หัวข้อเรื่อง โยเซฟบุรุษผู้ใจกว้าง
จุดมุ่งหมาย เพื่อให้นักเรียนสำนึกถึง “ลูกผู้ชายต้องใจกว้าง”
เกิดความภาคภูมิใจและนำไปปฏิบัติในชีวิตจริง ๆ
ขั้นที่ 1 กิจกรรม
ครูนำเสนอวีดีโอเรื่อง “โยเซฟในอียิปต์” หรือ “โยเซฟกับพี่น้อง” ถ้ามี หรือครูเล่าเรื่องโยเซฟ โดยใช้ภาพประกอบดังนี้
เรื่องโยเซฟกับพี่น้อง
โยเซฟเป็นลูกของยาโคบ บิดารักมากกว่าพี่น้องอื่น ๆ อีกสิบเอ็ดคน เพราะโยเซฟเกิดมาเมื่อยาโคบมีอายุมากแล้ว บิดาจึงเอาอกเอาใจ เช่น ตัดเสื้อผ้าพิเศษให้สวมใส่ พี่ ๆ จึงอิจฉา ยิ่งกว่านั้นโยเซฟมักฝันในทำนองที่พี่ ๆ ต้องมากราบไหว้ตน เช่น ฝันว่ากำลังเกี่ยวข้าวในทุ่งนา ฟ่อนข้าวของโยเซฟลุกตั้งขึ้น และฟ่อนข้าวของพี่ ๆ ต่างโค้งคำนับฟ่อนข้าวของโยเซฟ หรือฝันเห็นดวงอาทิตย์ มีดาวสิบเอ็ดดวงมากราบไหว้ ยิ่งทำให้พวกพี่ ๆ โกรธและอิจฉามากขึ้น
วันหนึ่งยาโคบใช้โยเซฟไปดูซิว่า พวกพี่ ๆ นำฝูงแกะไปเลี้ยงที่เมืองเชเคมเป็นอย่างไร พอไปถึงพวกพี่ก็พูดกันว่า “นี่แน่ะ เจ้านักฝันมาแล้ว เราจงฆ่ามันเสียเถิด” แต่พี่ชายคนโตชื่อรูเบนเกิดสงสารน้องจึงบอกว่า “อย่าเลย เพราะยังไง ๆ มันก็ยังเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกับเรา สู้จับมันทิ้งลงไปในบ่อแห้งนี้ดีกว่า” พวกพี่ ๆ เห็นด้วยจึงจับโยเซฟทิ้งลงไปในบ่อแห้ง พอดีมีกองคาราวานพ่อค้าผ่านมา พวกพี่ ๆ จึงเห็นเป็นโอกาสเหมาะขายโยเซฟให้แก่พ่อค้าเหล่านั้นเป็นเงิน 20 เหรียญ พ่อค้าก็นำโยเซฟไปประเทศอียิปต์ ส่วนพวกพี่ ๆ ก็ออกอุบายกลับไปบอกยาโคบบิดาว่าพบเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของโยเซฟ เข้าใจว่าคงถูกสัตว์ร้ายขบกินไปแล้ว ยาโคบก็ร้องไห้เสียใจมาก
พ่อค้าขายโยเซฟให้แก่ขุนนางอียิปต์ชื่อโปทิฟาร์ โยเซฟจึงทำงานรับใช้อยู่ที่นี่เป็นที่ถูกใจนายจนได้รับความไว้วางใจแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลกิจการงานในบ้าน ต่อมาภรรยาของโปทิฟาร์เกิดหลงรักโยเซฟ เมื่อโยเซฟไม่เล่นด้วยก็หาเรื่องใส่ความจนโยเซฟถูกจับติดคุก มหาดเล็กของกษัตริย์ฟาโรห์สองคนที่ติดคุกอยู่ด้วยกันเกิดฝันประหลาด คือ คนหนึ่งฝันว่ามีเถาองุ่นสามเถา มีใบมีดอกและมีผลงอกออกมา ตนจึงเก็บผลองุ่นมาคั้นน้ำให้กษัตริย์ฟาโรห์เสวย โยเซฟก็ทำนายฝันนั้นว่า อีกสามวันจะได้รับอภัยโทษและแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เดิม ส่วนอีกคนหนึ่งฝันว่าทูนกระจาดสามใบมีขนมเต็มไว้บนศีรษะ และมีนกบินมาจิกกินขนมนั้นเป็นพัลวัน โยเซฟก็ทำนายฝันให้ว่า อีกสามวันกษัตริย์ฟาโรหืจะตัดศีรษะท่านและแขวนร่างกายของท่านไว้ให้นกกามาจิกกิน และก็เป็นไปตามที่โยเซฟทำนายทุกประการ
