คำสอนเรื่องสิทธิพิเศษของจิตใจที่บริสุทธิ์
ไม่มีสิ่งใดจะสวยงามไปกว่าจิตใจที่บริสุทธิ์ หากเราเข้าใจเรื่องนี้ดี เราก็คงจะรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ จิตใจที่บริสุทธิ์จะแยกตัวออกจากวัตถุธาตุ, จากสิ่งของทางโลก, และจากตัวจิตใจเอง... นี่คือเหตุผลการทำพลีกรรมของบรรดานักบุญ, เหตุผลที่พวกท่านไม่ทำตามความปรารถนาในใจ, ไม่ยอมแม้แต่จะลุกขึ้นจากที่นอนช้าไปอีก 5 นาที, ไม่รับประทานเพื่อความสุขสำราญ... เพราะสิ่งที่ร่างกายขาดหายไป กลับช่วยเสริมจิตใจให้สูงส่งยิ่งขึ้น และสิ่งที่เป็นกำไรของร่างกาย กลับเป็นความสูญเสียของจิตใจ
ความบริสุทธิ์มาจากสวรรค์ เราต้องขอความบริสุทธิ์จากพระเจ้า หากเราขอความบริสุทธิ์จากพระ เราก็จะได้รับ. เราต้องรักษาความบริสุทธิ์ไว้อย่างดีที่สุดเพื่อจะไม่เสียความบริสุทธิ์ไป
เราต้องปิดกั้นจิตใจของเราจากความหยิ่งจองหอง, จากความต้องการของเนื้อหนังและจากตัณหาอื่นๆ ทั้งหลาย เช่นเดียวกับการปิดประตูและหน้าต่างเพื่อมิให้ผู้ใดเข้ามาได้
ช่างเป็นความชื่นชมยินดีเสียนี่กระไร เมื่ออารักขเทวดาเป็นผู้ช่วยนำวิญญาณที่บริสุทธิ์! ลูกรัก เมื่อใดที่วิญญาณของลูกบริสุทธิ์ ชาวสวรรค์จะเฝ้ามองด้วยสายตาแห่งความรัก! วิญญาณที่บริสุทธิ์จะล่องลอยอยู่รอบพระคริสตเจ้าของลูก
วิญญาณของเราในโลกนี้บริสุทธิ์เพียงใด ก็จะอยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้าในสวรรค์เพียงนั้น
ความรักเกิดขึ้นในจิตใจที่บริสุทธิ์ เพราะจิตที่บริสุทธิ์เป็นต้นตอของความรักซึ่งได้แก่พระเจ้านั่นเอง ดังที่พระเยซูตรัสไว้ว่า “ผู้มีใจบริสุทธิ์ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า”
ลูกรัก เราไม่สามารถเข้าใจถึงพละกำลังของจิตใจที่บริสุทธิ์ที่มีต่อพระเจ้าผู้ทรงพระทัยดีได้ ทั้งนี้มิใช่เป็นเพราะผู้นั้นทำตามน้ำพระทัยของพระ แต่เป็นพระที่ทรงกระทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ ให้เราดูตัวอย่างของโมเสส ดูที่จิตใจที่บริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่งสิ เมื่อพระเจ้าจะทรงลงโทษชาวยิว พระองค์ตรัสแก่โมเสสว่า “จงอย่าสวดภาวนาเพื่อพวกเขาเลย เพราะความโกรธของเราจะต้องตกอยู่กับพวกเขา กระนั้นก็ดี โมเสสก็ได้สวดภาวนา และพระเจ้าก็ทรงระงับการลงโทษประชากรของพระองค์; พระองค์ทรงปล่อยให้พระองค์ได้รับการขอร้องอ้อนวอน; พระองค์ไม่ทรงสามารถต้านทานคำภาวนาที่มาจากจิตใจที่บริสุทธ์ได้
ลูกรัก วิญญาณที่ไม่เคยหมองหม่นเพราะบาปที่น่ารังเกียจ จะได้รับทุกสิ่งที่ขอจากพระ!
