ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2012
พระวาจาของพระเจ้าประจำวันอาทิตย์นี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างพันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าพันธสัญญาเดิมนั้นปูทางไปสู่ความจริงเรื่องของพระเยซูเจ้า ตามที่พระวรสารของนักบุญยอห์นได้อ้างอิงคำสอนของพระเยซูเจ้าว่า “โมเสสได้ยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร”(ยอห์น 3:14-15)
เรื่องโมเสสยกรูปงูมีอยู่ว่า เมื่อโมเสสได้นำชาวอิสราเอลออกจากการเป็นทาสของชาวอียิปต์ พวกเขาต้องประสบกับความลำบากในการเดินทาง ต้องอดอยาก ขาดอาหารขาดน้ำ พวกเขาจึงพากันบ่นว่าต่อพระเจ้าและโมเสส “ทำไมพาเราออกจากอียิปต์มาตายถิ่นทุรกันดาร เพราะไม่มีอาหารและไม่มีน้ำ เราเบื่ออาหารไร้ค่านี้” ผลจาการบ่นว่าพระเจ้าและคนของพระเจ้า “พระเจ้าก็ทรงให้งูแมวเซามาในหมู่ประชาชน งูก็กัดประชาชนและคนอิสราเอลตายมาก” ประชาชนมาหาโมเสสกล่าวว่า “เราทั้งหลายได้บ่นว่าพระเจ้าและบ่นว่าท่าน ขอทูลแด่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงนำงูไปจากเราเสีย” ดังนั้นโมเสสจึงอธิษฐานเพื่อประชาชน และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงทำงูแมวเซาตัวหนึ่งติดไว้ที่เสา ทุกคนที่ถูกงูกัด เมื่อเขามองดูเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้” ดังนั้นโมเสสจึงทำงูทองสัมฤทธิ์ตัวหนึ่ง และติดไว้ที่เสา แล้วถ้างูกัดคนใด ถ้าเขามองดูงูทองสัมฤทธิ์นั้น เขาก็จะมีชีวิต(กันดารวิถี 21:4-9)
ดังนั้นภาพของ “งูที่แขวนบนเสา” จึงเปรียบเสมือนภาพ “พระเยซูเจ้าที่ทรงถูกแขวนไว้บนไม้กางเขน” ใครที่มองภาพงูก็จะมีชีวิตฉันใด ใครที่มอง ใครที่พึ่งพา ใครที่วางไว้ใจ ใครที่เชื่อในพระเยซูเจ้าผู้ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนก็จะได้รับชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณอันเป็นนิรันดร์ฉันนั้น
นักบุญยอห์นได้ตอกย้ำในเรื่องความเชื่อต่อพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรของพระองค์เพียงพระองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร”(ยอห์น 3:16) จากนั้นในข้อที่ 17 นักบุญได้เปิดเผยถึงข่าวดีเรื่องพระเยซูเจ้าต่อไปว่า “เพราะพระเจ้าทรงส่งพระบุตรมาในโลกนี้มิใช่เพื่อตัดสินลงโทษแต่เพื่อโลกจะได้รับความรอดพ้นเดชะพระบุตรนั้น”(ยอห์น 3:17)
ถ้อยคำทั้งสองที่อ้างอิงไว้นั้น เป็นถ้อยคำที่ให้กำลังใจและดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาศึกษาเรื่องราวคำสอนและชีวิตของพระเยซูเจ้า
คุณพ่อมาร์ก ลินก์ ผู้เขียนบทเทศน์ที่มีชื่อเสียงได้เปรียบเทียบพระวาจาทั้งสองตอนนี้กับเรื่องของวิศกรที่ออกแบบ “ถังออกซิเจน” สำหรับมนุษย์อวกาศ เพื่อให้นักอวกาศสามารถเดินทางจากยานอวกาศไปสำรวจบนพื้นผิวดวงจันทร์ได้นั้น เขาจำเป็นต้องมีสายโยงระหว่างตัวเขากับยานอวกาศและมีถังออกซิเจนเพื่อการหายใจ เราทุกคนต่างกำลังเดินทางจากโลกนี้ไปยังเมื่อสวรรค์ เราจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าเป็นออกซิเจนและสายโยงเรากับเมืองสวรรค์ เราขาดพระเยซูเจ้าไม่ได้ พระเจ้าทรงส่งพระเยซูเจ้ามาเพื่อช่วยเราให้สามารถเดินทางกลับไปยังเมืองสวรรค์ สถานที่ที่เป็นจุดกำเนิดและจุดหมายปลายทางแห่งชีวิตของเรา
ข้อสรุปคิดจากพระคัมภีร์ในวันนี้ คือ หนึ่ง อย่าบ่นว่าพระเจ้าและคนของพระเจ้า สอง พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแท้ที่เราพึ่งพาอาศัยได้อย่างแท้จริง จงเชื่อและวางใจในพระองค์ตลอดชีวิตของท่านเถิด