คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของการศึกษาและครูคำสอนตามแนวคิดอิกญาเชี่ยน
คุณลักษณะเฉพาะของการศึกษาและครูคำสอนตามแนวคิดอิกญาเชี่ยน (Hans, 1993) ประกอบ ด้วย 9 ประการ ดังต่อไปนี้
1) รัก-ศรัทธาในพระเจ้า
อิกญาเชียนเชื่อว่า พระเจ้าทรงเป็นพระผู้สร้างและทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นองค์แห่ง ความดีสูงสุด เป็นความจริงแท้ที่สมบูรณ์ ความเป็นจริงอื่นๆ นั้นล้วนมาจากพระเจ้าและจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นนำมนุษย์เข้าหาพระเจ้า พระเจ้าทรงประทับอยู่ในชีวิตของมนุษย์ พระเจ้าทรงปฏิบัติงานเพื่อมนุษย์ในทุกสิ่งทุกอย่าง มนุษย์สามารถค้นพบพระเจ้าได้โดยผ่านทางความเชื่อทางธรรมชาติและในเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ และเป็นพิเศษในประสบการณ์ชีวิตของมนุษย์แต่ละบุคคล
ดังนั้นครูคำสอน จึงต้องเป็นบุคคลที่มองโลกในแง่ดี มองเห็นพระเจ้าในทุกสิ่งและในทุกคน พัฒนาความสามารถของผู้เรียนแต่ละคนให้ครบทุกด้าน ทั้งด้านสติปัญญา จินตนาการ เจตคติ การสร้างสรรค์ ทักษะด้านการสื่อสาร ความสามารถทางร่างกาย เพื่อเป็นมนุษย์ที่มีความสมดุล พัฒนามิติความเชื่อทางศาสนาเข้าไปในการศึกษาทุกประเภททุกกิจกรรม เป็นผู้ร่วมงานธรรมทูตของพระศาสนจักรคาทอลิก สนับสนุนการเสวนาระหว่างความเชื่อและวัฒนธรรม ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
2) รักผู้เรียน
พระเจ้าทรงรู้จักและทรงรักมนุษย์แต่ละคน และทรงเชื้อเชิญให้แต่ละคนได้ตอบสนองด้วยความรักต่อพระองค์ด้วยใจเสรีเช่นกัน คำเชื้อเชิญของพระเจ้าคือ ให้มีศรัทธาต่อพระเจ้า ยอมรับและรับผิดชอบ ต่อผลที่จะตามมาของความเชื่อศรัทธานี้ ดังนั้นครูคำสอนจึงต้องเอาใจใส่และมีความห่วงใยผู้เรียนเป็นรายบุคคล เน้นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เปิดตนเองสู่ความก้าวหน้า ให้รักในการเรียนรู้และยอมรับการเปลี่ยนแปลง
3) ส่งเสริมคุณธรรมและการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
บาปและผลของบาปทำให้มนุษย์ไม่สามารถตอบสนองความรักต่อพระเจ้าด้วยความรักอย่างที่ควรจะเป็น แต่อาศัยความช่วยเหลือจากความรักของพระเจ้าที่ทรงไถ่กู้เราจากความบาป ทำให้เราสามารถต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ที่ขัดขวางต่อเสรีภาพ รวมถึงผลของบาปเองด้วย ในขณะเดียวกันเราจะต้องพัฒนาความสามารถที่จำเป็น เพื่อที่จะได้มีเสรีภาพที่แท้จริง เพื่อจะได้รักพระเจ้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้นครูคำสอน จึงต้องเน้นเรื่องของคุณค่าทางศีลธรรมเป็นหลัก ความรู้ต้องคู่กับคุณธรรม มีความรัก มีการยอมรับตนเอง และหลีกหนีบาป รับรู้สภาพที่แท้จริงของโลกหรือสังคมที่อาศัยอยู่ ตระหนักผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ในสังคม ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
4) ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า
