บทเรียนที่ 2 เดือนธันวาคม 1996 หัวข้อเรื่อง พระเยซูบุรุษผู้สมบูรณ์แบบ จุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ลักษณะของพระเยซูในด้านต่าง ๆ และเลือกคุณลักษณะที่ตนต้องการมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของตน |
ขั้นที่ 1 กิจกรรม
ให้ผู้เรียนเสนอคุณลักษณะต่างๆ ของพระเยซูคริสต์ พร้อมหลักฐานยืนยันจากพระวรสาร
เช่น - ยากจน (บังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์ ไม่มีแม้แต่ก้อนหินจะหนุนศีรษะ)
- รักเด็ก (ตำหนิสาวกที่ไล่เด็กๆ ไป และต้อนรับเด็กๆ อวยพรให้)
- สุภาพอ่อนโยน (ไม่ถือพระองค์ เข้าหาคนทุกชนชั้น)
- เมตตา (คนเจ็บคนป่วย คนโรคเรื้อน คนบาป)
- เพียรอดทน (เหน็ดเหนื่อยจากงาน หลับในเรือ ความผิดบกพร่องของพวกสาวก)
- กล้าหาญ (ขับไล่พ่อค้าในพระวิหาร ต่อสู้กับพวกฟาริสี เผชิญมหาทรมาน)
- นบนอบ (กระทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระบิดาจนสำเร็จบริบูรณ์)
- ใจดี (ต้อนรับ เอาอกเอาใจประชาชน อภัยบาป ปลอบใจสตรีใจศรัทธา)
- จริงใจ (ทรงรักพวกสาวกจนถึงที่สุด ล้างเท้าให้ ยอมพลีชีวิตเพื่อมิตรสหาย)
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
ครูถามผู้เรียน “ใครชอบคุณลักษระใดของพระเยซูคริสต์เป็นพิเศษ?” “ทำไม?”
พระเยซูคริสต์ยังมีคุณลักษณะต่างๆ อีกมากมาย “หากจะบันทึกไว้หมดข้าพเจ้าคิดว่าโลกทั้งโลกก็คงไม่มีที่พอจะบรรจุหนังสือที่เขียนนั้น” (ยน 21:25)
สรุป จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแท้จริงที่เราจะเรียกขานพระเยซูคริสต์ว่า “พระองค์ทรงเป็นบุรุษผู้สมบูรณ์แบบ”
ขั้นที่ 3 คำสอน
1. จดหมายฉบับที่ 1 ของนักบุญเปโตรกล่าวถึงคุณลักษณะของพระเยซูคริสต์ว่า “พระองค์มิได้ทรงทำบาปเลยและมิได้ตรัสคำเท็จเลญ เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองคื พระองค์ก็มิได้ทรงกล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย เมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์ พระองค์มิได้ทรงอาฆาตมาดร้าย แต่ทรงมอบทุกสิ่งไว้แก่พระเป็นเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างยุติธรรม” (1ปต 2:22-23) นักบุญยอห์นได้บันทึกพระวาจาของพระเยซูคริสต์ที่ทำให้พวกศัตรูต้องงงงันว่า “มีใครในพวกท่านบ้างที่จะชี้ว่าเราได้ทำผิด?” (ยน 8:46) เมื่อพวกเขาจับตัวพระองค์ไม่ได้ จึงต้องปั้นพยานเท็จขึ้นมาฟ้องร้องพระองค์ “พวกมหาปุโรหิตและบรรดาสมาชิกสภาหาพยานมาเบิกปรักปรำพระเยซูคริสต์เพื่อจะประหารพระองค์เสีย แต่หาหลักฐานไม่ได้ จึงมีหลายคนเป้นพยานเท็จปรักปรำพระองค์ แต่คำให้การของพวกเขาขัดแย้งกันเอง” (มก 14:55-56) ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นบุรุษผู้สมบูรณ์แบบ หาที่ติมิได้ ทรงเป็นแบบอย่างแก่เราทุกคน
