บทเรียนที่ 1 เดือนธันวาคม 1997
หัวข้อเรื่อง “ไม่รู้จักพระคัมภีร์ ก็ไม่รู้จักพระคริสต์” (นักบุญ เยโรม)
จุดมุ่งหมาย ให้ผู้เรียนสนใจ รักการอ่านพระคัมภีร์ โดยเฉพาะพระวรสาร จะได้สัมผัส เข้าใจ เกิดความประทับใจ และนำเอาไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
ขั้นที่ 1 กิจกรรม
เด็กโต ครูแสดงภาพเหตุการณ์ในพระวรสารตามที่แนบมานี้ทีละภาพ ตามลดับในขั้นที่ 2 วิเคราะห์ ข้างล่าง
ให้ผู้เรียนช่วยกันตอบว่า
- เป็นภาพเหตุการณ์อะไร?
- อยู่ตอนไหนในพระวรสาร? (ครูบอกชื่อ “พระวรสาร-โดย.....” “บทที่.....” ให้ผู้เรียนหา “ข้อที่.....” เอง)
- มีรายละเอียดอย่างไร? (ช่วยกันเล่า)
เด็กเล็ก ครูแสดง หรือวาดภาพลายเส้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ในพระวรสารตามที่แนบมานี้ทีละภาพ ตามลำดับในขั้นที่ 2 วิเคราะห์ ข้างล่าง
ให้ผู้เรียนช่วยกันตอบว่า
- เป็นภาพเหตุการณ์อะไร?
- มีรายละเอียดอย่างไร? (ครูเล่า หรือให้ผู้เรียนช่วยกันเล่าโดยครูคอยถามนำทีละตอน)
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
ความหมายและพระวาจาที่น่าจดจำ
เด็กโต
ภาพที่ 1 เหตุการณ์ “พระเยซูทรงอวยพรเด็กเล็กๆ”
ความหมาย “ความซื่อ บริสุทธิ์ ไร้มายา เป็นคุณธรรมที่พระเจ้าทรงโปรดปราน” อยู่ในพระวรสารโดย นักบุญมาระโก บทที่ 10 ข้อที่ 13-16 พระวาจาที่น่าจดจำ - “แผ่นดิน (อาณาจักร) ของพระเจ้าเป็นของคนเช่นเด็กเหล่านี้
- “ผู้ใดไม่รับแผ่นดิน (อาณาจักร) ของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็กๆ ผู้นั้นจะเข้าแผ่นดิน (อาณาจักร) ของพระเจ้าไม่ได้
ภาพที่ 2 เหตุการณ์ “พระเยซูกับศักเคียส”
ความหมาย “ความบาปหนาสักเท่าไรก็ยังรอดได้ ถ้าเขากลับใจ”
พระวรสารโดย นักบุญลูกา บทที่ 19 ข้อที่ 1-10
พระวาจาที่น่าจดจำ - “วันนี้ความรอดเข้ามาถึงบ้านนี้แล้ว”
- “บุตรมนุษย์มาเพื่อตามหาและช่วยคนที่หลงหายไป
ให้รอด”
ภาพที่ 3 เหตุการณ์ “พระเยซูทรงล้างเท้าของพวกสาวก”
ความหมาย “ความรักคือการเสียสละ”
“การเป็นใหญ่คือการรับใช้”
พระวรสารโดย นักบุญยอห์น บทที่ 13 ข้อที่ 4-17
พระวาจาที่น่าจดจำ - “ถ้าเราผู้เป็นองคืพระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์ของ
พวกท่านยังล้างเท้าให้พวกท่าน พวกท่านก็ควรจะ
ล้างเท้าของกันด้วย”
- “เราได้วางแบบอย่างแก่ท่านแล้วเพื่อให้ท่านทำ
เหมือนดังที่เราได้กระทำแก่ท่านด้วย”
เด็กเล็ก
ภาพที่ 1 เหตุการณ์ “การเลี้ยงคนห้าพัน”
ความหมาย “การเลี้ยงอาหารทางกาย เป็นรูปแบบของการเลี้ยงอาหารทางใจในภายภาคหน้า โดยศีลมหาสนิท”
อยู่ในพระวรสารโดย นักบุญมัทธิว บทที่ 14 ข้อที่ 13-21
