บทที่ 8
พระเยซูคริสต์ทรงนบนอบพระบิดาเสมอ
จุดมุ่งหมาย เพื่อให้นักเรียนรู้จักนบนอบเชื่อฟังพระเป็นเจ้าและผู้แทนพระองค์เช่นเดียวกัน
ขั้นที่ 1 กิจกรรม
เล่นเกม “ทำตามคำสั่ง”
ครูออกคำสั่ง “นั่ง ยืน หันซ้าย หันขวา ยกมือขึ้น เอามือลง ฯลฯ”
นักเรียนต้องทำตามคำสั่งโดยฉับไวและถูกต้องใครทำผิด ทำช้า ถูกจับแพ้
เล่นเกม “ทำตรงกันข้ามกับคำสั่ง”
ครูออกคำสั่ง “นั่ง” นักเรียนต้องยืน
ครูออกคำสั่ง “ยืน” นักเรียนต้องนั่ง
ครูออกคำสั่ง “หันซ้าย” นักเรียนต้องหันขวา
ครูออกคำสั่ง “หันขวา” นักเรียนต้องหันซ้าย
ครูออกคำสั่ง “ยกมือขึ้น” นักเรียนต้องเอามือลง
ครูออกคำสั่ง “ยกมือลง” นักเรียนต้องยกมือขึ้น
ใครทำผิด ถูกจับแพ้
ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
ครูถามนักเรียน
1. เกมที่หนึ่งมีชื่อว่าอะไร? เล่นอย่างไร?
2.เกมที่สองมีชื่อว่าอะไร? เล่นอย่างไร?
3.อย่างไหนเล่นง่ายหรือยากกว่ากัน? ทำไม?
สรุป การทำตามคำสั่งเป็นไปตามธรรมชาติ ปฏิบัติง่าย ไม่สู้ผิด สบายใจ ไม่เครียด
การทำตรงกันข้ามกับคำสั่งขัดกับธรรมชาติ ปฏิบัติยาก ผิดมาก ไม่สบายใจ เครียด
ขั้นที่ 3 คำสอน
1. ในบ้านของพระเป็นเจ้ามีกฎระเบียบที่เราต้องถือ เราจะต่างคนต่างทำตามใจตัวเองไม่ได้ กฏระเบียบนั้นก็คือน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
2.พระเยซูคริสต์ทรงทำตามน้ำพระทัยของพระบิดเสมอ พระองค์ตรัสว่า “เราลงมาจากสวรรค์เพื่อทำตามน้ำพระทัยพระบิดาผู้ทรงส่งเรามา” (ยน.6,38) พระองค์ทรงกระทำเช่นนี้ตั้งแต่วัยเด็กดังที่มีเล่าไว้ว่า (ให้นักเรียนคนหนึ่งอ่าน) “ฝ่ายยอแซฟและมารีเคยขึ้นไปกรงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกาทุกปี เมื่อพระกุมารอายุได้ 12 ปี ท่านทั้งสองก็ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มตามธรรมเนียม ครั้นประกอบพิธีตามหน้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับ ส่วนพระกุมารยังคงค้างอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม ยอแซฟและมารีไม่รู้ คิดว่าพระองค์คงอยู่ในหมู่คนที่เดินทางกลับมาด้วยกัน พอเดินทางมาได้หนึ่งวัน ท่านทั้งสองก็ออกตามหน้าพระองค์ในหมู่ญาติและคนรู้จัก แต่ไม่พบ จึงกลับไปที่กรุงเยรูซาเล็ม เที่ยวตามหาอยู่ถึงสามวัน ก็พบพระกุมารในพระวิหาร ประทับอยู่ท่ามกลางพวกอาจารย์ ทรงสดับฟังและไต่ถามพวกอาจารย์เหล่านั้น ท่านทั้งสองรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง ฝ่ายมารีย์ก็ถามว่า “ลูกเอ๋ย ทำไมจึงทำเช่นนี้? ดูซิ พ่อและแม่ตามหาด้วยความเป็นห่วงยิ่ง” พระกุมารตอบว่า “ท่านเที่ยวตามหาลูกทำไม? ท่านไม่ทราบหรือว่า ลูกต้องทำตามพระประสงค์ของพระบิดา?” ฝ่ายบิดามารดาไม่เข้าใจคำตอบนี้ พระกุมารก็กลับไปนาซาเร็ธพร้อมกับท่านทั้งสอง ทรงนอบน้อมอยู่ใต้บังคับของท่านโดยดี ฝ่ายมารีก็เก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ในใจ พระกุมารก็เจริญเติบโตขึ้นในด้านสติปัญญาและร่างกาย เป็นที่พอพระทัยเฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้าและต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย” (ลก.2,41-52)