ต่อมากษัตริย์ฟาโรห์เองก็ทรงฝันว่ามีวัวอ้วนเจ็ดตัวเดินขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์และเล็มหญ้ากินอยู่ ทันใดนั้นก็มีวัวผอมเจ็ดตัวขึ้นมาจากแม่น้ำไนล์เช่นเดียวกัน วัวผอมเจ็ดตัวนั้นก็ตรงเข้าขม้ำวัวอ้วนเจ็ดตัวนั้นเสีย และกษัตริย์ฟาโรห์ก็ทรงฝันอีกว่า มีต้นข้าวต้นเดียวงอกขึ้นมา มีรวงเจ็ดรวงมีเมล็ดอ้วนดี และมีต้นข้าวอีกต้นหนึ่งงอกขึ้นมา มีวงเจ็ดรวงมีเมล็ดลีบทั้งนั้น รวงข้าวลีบทั้งเจ็ดก็กลืนกินรวงข้าวอ้วนทั้งเจ็ดนั้นเสีย กษัตริย์ฟาโรห์ร้อนพระทัยเป็นอย่างยิ่งเพราะไม่มีใครสามารถทำนายฝันให้พระองค์ได้ มหาดเล็กผู้รอดตายจึงกราบทูลเรื่องโยเซฟทำนายฝันได้แม่นยำให้กษัตริย์ฟาโรห์ทรงทราบ กษัตริย์ฟาโรห์รีบสั่งให้นำตัวโยเซฟออกจากคุกมาเฝ้า โยเซฟก็ทำนายฝันว่าความฝันทั้งสองมีความหมายเดียวกัน คือวัวอ้วนเจ็ดตัวและรวงข้างอ้วนเจ็ดรวงได้แก่ปีอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารเจ็ดปี ส่วนวัวผอมเจ็ดตัวและรวงข้าวลีบเจ็ดรวงได้แก่ปีกันดารพืชพันธุ์ธัญญาหารเจ็ดปีที่จะตามมา กษัตริย์จึงแต่งตั้งโยเซฟให้เป็นใหญ่ในแผ่นดินอียิปต์รองจากกษัตริย์เท่านั้น และมอบหมายหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหารตลอดเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์สะสมไว้ในยุ้งฉางทั่วประเทศเพื่อนำมาใช้ในช่วงเจ็ดปีที่กันดารแห้งแล้งต่อไป
เกิดกันดารแห้งแล้งขึ้นทั่วไป จนกระทั่งยาโคบเองก็ต้องใช้ลูก ๆ ให้เดินทางไปซื้อข้าวปลาอาหารที่ประเทศอียิปต์ ณ ที่นั้น พวกพี่ ๆ กับโยเซฟได้พบกันแต่พวกพี่ ๆ จำโยเซฟไม่ได้ แต่โยเซฟจำได้จึงแกล้งสอบถามถึงยาโคบ ผู้บิดาและเบนยามินน้องเล็กว่าเป็นอย่างไร? โยเซฟคิดถึงเบนยามินน้องคนเล็กมากจึงแกล้งจับพี่คนหนึ่งไว้เป็นประกันแล้วให้คนอื่นนำอาหารกลับไปได้ แต่ถ้ากลับมาอีกคราวหน้าต้องนำเบนยามินมาให้ดูด้วยจึงจะได้อาหารและตัวคนประกันกลับไป พวกพี่ ๆ เดินทางไปซื้ออาหารที่ประเทศอียิปต์อีก คราวนี้นำเบนยามินไปด้วย พอพบโยเซฟ พวกพี่ ๆ ก็ก้มกราบ ซึ่งตรงกับที่โยเซฟเคยฝันไว้ว่าพวกพี่ ๆ จะมากราบตน โยเซฟต้องแอบไปร้องไห้แล้วกลับมาจัดเลี้ยงพวกพี่ ๆ เป็นการใหญ่ ทำให้พวกพี่ ๆ ประหลาดใจเพราะพวกเขายังจำโยเซฟไม่ได้
โยเซฟออกอุบายให้เอาถ้วยเงินซ่อนไว้ในกระสอบของเบนยามิน พอพวกพี่ ๆ ออกเดินทางกลับไปได้ช่วงระยะหนึ่งก็ใช้คนติดตามไปแจ้งว่ามีถ้วยเงินหายสงสัยมีคนขโมยมา เมื่อค้นดูก็พบอยู่ในกระสอบของเบนยามิน พวกพี่ ๆ จึงถูกนำตัวกลับมาหาโยเซฟอีก โยเซฟแกล้งบอกว่าจะกักตัวเบนยามินไว้เป็นทาส พวกพี่ ๆ จึงก้มกราบขอรับผิดแทนด้วยเกรงว่า ถ้ากลับไปโดยไม่มีเบนยามิน ยาโคบผู้บิดาจะตรอมใจตาย โยเซฟอดใจไว้ไม่ไหวจึงร้องไห้โฮแล้วบอกกับพวกพี่ ๆ ว่า “ฉันคือโยเซฟที่พวกพี่ ๆ ขายมา แต่อย่าเสียใจไปแลย เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะ พระเป็นเจ้าทรงจัดไว้เพื่อช่วยบิดาและพวกพี่ ๆ นั่นเอง” พูดเสร็จโยเซฟก็ร้องไห้และตรงเข้าสวมกอดเบนยามินและพวกพี่ ๆ ทุกคนก็ส่งเสียงร้องไห้กันระงมเพราะความตื้นตันใจ