พระวาจาที่น่าจดจำ - “พระองค์ทรงหยิบขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้น ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นเบื้องบน ถวายคำสดุดีและหักส่งให้เหล่าสาวก”
- “เศษอาหารที่ยังเหลือนั้น เขาเก็บไว้ได้ถึงสิบสองกระบุงเต็ม”
ภาพที่ 2 เหตุการณ์ “จับปลาได้เป็นอันมาก”
ความหมาย “หน้าที่ของคริสตชนทุกคนคือ นำมนุษย์เป็นจำนวนมากเข้ามาหาพระเจ้า”
อยู่ในพระวรสารโดย นักบุญลูกา บทที่ 5 ข้อที่ 1-11
พระวาจาที่น่าจดจำ - “ข้าพเจ้าทั้งหลายตีอวนตลอดคืนไม่ได้อะไรเลย” (ปราศจากพระเยซูทำอะไรไม่ได้เลย)
- “เมื่อเขาหย่อนอวนลง ก็จับปลาได้เป็นจำนวนมากจนอวนปริ” (มีพระเยซูอยู่ด้วย ทำอะไรก็เกิดผลมากมาย)
- “แต่นี้ไปเราจะให้ท่านเป็นคนจับมนุษย์” (ชักพาเพื่อนๆ มาหาพระเยซู)
ภาพที่ 3 เหตุการณ์ “เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างผู้พิชิต”
ความหมาย “พระเยซูทรงนำขบวนแห่เข้าสู่เมืองสวรรค์”
อยู่ในพระวรสารโดย นักบุญมาระโก บทที่ 11 ข้อที่ 1-10
พระวาจาที่น่าจดจำ - “คนเป็นอันมากเอาเสื้อผ้ามาปูตามถนน บางคนก็ตัดกิ่งไม้มากโบกต้อนรับพระเยซู”
- “ขอถวายพรแด่ผู้ที่มาในพระนามของพระเจ้า สาธุการ ณ ที่สูงสุด”
ขั้นที่ 3 คำสอน
1. พระเยซูคริสต์เสด็จมานำความสุขความยินดีมาสู่เรามนุษย์ เราโชคดีที่ได้รู้จักพระองค์ ได้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ และได้ฟังพระวาจาคำสั่งสอนของพระองค์เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในปัจจุบัน และบรรลุถึงความรอดในชีวิตหน้า พร้อมกับเราก็มีคริสตชนอีกมากมายกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนมนุษย์ ในโลกที่ได้มีบุญรู้จักและศรัทธาเลื่อมใสในองค์พระเยซูคริสต์ด้วย อะไรทำให้เราและเพื่อนคริสตชนเป็นผู้โชคดีเช่นนี้?
2. ก็ “พระคัมภีร์” นั่นเอง เพราะพระคัมภีร์บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ไว้ให้เราได้อ่าน ได้รู้ ได้เลื่อมใส ได้พบข่าวดีแห่งความรอด ถ้าไม่มีพระคัมภีร์หรือไม่รู้จักพระคัมภีร์เราคงไม่มีโชควาสนาเช่นนี้ นักบุญ เยโรม ซึ่งเป็นปราชญ์ทางพระคัมภีร์จึงกล่าววาจาอันเป็นอมตะว่า “ไม่รู้จักพระคัมภีร์ ก็ไม่รู้จักพระคริสต์” ซึ่งเป็นความจริงยิ่งนัก
พระคัมภีร์เป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ ที่พระจิตทรงดลใจให้เขียนขึ้นเพื่อบันทึกความจริงที่เกี่ยวกับความรอดของเรามนุษย์ โดยที่ทรงปล่อยให้ผู้เขียนมีอิสระที่จะเขียนแสดงความจริงเหล่านั้นโดยอาศัยภูมิปัญญาของตนเองที่มีอยู่ตามสภาพของสังคมและสิ่งแวดล้อมในสมัยนั้น เราจึงต้องมีผู้อธิบายหรือตีความพระคัมภีร์เพื่อจะได้เข้าใจได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด ใครจะมาเป็นผู้อธิบายให้เราฟัง?
