บทเรียนที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 1998
หัวข้อเรื่อง พระจิตองค์ความหวัง
จุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้เรียนรู้จักพึ่งพาพระจิตในกรณีต่างๆ ของชีวิต
เป็นต้นด้วยการสวดภาวนา ขั้นที่ 1 กิจกรรม
ครูให้ผู้เรียนพิจารณาอย่างเงียบๆ สักครู่หนึ่งว่า ในสถานการณ์ยุ่งยากอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบันนี้ ผู้เรียนรู้สึกเป็นห่วงอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของผู้เรียนเอง (พ่อ แม่ น้อง ตัวผู้เรียนเอง) มากที่สุด และมีวิธีแก้ไขอย่างไร (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องเขียน)
ตัวอย่าง
เรื่อง วิธีแก้ไข
พ่อแม่ตกงาน ...........................................................................
พ่อแม่ทะเลาะกัน ...........................................................................
พี่น้องติดยาเสพติด ...........................................................................
ไม่มีเงินเสียค่าเล่าเรียน ...........................................................................
ไม่มีเงินค่าขนม ...........................................................................
การสอบไล่ที่กำลังมาถึง ...........................................................................
รายได้ลดลง ...........................................................................
ไม่มีเงินผ่อนบ้าน รถยนต์ ...........................................................................
ฯลฯ
ให้ผู้เรียนเขียนลงในกระดาษ หรือสมุดการบ้าน
เสร็จแล้วให้ผู้เรียนสมัครมาอ่านให้ครูและเพื่อนๆ ฟัง (ถ้าใครไม่อยากอ่านก็ไม่บังคับ)
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
ครูพูดให้กำลังใจผู้เรียนว่า
- สิ่งที่ผู้เรียนเป็นห่วงเป็นปัญหาของคนเป็นอันมากในขณะนี้
- บางอย่างก็สามารถช่วยเหลือกันได้ แก้ไขได้ด้วยตัวเอง
- บางอย่างก็เกินความสามารถของเรามนุษย์ ต้องพึ่งพระเจ้าเบื้องบน
สรุป ปัญหา ความยุ่งยาก เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ พระเจ้ายังคงเฝ้าระวังดูและเราอยู่และพระองคืมีวิธีแก้ไขของพระองค์พร้อมอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะวอนขอพระองค์ช่วยเราเมื่อไร
ขั้นที่ 3 คำสอน
1. “พระเป็นเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้มนุษย์พินาศ แต่ให้มีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16) นับตั้งแต่มนุษย์คู่แรกได้กระทำผิด พระองค์ก็ได้ทรงส่งพระบุตรลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยไถ่กู้มนุษย์
พระคัมภีร์พันธสัญญาเก่ามีจารึกพระวาจาที่เตือนให้วางใจในความช่วยเหลือของพระองค์เป็นจำนวนมากอาทิเช่น
“พระเจ้าสถิตใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ด้วยใจจริง” (สดด 145:18)
“พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงร้องทูลเรา และเราจะตอบเจ้า และจะบอกสิ่งสำคัญที่ยิ่งใหญ่และที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าไม่รู้นั้นแก่เจ้า” (ยรม 33:3)
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่จารึกภารกิจของพระบุตรเยซูคริสต์ซึ่งเสด็จมาเพื่อคนที่มีปัญหา คือ คนจน คนพิการ คนที่สังคมรังเกียจ คนเจ็บป่วย คนบาป พระองค์ตรัสยืนยันว่า สิ่งที่ประกาศกอิสยาห์กล่าวพยาการณ์ไว้นั้นก็สำเร็จในตัวพระองค์แล้ว นั่นก็คือ “พระองค์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้เพื่อนำข่าวดีมาให้คนยากจน พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้าให้มาประกาศอิสรภาพแก่เชลย ประกาศให้คนตาบอดทราบว่าจะได้เห็นอีก และคนที่ถูกกดขี่ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ และกประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า” (อสย 61:1-2)
2. โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันซึ่งเป็นยุคชองพระจิตนี้ องค์พระจิต ผู้ทรงเป็น “องคืพระผู้ช่วย” และ “องค์ความบรรเทา” ได้เสด็จมาเสริมความหวังนี้ให้แก่มวลมนุษย์ นับตั้งแต่วาระแรกที่เสด็จมา
2.1 ชุบความหวังให้อัครสาวกที่ “ไปชุมนุมกันในห้อง ปิดประตูเพราะกลัวพวกยิว” (ยน 20:19) พวกเขากำลังตกอยู่ในสภาพหมดหวัง แต่พระจิตได้เสริมความหวังให้แก่พวกเขา “เปโตรจึงยืนขึ้นกับอัครสาวกอีกสิบเอ็ดองค์ และกล่าวแก่คนทั้งปวงด้วยเสียงอันดังว่า......” (กจ 2:14) ดูพวกเขาเปลี่ยนเป็นคนละคน มีชีวิตชีวา มีพลัง พร้อมที่จะเผชิญกับทุกอย่าง เพราะมีพระจิตเป็นผู้สนับสนุน
2.2 ชุบความหวังให้แก่พระศาสนจักรในยุคเริ่มต้น “พวกเขาขะมักเขม้นฟังคำสอนของพวกอัครสาวก มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน ทั้งขะมักเขม้นในการหักปังและการอธิษฐานภาวนา” (กจ 2:42) และดุจะเพิ่มความหวังมากขึ้นเมื่อถูกเบียดเบียนในเวลาต่อมา
2.3 นักบุญเปโตรจึงกล่าวคำให้กำลังใจว่า “แม้ท่านทั้งหลายต้องทนทุกข์เพราะประพฤติชอบธรรม ท่านก็เป็นสุข อย่ากลัวเขา อย่าคิดวิตกไปเลย.....จงเตรียมตัวไว้ให้พร้อมเสมอ เพื่อท่านจะสามารถตอบทุกคนที่ถามท่านว่า ท่านมีความหวังเช่นนี้ด้วยเหตุผลประการใด” (1ปต 3:14-15) แสดงว่าความหวังของคริสตชนในยุคนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่คนอื่นๆ และช่วยนำพวกเขาเข้ามาร่วมความหวังอันเดียวกันด้วย
3. ตัวอย่างของผู้ที่เปี่ยมด้วยความหวัง
ในพระคัมภีร์
- อาบราฮัม ความหวังที่จะได้เป็นบิดาของนานาชาติดูมืดมน ไม่มีทางเป็นไปได้เพราะอายุมากแล้ว นางเอลีซาเบธก็เป็นหมัน มิหนำซ้ำพอจะมีบุตรสืบตระกูลสักคนคืออิสอัคพระเป็นเจ้าก็สั่งให้เอาไปฆ่าเป็นบูชาถวายแด่พระองค์บนภูเขา นักบุญเปาโลจึงยกย่องความหวังของท่านว่า “ฝ่ายอาบราฮัม เมื่อไม่มีหวังที่น่าจะหวังได้ ก็ยังเชื่อและหวังจะได้เป็นบิดาของนานาชาติ” (รม 4:18)