ในโลกทัศน์ของอิกญาเชี่ยนนั้น พระเยซูเจ้าทรงเป็นศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์ของโลก พระเยซูเจ้า ทรงเป็นต้นแบบสำหรับชีวิตมนุษย์ ทั้งนี้ เพราะพระเยซูเจ้าทรงตอบสนองความรักของพระบิดาเจ้าด้วยการรับใช้ผู้อื่น พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ทรงมีส่วนร่วมในชีวิตมนุษย์และทรงเชิญให้เราได้ติดตามพระองค์ภายใต้มาตรฐานแห่งไม้กางเขน ในการตอบสนองความรักต่อพระบิดาเจ้า พระเยซูเจ้าทรงดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางมนุษย์ และทรงเป็นบุคคลเพื่อผู้อื่นในการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า ดังนั้น ครูคำสอนจึงต้องมีพระเยซูเจ้าเป็นรูปแบบของการดำเนินชีวิต และทำให้ชีวิตของผู้เรียนได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตและคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้า มีความเป็นมิตรกับพระเยซูเจ้า ต้องจัดให้มีการอภิบาลอย่างพอเพียงแก่ผู้เรียน เช่น จัดให้มีการเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจ การตอบสนองต่อกระแสเรียกของพระเจ้า ดำเนินชีวิตตามความเชื่อทั้งการภาวนา การนมัสการ และการบริการรับใช้ ทั้งในชีวิตส่วนตัวและชีวิตกลุ่ม ส่งเสริมให้ผู้เรียนการรับศีลมหาสนิท และศีลอภัยบาป เพื่อนำไปสู่การอุทิศตนในฐานะที่เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า
5) อุทิศตนเพื่อสังคม
สำหรับอิกญาเชี่ยน ความรักและการตอบสนองความรักต่อพระเจ้านั้นไม่ใช่เป็นแค่ความนึกคิดหรือทฤษฎี แต่จะเป็นประโยชน์ก็ต่อเมื่อได้นำไปสู่การปฏิบัติในชีวิตจริง “ความรักต้องแสดงออกด้วยการกระทำ” แนวคิดแบบอิกญาเชี่ยนขอให้มนุษย์ทุกคนทั้งชายและหญิงจะได้อุทิศตนอย่างแข็งขันในการเลียนแบบและเป็นเหมือนพระเยซูเจ้า โดยให้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปสู่การปฏิบัติจริงในครอบครัว ในแวดวงธุรกิจ กระบวนการทางสังคม โครงสร้างทางการเมืองและกฎหมาย และกิจกรรมทางศาสนา ดังนั้นครูคำสอน จะต้องมีความกระตือรือร้นและอุทิศตน ตระหนักถึงความยุติธรรม อันเป็นความยุติธรรมที่เกิดจากความรัก ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อก่อให้เกิดสันติสุขและความห่วงใยต่อสังคม ครูคำสอนจะต้องเป็นบุคคลเพื่อผู้อื่น ใช้พระพรและความสามารถเพื่อช่วยเหลือสังคม เอาใจใส่คนยากจนเป็นพิเศษ การเข้าหาและช่วยเหลือคนยากจน
6) จงรักภักดีและรับใช้พระศาสนจักรคาทอลิก
สำหรับอิกญาเชี่ยน การตอบสนองต่อเสียงเรียกของพระเจ้านั้นจะต้องอยู่ในและผ่านทางพระศาสนาจักรคาทอลิก ซึ่งเป็นเครื่องมือที่พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่อย่างศักดิ์สิทธิ์ในโลก พระนางมารีย์พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงเป็นแบบฉบับในการตอบสนองเสียงเรียกนี้ อิกญาเชี่ยนและสมาชิกกลุ่มแรกได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์และได้นำคณะของท่านเพื่อรับใช้ผู้แทนของพระเยซูคริสต์ คือ “ไปทุกสถานที่ที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงพิจารณาว่าเหมาะสมที่จะส่งพวกเขาไป เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า และเพื่อความดีของวิญญาณ” ดังนั้น ครูคำสอนจะต้องรับใช้พระศาสนาและสังคม ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ของพระศาสนจักรอย่างแข็งขัน ส่งเสริมงานศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ มีส่วนร่วมในงานของพระศาสนาคาทอลิกและชุมชนท้องถิ่นเพื่อรับใช้ผู้อื่น สอนความจริงเกี่ยวกับความเชื่อพื้นฐานของคาทอลิก สอนให้มีความรู้
7) กระทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
อิกญาเชี่ยนยึดถือคำว่า “Magis” ซึ่งหมายความว่า “มากขึ้น” (more) เป็นความตั้งใจที่แน่นอนมั่นคงของพวกท่าน คือการรับใช้พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ โดยการติดตามพระเยซูเจ้าอย่างใกล้ชิดให้มากยิ่งขึ้น และในการทำงานธรรมทูตตามแบบอย่างของสมาชิกรุ่นแรก การตอบสนองต่อพระประสงค์ของพระเจ้าจะต้องเป็นเรื่องที่มีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ เป็นต้น ในการกระทำให้ดีที่สุดในเรื่องการอบรม ดังนั้นครูคำสอนจะต้องเป็นคนที่ดีตามคำสอนของศาสนา พัฒนาความเป็นผู้นำในการรับใช้ ให้ร่วมมือมากกว่าการแข็งขัน ทำให้ดีที่สุดในเรื่องการมีชีวิตเป็นประจักษ์พยาน มีชีวิตที่เป็นประจักษ์พยานในความร่วมมือกับโรงเรียนและองค์กรทางการศึกษาอื่น
8) ทำงานเป็นหมู่คณะ
อิกญาเชี่ยนได้รู้จักความรักของพระเจ้าที่เปิดเผยโดยผ่านทางชีวิตของพระเยซูเจ้า และได้ตอบสนองความรักนั้นโดยการมอบตนเองเพื่อรับใช้พระเจ้า ท่านได้แบ่งปันประสบการณ์ของท่านและดึงดูดใจเพื่อนร่วมคณะของท่านให้กลับกลายเป็นเพื่อนของพระเยซูเจ้าด้วยการรับใช้ผู้อื่น พลังของการทำงานเป็นหมู่คณะในการรับใช้พระอาณาจักรของพระเจ้า ยิ่งใหญ่กว่าการกระทำแต่เพียงลำพังหรือเฉพาะกลุ่มของตนเท่านั้น ดังนั้นครูคำสอนต้องเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้ามาร่วมมือในการทำงาน มีชีวิตเป็นหมู่คณะ ทำงานเป็นทีมทั้งระหว่างทีมงานผู้สอนกับผู้บริหาร ผู้สอนกับชุมชนการศึกษา คณะผู้บริหาร ผู้ปกครอง นักศึกษา และผู้อุปถัมภ์การศึกษา สนับสนุนชีวิตหมู่คณะ มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ มีโครงสร้างการบริหารที่เหมาะสม
9) ประเมินผลชีวิตและการทำงานอยู่เสมอ
สำหรับอิกญาเชี่ยนและสมาชิก การตัดสินใจกระทำนั้นอยู่บนพื้นฐานของกระบวนการที่ต่อเนื่องของการพิจารณาใคร่ครวญทั้งจากส่วนบุคคลและหมู่คณะในบริบทของการภาวนา โดยอาศัยการไตร่ตรองถึงผลลัพธ์ต่าง ๆ ของกิจกรรม สมาชิกได้ทบทวนการตัดสินในอดีตที่ผ่านมาและทำการประยุกต์ปรับเปลี่ยนในเรื่องของวิธีการ ในการแสวงหาวิธีที่ยิ่งใหญ่เพื่อการรับใช้พระเจ้า ดังนั้นครูคำสอนจึงต้องประยุกต์การใช้เครื่องมือและวิธีการเพื่อที่จะทำให้งานบรรลุถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงความต้องการและสถานที่ รับรู้ระบบการจัดการโรงเรียนหรือองค์กรภายใต้วิสัยทัศน์และเป้าหมายเดียวกัน และมีการแบ่งปันประสบการณ์การทำงานระหว่างกัน เข้ารับการฝึกฝนแบบมืออาชีพและรับการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เข้าใจในเจตนารมณ์การทำงานในการเป็นครูคำสอน ในโรงเรียนคาทอลิก เข้าใจบทบาทของฆราวาส และการมีส่วนร่วมดังกล่าว