3. พระศาสนจักรได้รับมอบอำนาจและหน้าที่ที่จะอธิบายและตีความพระคัมภีร์ให้เราฟัง พระเยซูคริสต์ตรัสกับพวกอัครสาวกว่า “เมื่อพระจิตแห่งความจริงเสด็จมาพระองค์จะนำท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล” (ยน 16:13) พระจิตซึ่งดลใจคนเขียนพระคัมภีร์ให้เขียนแสดงความจิรงอย่างถูกต้อง พระจิตองค์เดียวกันนั้นก็จะดลใจพวกอัครสาวก และผู้สืบตำแหน่งของอัครสาวกนั้นให้อธิบายและตีความพระคัมภีร์ได้อย่างถูกต้องด้วย
4. พระคัมภีร์ โดยเฉพาะพระวรสาร เป็นเพื่อนคู่ชีวิตเราได้อย่างมีประสิทธิภาพอาทิเช่น
ในยามสุข “จงเปรมปรีดิ์ เพราะชื่อของท่านมีบันทึกไว้ในสวรรค์แล้ว” (ลก 10:20)
“จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา ข้าพเจ้าขอย้ำอีกว่าจงชื่นชมยินดีเถิด” (ฟป 4:4)
ในยามทุกข์ “ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงยินดีเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว” (ยน 16:33)
“ท่านทั้งหลายจะทุกข์โศก แต่ความทุกข์โศกของท่านจะกลับกลายเป็นความยินดี” (ยน 16:20)
ความสำเร็จ “ปราศจากเรา ท่านทำอะไรไม่ได้เลย” (ยน 15:5)
“ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเราแล้ว ใครจะขัดขวางเราได้?” (รม 8:31)
ความล้มเหลว “เมล็ดข้าวเมื่อตกลงดินแล้วไม่เปื่อยเน่าไป มันจะคงอยู่เมล็ดเดียว แต่ถ้ามันเปื่อยเน่าไปแล้ว มันก็จะงอกเป็นต้นใหม่ขึ้นมาเกิดผลเป็นอันมาก” (ยน 12:24)
“ผู้ใดใคร่เอาชีวิตรอด จะเสียชีวิต แต่ผู้ใดยอมเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา จะได้ชีวิตรอด” (ลก 9:24)
บาป “เรามิได้มาเพื่อตามหาคนดี แต่มาตามหาคนบาป” (มธ 9:13)
“ลูกเอ๋ย บาป ของลูกได้รับการอภัยแล้ว” (มก 2:5)
เจ็บป่วย “พระเจ้าข้า ผู้ที่พระองค์รักกำลังป่วยอยู่” (ยน 11:3)
“พระองค์ทรงสงสารพวกเขา จึงได้ทรงรักษาคนป่วยให้หาย” (มธ 14:14)
เกิด “ชีวิตสำคัญกว่าอาหารมิใช่หรือ?” (มธ 6:25)
“ท่านคือบุตรสุดที่รักของเรา เราพอใจในท่านมาก” (มธ 3:17)
ตาย “เราคือการกลับคืนชีพและชีวิต” (ยน 11:25)
“ผู้ที่เชื่อในเรา แม้ตายไปแล้วก็กลับมีชีวิตอีก” (ยน 11:25)
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ
1. “ไม่รู้จักพระคัมภีร์ ก็ไม่รู้จักพระคริสต์” (นักบุญ เยโรม)
2. พระศาสนจักรได้รับมอบอำนาจให้เป็นผู้รักษาและอธิบายพระคัมภีร์อย่างถูกต้อง
3. พระคัมภีร์เป็นหนังสือคู่ชีวิต เราสามารถพบคำบันดาลใจในกรณีต่างๆ ของชีวิตในพระคัมภีร์
ข. กิจกรรม
1. ให้ผู้เรียนท่องจำพระวาจาในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงข้างบน (ขั้นที่ 3 คำสอน 4) มาคนละ 5 ประโยค เสร็จแล้วมาให้ครูเอาการ
2. จัดวจนพิธีกรรมสั้นๆ ถวายเกียรติพระคัมภีร์
- แห่พระคัมภีร์เข้ามาว่างไว้ ณ สถานที่เหมาะสม
- ร้องเพลง “วาทะพระเจ้า” (หนังสือ ปรารถนา หน้า 78 ซี)
- อ่านพระคัมภีร์ ลก 8:4-8 (เรื่อง “ผู้หว่าน)
- ครูอธิบายความหมายสั้นๆ (เทียบ ลก 8:11-15)
- ถวายช่อดอกไม้แด่พระคัมภีร์ (หรืออกมากราบคารวะพระคัมภีร์ทีละคน)
- ร้องเพลง “ขอบพระคุณ” (หนังสือ ปรารถนาหน้า 195 บี)
ค. การบ้าน เขียนพระวาจาที่ท่องจำลงบนแผ่นโปสเตอร์ แล้วนำไปแขวนไว้ตามที่ต่างๆ ที่บริเวณโรงเรียน เช่น ต้นไม้ ฯลฯ หรือที่บ้าน