โยเซฟจัดส่งรถไปรับยาโคบผู้บิดาและลูกหลานไปอยู่ ณ ประเทสอียิปต์พวกพี่ ๆ ยังกลัวโยเซฟอยู่ กล่าวแก่กันว่า “โยเซฟคงจะชังพวกเรา และจะแก้แค้นเป็นแน่” จึงได้ก้มกราบโยเซฟพูดว่า “ขอท่านโปรดอภัยความผิดของข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด” โยเซฟได้ฟังก็ร้องไห้กล่าวว่า “อย่ากลัวเลย พวกท่านคิดร้ายต่อข้าพเจ้าก็จริง แต่พระเป็นเจ้าทรงดำริให้เกิดผลดีคือเพื่อช่วยชีวิตคนเป็นอันมาก ข้าพเจ้าจะทะนุบำรุงเลี้ยงพี่และบุตรหลานของพี่ด้วย” เขาทั้งหลายจึงอยู่เป็นสุขตลอดมา และทวีเชื้อสายมากมายในประเทศอียิปต์
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
ครูถามความรู้สึกของนักเรียนหลังจากได้ดูวีดีโอหรือฟังเรื่องราวของโยเซฟกับพี่น้องแล้วว่า
1. รู้สึกอย่างไรต่อพวกพี่ ๆ ของโยเซฟในตอนแรก? ในตอนหลัง
2. รู้สึกอย่างไรต่อโยเซฟในตอนแรกที่ต้องถูกอิจฉา รังแก ใส่ความ ติดคุก? ในตอนหลังเมื่อได้เป็นใหญ่เป็นโต? เมื่อปฏิบัติต่อพวกพี่ ๆ ? ประทับใจในตอนใดบ้าง?
สรุป โยเซฟต้องตกระกำลำบากเพราะพวกพี่ ๆ เป็นต้นเหตุ แต่ก็รู้จักมองดูว่าเป็นแผนการของพระเป็นจ้า และไม่ถือผิดเอาโทษกับพวกพี่ ๆ แต่กลับยินดีช่วยเหลือจนได้มาตั้งหลักแหล่งมั่นคงในประเทศอียิปต์ บุคคลเช่นโยเซฟนี้ช่างเป็นที่ประทับใจ ใครได้อ่านเรื่องราวของท่านต่างก็รู้สึกซึ้งใจกันไปตาม ๆ กัน สมแล้วที่เราจะขนานนามท่านว่า “โยเซฟบุรุษผู้ใจกว้าง”
ขั้นที่ 3 คำสอน
1. ชายถูกสร้างมาตามพระฉายาของพระเป็นเจ้า แต่พระเป็นเจ้านั้นทรงมีน้ำพระทัยกว้างใหญ่ไพศาล เปรียบเสมือนมหาสมุทรที่มองไปไกลลิบสุดสายตาสุดจะวัดวากำหนดได้ ทรงเปี่ยมด้วยความรักและความเมตตากรุณาปราศจากขอบเขต ความกว้างใหญ่ไพศาลของน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้านี้แสดงออกด้วยมากให้ คือให้ชีวิต ความเป็นอยู่ สิ่งที่จำเป็นสำหรับการยังชีพ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การให้อภัย” พระเป็นเจ้าทรงอภัยความผิดของเรามนุษย์ ทุกครั้งที่เรามนุษย์มากราบแทบบาทพระองค์และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้ผิดต่อพระองค์แล้ว ข้าพเจ้าไม่สมควรที่จะได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระองค์อีกต่อไปแล้ว ขอทรงเมตตาข้าพเจ้าด้วยเถิด” (เทียบ ลก 15.21)