- โยบ ถูกทดลองจากพระเจ้า บุตรชายหญิง ข้าทาสบริวาร ฝูงสัตว์ถูกทำลายสิ้นทั้งๆ ที่โยบ “เป็นคนดี รอบคอบ เที่ยงธรรม เกรงกลัวพระเจ้า และหันไปเสียจากความชั่วร้ายทั้งปวง” (โยบ 1:1) แทนที่จะต่อว่าพระเจ้า โยบกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเกิดจากครรภ์มารดามาตัวเปล่า ข้าพเจ้าก็จะกลับไปตัวเปล่า พระเจ้าประทานให้ พระเจ้าทรงเอากลับไป สาธุการแด่พระนามของพระองค์” (โยบ 1:21) ต่อมาพระเจ้าทดลองโยบอีก ให้สูญเสียสุขภาพเป็นโรคร้ายพุพองเน่าเฟะทั้งตัว ภรรยาเฉดหัวออกไปนอกบ้านกล่าวว่า “ยังจะซื่อสัตย์เชื่อพระเชื่อเจ้าอีกหรือ จงแช่งพระเจ้าและตายเสียเถอะ” แต่โยบตอบนางว่า “เธอพูดอย่างหญิงโง่เรารับสิ่งดีๆ จากพระเจ้า แล้วจะไม่รับสิ่งไม่ดีจากพระองค์บ้างหรือ?” (โยบ 2:9-10) พระเจ้าอวยพรโยบที่ไม่สูญสิ้นความหวังในพระองค์ ให้มีสุขภาพแข็งแรง มีบุตรชายหญิง ข้าทาสบริวาร ฝูงสัตว์มากมายกว่าเก่าอีก
4. ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในปัจจุบันอันเนื่องจากเศรษฐกิจถดถอยนี้ เราทุกคนต่างก็ต้องเผชิญกับปัญหาและความยากลำบากในการดำรงชีพ แน่นอน เราคงต้องออกแรงออกกำลังทำงานให้มากขึ้น และที่สำคัญเราต้องฝากความหวังไว้กับพระจิต ให้พระองค์ทรงช่วยชุบชูกำลังโดยการภาวนาเรียกหาพระองค์อยู่เสมอๆ เป็นต้น ในยามท้อแท้ใจ หมดหวัง
พระจิตเป็นองค์ความหวังฺ เพราะพระเยซูคริสต์ตรัสไว้ว่า “เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว เราจะมาหาท่าน” (ยน 14:18) และพระองค์ก็มาหาโดยประทานพระจิตให้ พระจิตนั้นจะ “ทรงสอนท่านทุกสิ่ง และจำทำให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราได้กล่าวไว้แก่ท่าน” (ยน 14:26) นั่นคือภารกิจฟื้นฟูความหวังขึ้น
พระจิตเป็นพลัง พระองค์เสด็จมาในรูปของไฟซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความร้อนและพลัง ทรงเปลี่ยนจิตใจของพวกอัครสาวกให่เร่าร้อนด้วยไฟนั้นในพริบตา ในบทภาวนาถึงพระจิตเราจึงกล่าวกับพระองค์ว่า “เชิญมาสถิตในดวงใจสัตบุรุษ และบันดาลให้เร่าร้อนด้วยความรักต่อพระองค์”
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ
1. พรจิตคือองค์ความหวังและพลัง
2. พระเจ้าสถิตใกล้ทุกคนที่ร้องทูลพระองค์ (สดด 145:18)
3. จงเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ เพื่อท่านจะสามารถตอบคำถามทุกคนที่ถามท่านว่าท่านมีความหวังเช่นนี้ด้วยเหตุผลประการใด” (1ปต 3:15)
4. แม้ไม่มีหวังที่น่าจะหวังได้ แต่ท่านก็ยังหวังจะได้เป็นบิดาของนานาชาติ” (รม 4:18)
ข. กิจกรรม
ให้ผู้เรียนเขียนบทภาวนาวอนขอต่อพระจิตเจ้าให้ช่วยแก้ความเป็นห่วงกังวลใจของแต่ละคนลงในกระดาษ หรือสมุดการบ้าน ต่อจากที่ได้เขียนใน ขั้นที่ 1 กิจกรรม เสร็จแล้วให้อาสาสมัครออกมาภาวนาหน้าชั้นสัก 4-5 คน ที่เหลือให้ไปภาวนาที่บ้านทุกวัน
ภาวนาพร้อมกันดังต่อไปนี้
ค. การบ้าน
วาดภาพ สมอเรือ (สัญลักษณ์ของความหวัง)
เขียนถ้อยคำประกอบใต้ภาพว่า “พระจิตองค์ความหวัง”
วาดภาพ เปลวไฟ (สัญลักษณ์ของพลัง)
เขียนถ้อยคำประกอบใต้ภาพว่า “พระจิตองค์พลัง”
นำภาพมาประกวดที่โรงเรียน เสร็จแล้วนำไปติดไว้ที่บ้าน เพื่อเตือนให้คิดถึงพระจิตเสมอ