ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCCESE

บทที่ 7
พระเยซูคริสต์ใจดีและสามารถช่วยเราได้

จุดมุ่งหมาย เพื่อให้นักเรียนเกิดความไว้วางใจและเข้าพึ่งพระองค์ในยามต้องการ

ขั้นที่ 1 กิจกรรม

อุปกรณ์  ผ้าสำหรับผูกตาเท่าจำนวนนักเรียน (อาจใช้ผ้าเช็ดหน้าของนักเรียนก็ได้)

 ครูให้นักเรียนแต่ละคนเอาผ้าผูกตาตนเอง เข้าแถวจับมือกันไว้

 ครูจูงมือนักเรียนให้เดินเป็นแถวไปที่สนามเป็นระยะทางพอสมควร หยุดแล้วถามว่า
  “ตามทางที่เดินมานี้นักเรียนเห็นอะไรบ้าง?”

  ครูให้นักเรียนแก้ผ้าผูกตาออกแล้วถามว่า
  “ขณะนี้นักเรียนเห็นอะไรบ้าง?”

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์

ครูถาม
 “นักเรียนรู้สึกอย่างไรเมื่อเดินผูกตา?”
 “ถ้าครูไม่จูงมือจะเป็นอย่างไร?”
 “นักเรียนรู้สึกอย่างไรเมื่อเปิดผ้าผูกตาออก?”

สรุป ในที่มืดและมีอันตรายเราต้องการคนนำทางที่รู้ทางสามารถพาเราเดินฝ่าไปโดยปลอดภัยได้

ขั้นที่ 3 คำสอน

 1. ครั้งเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จไปเมืองเยริโก ระหว่างทางมีคนขอทานตาบอดคนหนึ่งชื่อ บาร์ทีเมอัส นั่งขอทานอยู่ ทันใดเขาได้ยินเสียงผู้คนเดินกันวุ่นวายก็ซักถามได้ความว่า พระเยซูคริสต์กำลังเสด็จผ่านมา เขาจึงร้องด้วยเสียงอันดังว่า “ข้าแต่พระเยซูโอรสของดาวิด โปรดเมตตาข้าพเจ้าด้วยเถิด” พระเยซูคริสต์ทรงหยุดแล้วสั่งให้เรียกคนตาบอดนั้นเข้ามา ผู้คนก็ปลอบใจเขากล่าวว่า “จงดีใจเถิด พระองค์ทรงเรียกแล้ว” เขารีบลุกขึ้นสลัดเสื้อคลุมทิ้งแล้ววิ่งไปหาพระองค์ พระเยซูคริสต์ทรงถามเขาว่า “เจ้าต้องการอะไร?” เขาก็ทูลว่า “พระเจ้าข้า โปรดให้ตาข้าพเจ้ามองเห็นเถิด” พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “ไปเถิด ความเชื่อช่วยเจ้าให้หายแล้ว” ทันใดนั้นคนตาบอดก็มองเห็นได้และติดตามพระองค์ไป” (มก.10,46-52) คน ตาบอดคงจะดีใจเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ กระโดดโลดเต้น สรรเสริญพระเป็นเจ้า

 2. พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงฤทธิ์และมีใจดีเหมือนพระบิดา พระองค์ทรงกระทำอัศจรรย์ต่าง ๆ มากมาย เพื่อช่วยคนที่ตกทุกข์ได้ยาก เช่น ทำให้คนตาบอดมองเห็นได้ ทรงรักษาคนพิการ คนง่อยให้เดินได้ ทรงปลุกคนตายให้กลับเป็นขึ้นมา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้แสดงว่าพระองค์เป็นพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ และทรงพอพระทัยใช้ฤทธิ์ของพระองค์เพื่อช่วยเหลือคนที่น่าสงสารและเรียกหาพระองค์ให้ช่วย

 3. เราทุกคนก็ตกอยู่ในสภาพที่น่าสงสารด้วยกันทั้งนั้น บางคนก็เจ็บป่วยมีโรคประจำตัว บางคนก็ยากจน เหล่านี้เป็นสภาพน่าสงสารทางกาย เราสามารถวางใจและเรียกหาพระเยซูคริสต์มาช่วยเราได้ แต่ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ สภาพน่าสงสารทางใจ อันได้แก่ การมีจิตใจที่จมอยู่ในความมืดมิดของบาป ทำให้เราไม่เห็นหนทางแห่งความรอด และเสี่ยงต่อการสูญเสียชีวิตนิรันดรอยู่ทุกวัน ผลของบาปนี้ทำให้เราเป็นคนตาบอด เดินในความมืด ไม่เห็นอันตรายรอบตัว เหมือนที่เราเดินเอาผ้าผูกตาเมื่อสักครู่นี้ พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “เราคือความสว่างส่องโลก ใครเดินตามเราจะไม่เดินในที่มืด แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต” (ยน.8.12) จึงเป็นเครื่องรับประกันได้ถ้าเราเรียกหาพระเยซูคริสต์เหมือนคนขอทานตาบอดที่ชื่อ บาร์ทีเมอัสนั้น เรียกให้ดังสุดเสียงของเรา พระองค์จะสดับฟังเราและตรัสว่า “ไปเถิด ความเชื่อช่วยให้เจ้าหายแล้ว”

 4. ทุกวันนี้พระเยซูคริสต์ยังทรงกระทำอัศจรรย์เช่นนี้อยู่เสมอมิได้ขาด คืออัศจรรย์รักษาคนตาบอดฝ่ายวิญญาณ ทรงทำให้คนบาปที่จมอยู่ในความมืดได้เห็นความสว่างแห่งความรอด กลับตัว กลับใจ มาติดตามพระองค์ สรรเสริญพระองค์ไปจนชั่วชีวิต ในจำนวนนี้ก็มีพวกเรารวมอยู่ด้วย เราจึงควรวางใจในพระองค์และเข้าพึ่งพาพระองค์บ่อย ๆ ในยามที่เราต้องการ

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ

ก. จดเนื้อหาลงในสมุด
1. เรารู้ได้อย่างไรว่า พระเยซูคริสต์ใจดีและสามารถช่วยเหลือเราได้?
 ตอบ  เรารู้ได้โดยผ่านทางพระวรสาร
2. มีอะไรบ้างในพระวรสารที่แสดงว่าพระเยซูคริสต์ใจดีและช่วยเหลือเรา?
 ตอบ  เพราะพระองค์ทรงกระทำอัศจรรย์ต่าง ๆ มากมาย เพื่อช่วยคนที่น่าสงสาร เช่น ทรงรักษาคนตาบอด คนพิการ คนง่อย คนโรคเรื้อน เป็นต้น
3. เราควรปฏิบัติอย่างไรต่อพระเยซูคริสต์ผู้ใจดี?
 ตอบ  เราควรวางใจในพระองค์ และเข้าพึ่งพระองค์ในยามต้องการ

ข. กิจกรรม
ร้องเพลง “พระผู้ทรงฤทธิ์” (ปรารถนา หน้า 127 เอ)

พระผู้ทรงฤทธิ์
  พระผู้ทรงฤทธิ์ทรงพลีชีวิตแทนเราทั้งหลาย
  ทรงมอบพระกายและพระโลหิต
  ให้มาสนิทกับเราทุกคน
  ทรงดีเหลือล้นให้เราคนจนได้รับถ้วนหน้า
  ให้เป็นสัญญาว่าเราทุกคน
  จะสุขล้นพ้นตลอดนิรันดร์

เนื้อหาและบทเรียน

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์