จากพระวรสารตอนนี้แสดงให้เห็นจุดยืนของพระเยซูคริสต์ คือ พระประสงค์หรือน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าพระบิดาต้องมาก่อนสิ่งใดหมด พระองค์จะต้องนบน้อมต่อน้ำพระทัยนี้จนถึงที่สุด
3.นักบุญเปาโลกล่าวว่า “พระองค์ทรงถ่อมองค์ยอมเชื่อฟังจนถึงความตาย แม้กระทั้งความตายบนไม้กางเขน” (ฟป.2,8) เพื่อกระทำเช่นนี้ได้พระองค์ต้องสละน้ำพระทัยของพระองค์เอง ต้องฝืนความรู้สึกอย่างหนัก พระองค์ตรัสว่า “ขอให้การทรมานนี้พ้นไปจากข้าพเจ้าเถิด แต่อย่าให้เป็นไปตามน้ำใจของข้าพเจ้าเลย ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์เถิด” (ลก.22,42) และพระเป็นเจ้าก็พอพระทัยให้พระเยซูคริสต์ต้องตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่กู้มนุษย์ให้รอดจากบาป และพระเยซูคริสต์ก็ยอมรับน้ำพระทัยประการนี้โดยดีเปรียบเสมือน “ลูกแกะเชื่องที่ถูกนำไปฆ่า..โดยไม่ปริปากแม้แต่คำเดียว” (อสย.53,7)
4. นบนอบเชื่อฟังพระเป็นเจ้าก็หมายถึงนบนอบเชื่อฟังผู้แทนของพระองค์ด้วย ผู้แทนของพระเป็นเจ้าก็คือ บิดามารดาของเราเอง พระสงฆ์องค์เจ้า ครูบาอาจารย์ ท่านเหล่านี้ทำหน้าที่ดูแลเอาใจใส่เราแทนพระเป็นเจ้า เป็นหน้าที่ของท่าน ถ้าท่านไม่ทำก็ผิด เราก็มีหน้าที่ต้องนบนอบเชื่อฟังเหมือนพระเยซูคริสต์ที่ “เสด็จกลับไปนาซาแร็ธกับบิดามารดาทันที ทรงนอบน้อมอยู่ใต้บังคับของทานทั้งสองอย่างดี” เหตุฉะนี้พระเป็นเจ้าจึงทรงอวยพระพระองค์ให้เจริญขึ้นทั้งทางร่างกายและสติปัญญา เป็นที่โปรดปรานของพระเป็นเจ้าและคนทั้งปวง พระเป็นเจ้าก็ทรงอวยพระเราให้เจริญขึ้นเหมือนกันถ้าเรานบน้อมเชื้อฟังบิดามารดา พระสงฆ์องค์เจ้า และครูบาอาจารย์ที่อบรมสั่งสอนเรา
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก. จดเนื้อหาลงในสมุด
1. ทำไมเราต้องทำตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า?
ตอบ เราต้องทำตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า เพราะพระองค์ทรงรักเรา และอยากให้เรามีความสุข
2. เพื่อให้เป็นที่พอพระทัยของพระเป็นเจ้า เราต้องทำอะไรบ้าง?
ตอบ เพื่อให้เป็นที่พอพระทัยจของพระเป็นเจ้า เราต้องนบนอบเชื้อฟังบิดามารดา ครูบาอาจารย์ โดยทำทุกสิ่งที่ท่านสั่งด้วยความยินดี ไม่ดื้อกระด้างหรือเกียจคร้าน
ข. กิจกรรม
ร้องเพลงประกอบท่าทาง
เพลง “ฉันรักพระเจ้า”
ฉันรักพระเจ้า (ยกมือขึ้นข้างบน)
ฉันรักเพื่อนมนุษย์ (ยื่นมือไปข้างหน้า)
พระเจ้ารักฉัน (ไขว้มือประสานไว้ที่หน้าอก)
พระเจ้ารักเพื่อนมนุษย์ (กางแขนออกในท่าโอบกอดทุกคน)
ฉันรักพระเจ้า (ยกมือขึ้นข้างบน)
ฉันรักพระเจ้า (พนมมือไว้ที่อก ก้มศีรษะ)