากลำบากและเจ็บปวด จะตกอยู่ใต้อำนาจของสามี (สำหรับหญิง)
จะต้องตายกลายเป็นดินดังเดิม (สำหรับชาย) (เทียบ ปฐก. 3,16 – 19)
และที่ร้ายที่สุดก็คือจะต้องสูญเสียชีวิตนิรันดรคือองค์พระเป็นเจ้าไปชั่วนิรันดร์ แต่พระทัยเมตตาของพระเป็นเจ้าพระบิดานั้นยิ่งใหญ่กว่าบาปกรรมของมนุษย์มากนัก พระองค์จึงตรัสว่า “เราจะให้เจ้า (ปีศาจ) กับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์พันธุ์ของเจ้า (ปีศาจ) และของหญิงนี้ด้วย พงศ์พันธุ์ของหญิงนี้จะเหยียบหัวเจ้า (ปีศาจ) ให้แหลกลาญ และเจ้า (ปีศาจ) ก็จะทำให้ส้นเท้าของพงศ์พันธุ์ของหญิงฟกช้ำ” (ปฐก. 3,15) นี่คือพระสัญญาแห่งความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าที่พระบิดา ที่ทรงพลิกความพ่ายแพ้ของมนุษย์ในยกแรกให้กลายเป็นชัยชนะในยกสุดท้าย คือพระสัญญาที่จะส่งพระผู้ไถ่ (พงศ์พันธุ์ของหญิง) มาบังเกิดจากหญิงคนใหม่ คือพระนางมารีอาเพื่อมาไถ่กู้มนุษย์ให้พ้นจากบาป
- รูปแบบที่ชัดเจนที่สุดของพระเป็นเจ้าพระบิดาผู้พระทัยดีและเมตตาก็คือ พระเยซูคริสต์ พระองค์ตรัสว่า “เรามาเพื่อแสวงหาและช่วยคนบาปให้รอด” (ลก. 19,10) “คนดีไม่ต้องการหมอ แต่คนเจ็บต่างหากที่ต้องการหมอ” (มท. 9,12) และพระองค์ทรงปฏิบัติตมที่ตรัสไว้นี้ตลอดเงลา เช่น ทรงเรียกมัทธิวคนเก็บภาษีและเสด็จไปรับประทานอาหารที่บ้านของเขาเพื่อฉลอองการกลับใจเหมือนกัน (ลก. 19,2 – 10)ทรงอภัยโทษให้หญิงคนบาป (ยน. 8,4 -11) ทรงยกโทษโจรบนไม้กางเขนที่สำนึกผิด (ลก. 23,43) และทรงยกโทษให้ให้แก่ผู้ที่ทรมานและฆ่าพระองค์ด้วย (ลก. 23,34)
- ต่อหน้าพระเป็นเจ้าพระบิดาผู้พระทัยดีและเมตตาเช่นนี้เราจะต้องทำอย่างไร ? เราควรเอาตัวอย่างของเปโตร คือ เปโตรปฏิเสธพระเยซูคริสต์ถึง 3 ครั้ง “พระองค์ทรงเหลียวมามองดูเปโตร เปโตรจึงสำนึกผิด วิ่งออกไปข้างนอกร้องให้ด้วยความเสียใจยิ่งนัก” (ลก. 2,61) การสำนึกผิดและกลับใจทำให้เปโตรได้รับอภัยและได้กลายเป็นเสาหลักที่มั่นคงไม่สั่นสะเทือนของพระศาสนจักรในเวลาต่อมา
อย่าเอาอย่างยูดาสที่ทำผิดทรยศต่อพระเยซูคริสต์เหมือนกันโดยขายพระองค์ให้แด่ศัตรูในราคา 30 เหรียน และรับอาสาพาศัตรูไปจับพระองค์ในสวนมะกอกอีกด้วย พระเยซูคริสต์ทรงมองยูดาสแล้วตรัสว่า “เธอจะขายเราให้กับศัตรูด้วยการจูบเหรอ ?” (ลก. 22,48) แต่ยูดาสกลับหมดหวัง วิ่งไปผู้คอตาย (มธ. 27,5)
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ
- “เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นศัตรูกัน ทั้งพงศ์ของเจ้าและของหญิงนี้ด้วย พงศ์พันธุ์ของหญิงนี้จะเหยียบหัวเจ้าให้แหลกลาญและเจ้าจะทำให้พงศ์พันธุ์ของหญิงฟกช้ำ” (ปฐก. 3,15)
- พระเป็นเจ้าพระบิดาทรงมีพระทัยดีและเมตตา ทรงสัญญาจะส่งพระผู้ไถ่มาไถ่กู้มนุษย์ให้พ้นบาป
- “เรามาเพื่อแสวงหาและช่วยคนบาปให้รอด” (ลก. 19,10)
- การสำนึกผิดและการกลับใจทำให้เปโตรได้รับการอภัยและได้กลายเป็นเสาหลักที่มั่นคงไม่สั่นสะเทือนของพระศาสนจักรในเวลาต่อมา
ข. กิจกรรม เล่นเกม “ตอบทันควัน”
แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มๆ ครูชี้ที่กลุ่มใดแล้วกล่าวข้อความข้างล่าง กลุ่มนั้นต้องตอบทันควันว่า “ขอบใจ” (ถ้าดี)
หรือ “ขอโทษ” (ถ้าไม่ดี) เท่านั้น ห้ามตอบอย่างอื่น เช่น
เดินชนเพื่อน (ตอบ ขอโทษ)
เพื่อนให้ขนม (ตอบ ขอบใจ)
เตะลูกบอลโดนครู (ตอบ ขอโทษ)
ทำของเพื่อนหาย (ตอบ ขอโทษ)
ครูให้รางวัล (ตอบ ขอบใจ)
ฯลฯ ฯลฯ
กติกา ต้องตอบทันควัน พร้อมกัน และถูกต้อง ตอบผิด ช้า ไม่พร้อมกัน ถือว่าแพ้