2. คุณลักษณะที่ดีมีหลายหลากมากมาย และพระเป็นเจ้าทรงสร้างเราแต่ละคนมาให้เป็นพระฉายาของพระองค์ในคุณลักษณะต่างๆ กัน ไม่มีใครสองคนที่เหมือนกันทุกอย่าง ดังคำสุภาษิตที่ว่า “ไม้ไผ่ยังต่างปล้อง พี่น้องยังต่างใจ” แผนการของพระเป็นเจ้าที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อว่าเมื่อเราต่างก็เป็นพระฉายาของพระองค์ในคุณลักษณะต่างๆ กันแล้ว โดยอาศัยบัญญัติแห่งความรักซึ่งรวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เราก็จะสะท้อนพระฉายาที่สมบูรณ์แบบของพระองค์ออกมาให้เห็นชัดเจน ยิ่งมีคนที่มีคุณลักษณะที่ดีมารวมเป็นหนึ่งเดียวกันมากเท่าไร ก็ยิ่งจะสะท้อนพระฉายาของพระเป็นเจ้าที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นเท่านั้น (ตัวอย่างของเกม “จิกซอว์” Jigsaw จะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
3. เราแต่ละคนจึงพึงสังเกตและพิจารณาใคร่ครวญดูว่า จริงๆ แล้วเรามีคุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของเราอย่างไร ที่เราเรียกว่า “เอกลักษณ์” นั่นแหละ เราอาจจะสังเกตได้จากอุปนิสัยใจคอ ความถนัด ความชอบ ความโน้มเอียงที่มีอยู่ในตัวเรา เอกลักษณ์เหล่านี้ไม่มีใครที่มีถึงขั้นสมบูรณ์แบบเป็นต้นแบบ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากจะพัฒนาคุณลักษณะความเป็นผู้ “กล้าหาญ” เราก็เริ่มต้นด้วยการศึกษาพระเยซูคริสต์ในพระวรสารดูว่าพระองค์ทรงปฏิบัติตนเป็นผู้กล้าหาญอย่างไร ในโอกาสใดบ้าง (ขับไล่พ่อค้าในพระวิหาร มธ 21:12-13 ตำหนิพวกอาจารย์พระคัมภีร์และพวกฟาริสี มธ 23:1-36 เสด็จไปกรุงเยรูซาเล้มเพื่อรับทรมานและสิ้นพระชนม์โดยสมัครพระทัย มธ 20:17-19) ตั้งใจที่จะปฏิบัติตนเป็นผู้กล้าหาญในการกระทำหน้าที่ต่างๆ โดยไม่หวั่นไหวตามแบบอย่างของพระองค์ สวดภาวนาขอพระองค์ทรงช่วยเหลือให้เราสามารถปฏิบัติตามที่ตั้งใจไว้นี้ได้สำเร็จ
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก.ข้อควรจำ
1. “มีใครในพวกท่านบ้างที่จะชี้ว่าเราได้ทำผิด?” (ยน 8:46)
2. เราต้องพัฒนาเอกลักษณ์ประจำตัวของเราให้สมบูรณ์โดยยึดแบบอย่างของพระเยซูคริสต์
3. การศึกษาพระวรสารอย่างจริงจังและสม่ำเสมอจะทำให้เราสามารถรู้จักพระเยซูคริสต์และปฏิบัติตามแบบอย่างของพระองค์ได้ดีขึ้น
ข.กิจกรรม
1. ให้ผู้เรียนพิจารณาค้นหาคุณลักษณะที่อยากจะได้ อยากจะเป็นสัก 1 อย่าง
2. วาดรูปหัวใจ มีรางหญ้าอยู่กลาง เขียนข้อตั้งใจของตนไว้ข้างล่างว่า
“ฉันอยากจะให้พระเยซูมาเกิดในใจของฉันในรูปของ.....”
(เขียนคุณลักษณะที่อยากจะได้ อยากจะเป็นลงในช่องว่าง)
ค.การบ้าน
เอารูปหัวใจนี้ไปติดไว้ที่บ้านเป็นเครื่องเตือนใจ แล้วลงมือปฏิบัติคุณลักษณะนั้นอย่างจริงจัง