2. โยเซฟได้สะท้อนความมีพระทัยกว้างขวางของพระเป็นเจ้าออกมาด้วยการกระทำของท่านเอง ก่อนอื่นหมดท่านเป็นผู้ที่ให้ชีวิตแก่คนมากมายโดยจัดหาข้าวปลาอาหารสำหรับแจกจ่ายเลี้ยงดูพวกเขาในยามอัตคัดขัดสน มิฉะนั้นผู้คนก็จะพากันล้มตายเพราะความอดอยากตลอดเวลาถึงเจ็ดปี กษัตริย์ฟาโรห์ตรัสว่า “จงไปหาโยเซฟ ท่านบอกอะไรก็จงทำตาม” (ปฐก 41.55) และคนที่ไปหาโยเซฟก็ได้รับความช่วยเหลือสิ้นทุกคน โปรดสังเกตดูว่าเหตุการณ์ทำนองเดียวกันเถิดขึ้นในงานแต่งงานที่เมืองคานาอันสมัยพระเยซูคริสต์ ยอห์น อัครสาวกเล่าว่าเหล้าองุ่นเกิดขาดมือลง อันจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งแก่เจ้าภาพและแก่เขกเหรื่อทั้งหลาย พระนางมารีก็บอกแก่ใช้ว่า “(พระเยซูคริสต์) บอกอะไรก็จงทำตาม” (ยน 2.5) แล้วทุกอย่างก็สำเร็จเรียบร้อย พวกเขามีเหล้าองุ่นอย่างดีดื่มฉลองกันจนจบงาน
3. ลูกผู้ชายต้องใจกว้าง หรือใจนักเลง คือต้องเสียสละเพื่อผู้อื่น เราจะเห็นสำนึกเช่นนี้ในวิถีชีวิตของคนทั่วไป เช่น จะขึ้นรถขึ้นรา ผู้ชายก็ต้องยืนเพื่อให้ที่นั่งแก่เด็ก คนชรา คนพิการ สตรี เมื่อเห็นผู้ที่อ่อนแอยกของหนัก ผู้ชายก็ต้องแสดงความใจกว้างโดยยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เมื่อเกิดอันตรายใด ๆ ผู้ชายก็ต้องออกหน้าปกป้องคุ้มครองผู้อื่น โดยเฉพาะเด็ก ๆ และสตรี มีเล่าถึงวีรกรรมของผู้ชายที่เมื่อเรือโดยสารจมลงก็ยอมสละที่นั่งในเรือชูชีพให้แก่สตรี ส่วนตัวเองยอมจมไปกับเรือ ฟังแล้วจับใจ
พระเยซูคริสต์ก็ทรงทำเช่นนี้ไม่ใช่หรือ เมื่อพระองค์ทรงยอมสิ้นพระชนม์แทนเราทั้งหลาย เพื่อให้เราทั้งหลายมีชีวิต และพระองค์ยังทรงสอนพวกเราให้ปฏิบัติเช่นเดียวกันว่า “ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่กว่าการพลีชีวิตเพื่อมิตรสหาย” (ยน 15.13)
4. เราสามารถแสดงความใจกว้างของเราตามแบบอย่างของโยเซฟได้โดยยินดีช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เช่น ช่วยเหลือพ่อแม่ทำการงานที่บ้าสน ช่วยเหลือครู เพื่อน ๆ ที่โรงเรียน ช่วยเหลือผู้อื่นที่เราพบเห็นตามถนนหนทางหรือที่ต่าง ๆ เราภูมิใจที่ได้ช่วยคนอื่น แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราภูมิใจที่ได้ยกโทษให้แก่คนที่ทำผิดต่อเรา อย่างนี้แหละเขาเรียกว่า คนใจพระ
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ
1. พระเป็นเจ้าทรงมีน้ำพระทัยกว้างใหญ่ไพศาล “พระกรุณาและการอภัยโทษบาปเป็นของพระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย” (ดน 9.9)
2. “จงไปหาโยเซฟ ท่านบอกอะไรก็จงวทำตาม” (ปฐก 41.55) และโยเซฟก็เปิดยุ้งฉางนำเสบียงอาหารออกมาเลี้ยงผู้คนที่อดอยากโดยทั่วหน้ากัน
3. ลูกผู้ชายต้องใจกว้าง คือเสียสละ พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ โดยเฉพาะผู้ที่อ่อนแอ เช่น เด็ก คนชรา คนพิการ และสตรี
ข. กิจกรรม
ให้นักเรียนทำป้ายรูปหัวใจหรือดอกไม้ ด้วยกระดาษแข็ง ปิดด้วยกระดาษสีให้สวยงาม เขียนข้อตั้งใจที่จะบำเพ็ยประโยชน์แก่ผู้อื่นสัก 1 ข้อลงในป้ายนั้นแล้วนำมาแสดงหน้าชั้น
ค. การบ้าน
ให้นักเรียนนำป้ายไปติดหรือแขวนที่บ้านเป็นเครื่องเตือนใจ และลงมือปฏิบัติตามข้อตั้งใจนั้น