ปัจจัย 3 สิ่งในการรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์อยู่เสมอได้แก่ การสถิตอยู่ทุกแห่งหนของพระ, การสวดภาวนา, และศีลศักดิ์สิทธิ์. อีกวิธีหนึ่งคือการอ่านหนังสือบำรุงศรัทธาช่วยชุบชูวิญญาณ
วิญญาณที่บริสุทธิ์ช่างงดงามเสียนี่กระไร! พระคริสตเจ้าทรงแสดงวิญญาณที่บริสุทธิ์ดวงหนึ่งแก่นักบุญคัธริน (แห่งเซียนนา) วิญญาณดวงนั้นสวยงามมากจนท่านนักบุญถึงกับอุทานว่า “พระเจ้าข้า หากลูกไม่ทราบมาก่อนว่ามีพระเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียวแล้ว ลูกก็คงจะกล่าวว่า วิญญาณบริสุทธิ์ที่ลูกแลเห็นนี้ คือพระเจ้าองค์นั้น”
พระฉายาของพระคือภาพสะท้อนของวิญญาณที่บริสุทธิ์ เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ที่สะท้อนภาพในน้ำ
วิญญาณที่บริสุทธิ์ชื่นชมพระบุคคลทั้งสามของพระตรีเอกภาพที่ศักดิ์สิทธิ์ พระบิดาทรงคิดคำนึงถึงผลงานของพระองค์โดยตรัสว่า ‘นี่คือสิ่งสร้างของเรา!’... พระโลหิตที่ทรงคุณค่าของพระบุตรเป็นความงามตามราคาของพระโลหิตนั้น... พระจิตประทับอยู่ในสิ่งสร้างของพระบิดาและในพระวิหาร
เรารู้จักคุณค่าของวิญญาณของเราเมื่อได้เห็นความพยายามทำลายวิญญาณของปีศาจ นรกเป็นภาคีเดียวกันกับศัตรูของวิญญาณ ส่วนสวรรค์เป็นภาคีเดียวกันกับวิญญาณ วิญญาณจึงต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากทีเดียว! เพื่อจะเข้าใจถึงศักดิ์ศรีของมนุษย์ บ่อยครั้ง เราต้องคิดถึงสวรรค์, คิดถึงกางเขนบนเขากัลวาริโอ, และคิดถึงนรก
หากเราสามารถเข้าใจว่าการเป็นลูกของพระคืออะไรแล้ว เราคงจะไม่ทำสิ่งชั่วร้ายกัน – เราคงเป็นเหมือนนิกรเทวดาบนโลกมนุษย์ การเป็นลูกพระช่างเป็นเกียรติจริงๆ!
เป็นความงดงามอย่างหนึ่งที่มีดวงใจที่ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กสักเพียงใด ก็ยังสามารถรักพระได้
เป็นสิ่งที่น่าละอายสักเพียงใดที่มนุษย์ลดตัวลงสู่ความต่ำต้อยได้เช่นนั้น ทั้งที่พระได้จัดวางมนุษย์ไว้ในที่สูงส่ง!
เมื่อเทวดาพวกนั้นกบฎต่อพระเจ้า พระองค์ผู้ทรงความดี ทรงแลเห็นว่าพวกเขาไม่สามารถจะอยู่ในสถานะแห่งความสุขได้อีกต่อไป พระองค์จึงทรงสร้างมนุษย์และประทานโลกน้อยใบนี้ให้ เพื่อใช้เลี้ยงร่างกาย แต่วิญญาณของมนุษย์ก็ต้องการอาหารเช่นกัน และก็ไม่มีสิ่งสร้างใดใช้เป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณที่เป็นจิตได้ พระเจ้าจึง ประทานพระองค์เองเป็นอาหารแก่วิญญาณของมนุษย์ แต่ช่างเป็นความอับโชคอย่างมากที่เราละเลยอาหารทิพย์ของพระองค์ขณะที่เราเดินทางข้ามทะเลทรายที่แห้งแล้งของชีวิต เราจึงเป็นเหมือนผู้ที่เสียชีวิตเพราะความหิวทั้งที่แลเห็นโต๊ะที่มีอาหารวางอยู่อย่างเพียบพร้อมอยู่ข้างหน้า บางคนมิได้ให้อาหารแก่วิญญาณของตนเลยนานถึง50, 60 ปี!
• หากคริสตังสามารถเข้าใจภาษาของพระคริสตเจ้าผู้ตรัสกับพวกเขาว่า “ไม่ว่าเจ้าจะน่าสมเพชสักเพียงใด เราก็ยังอยากเห็นวิญญาณที่สวยงามอย่างใกล้ชิด เป็นวิญญาณที่เราสร้างขึ้นเพื่อเราเอง เราสร้างวิญญาณให้สูงส่งจนไม่มีสิ่งใดจะทำให้วิญญาณอิ่มได้นอกจากตัวเราเอง เราได้สร้างวิญญาณให้บริสุทธิ์มากจนไม่มีสิ่งใดที่จะใช้เป็นอาหารสำหรับวิญญาณได้ นอกจากร่างกายของเรา”
• พระเยซูคริสตเจ้าทรงรู้จักจิตใจที่บริสุทธิ์เสมอ ให้เราพิจารณาดูนักบุญยอห์น (อัครสาวก) ศิษย์ที่พระองค์ทรงรัก ศิษย์ที่เอนกายชิดพระอุระพระเยซูเจ้า หรือนักบุญคัธริน (แห่งเซียนนา) ผู้บริสุทธิ์ เมื่อเธอถึงแก่กรรม เหล่านิกรเทวดาได้นำร่างของเธอไปฝังที่ยอดเขาซีนาย ที่ซึ่งโมเสสได้รับพระบัญญัติ จะเห็นว่า วิญญาณที่บริสุทธิ์เป็นที่พอพระทัยพระองค์มากเพียงใด เป็นวิญญาณที่ทำให้แม้แต่ร่างกายที่มีส่วนร่วมในความบริสุทธิ์นั้นสมควรได้รับการฝังศพโดยเหล่านิกรเทวดา
• พระเจ้าทรงรับวิญญาณที่บริสุทธิ์ไว้ด้วยความรัก พระองค์ประทานทุกสิ่งที่วิญญาณที่บริสุทธิ์ร้องขอ พระองค์จะปฏิเสธได้อย่างไรกับวิญญาณที่มีชีวิตเพื่อพระองค์, อยู่กับพระองค์, และอยู่ในพระองค์แต่เพียงผู้เดียว? วิญญาณที่บริสุทธิ์แสวงหาพระ และพระองค์ก็ทรงแสดงพระองค์เพื่อวิญญาณนั้น. เมื่อวิญญาณที่บริสุทธิ์ร้องหาพระองค์ๆ ก็จะเสด็จมาหา; วิญญาณที่บริสุทธิ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เป็นวิญญาณที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ เป็นวิญญาณที่มีพลานุภาพร่วมอยู่กับพระหฤทัยที่อ่อนโยนของพระคริสตเจ้า. วิญญาณที่บริสุทธิ์อยู่เคียงข้างพระเช่นเดียวกับลูกน้อยที่อยู่กับมารดา ลูกจะลูบไล้ผู้เป็นแม่ ขณะที่แม่ก็จะโอบกอดตอบด้วยความอ่อนโยนเช่นกัน
**** ขอบคุณข้อมูลจากคุณพ่อวิจิตต์ แสงหาญ เจ้าอาวาสวัดเซนต์จอห์น
แปลจาก http://saints.sqpn.com/stj18008.htm