อาทิตนี้พระวาจาพูดถึงความสุขแท้ และความสุขแท้ของคริสตชนอาจสวนทางกับความสุขที่โลกให้ ซึ่งไม่จีรัง

ให้พระวาจาพระเจ้านำทางเราเพื่อพบความสุขแท้ตั้งแต่ในโลกนี้กัน

ถ้าเขาเชื่อฟังและยอมรับใช้พระองค์ เขาจะมีชีวิตอย่างรุ่งเรืองจนวันสุดท้าย และมีความสุขตลอดชีวิต (โยบ 36:11)

ผู้ชอบธรรมย่อมเป็นสุข เขาไม่เดินตามคำแนะนำของคนชั่ว ไม่ยืนในทางของคนบาป ไม่นั่งร่วมกับคนชอบเยาะเย้ยผู้อื่น (สดด. 1:1)

พระองค์จะทรงสอนข้าพเจ้าให้รู้จักหนทางแห่งชีวิต ข้าพเจ้าจะยินดีอย่างเต็มเปี่ยมเมื่ออยู่เฉพาะพระพักตร์ ข้าพเจ้าจะมีความสุขตลอดไปเมื่ออยู่เบื้องขวาของพระองค์ (สดด. 16:11)

จงลองลิ้มดูให้รู้ว่าพระยาห์เวห์ทรงพระทัยดี คนที่ลี้ภัยมาพึ่งพระองค์ย่อมเป็นสุข (สดด. 34:8)

จงวางใจในพระยาห์เวห์และทำความดี จงพำนักอยู่ในแผ่นดินและอยู่เป็นสุข (สดด. 37:3)

ผู้ยำเกรงพระยาห์เวห์ย่อมเป็นสุข เขาเดินอยู่ในมรรคาของพระองค์ (สดด. 128:1)

ประชากรที่รับพระพรเช่นนี้ย่อมเป็นสุข ประชากรที่พระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าของเขาย่อมเป็นสุข (สดด. 144:15)

ใจยินดีทำให้ใบหน้าเบิกบาน แต่ความเสียใจทำให้จิตซึมเศร้า (สภษ. 15:13)

ผู้ยอมฟังคำสั่งสอนย่อมพบความดี ผู้วางใจในพระยาห์เวห์ย่อมเป็นสุข (สภษ. 16:20)

มนุษย์ไม่มีสิ่งใดดีกว่าการมีความสุขและความยินดีในชีวิต ยิ่งกว่านั้น สำหรับมนุษย์ การกินการดื่ม และการพบความสุขในความลำบากตรากตรำของตน ก็เป็นของประทานจากพระเจ้าด้วย (ปญจ. 3:12-13)

เมื่อทุกสิ่งเป็นไปด้วยดีก็จงยินดี แต่เมื่อทุกสิ่งเป็นไปไม่ดีก็จงพิจารณาเถิดว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้มีทั้งวันดีและวันไม่ดี เพื่อมนุษย์จะไม่รู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น (ปญจ. 7:14)

ความเป็นมิตรกับปรีชาญาณนำความสุขแท้จริง ผลงานของปรีชาญาณนำทรัพย์สมบัติเหลือคณนามาให้ (ปชญ. 8:18)

ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าทำให้ดวงใจเบิกบาน ให้ความสุข ความยินดีและชีวิตยืนยาว (บสร. 1:12)

ไม่มีทรัพย์สมบัติใดดีกว่าสุขภาพแข็งแรง ไม่มีความยินดีใดเหนือกว่าความสุขใจ (บสร. 30:16)

มนุษย์เอ๋ย พระองค์ทรงบอกท่านไว้แล้วว่าอะไรดี และพระยาห์เวห์ทรงประสงค์สิ่งใดจากท่าน คือให้ท่านปฏิบัติความยุติธรรมและรักความดีงาม และดำเนินชีวิตอย่างถ่อมตนกับพระเจ้าของท่าน (มคา. 6:8)

ผู้มีใจยากจนย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา (มธ. 5:3)

ผู้เป็นทุกข์โศกเศร้า ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับการปลอบโยน (มธ. 5:4)

ผู้มีใจอ่อนโยนย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินเป็นมรดก (มธ. 5:5)

ผู้หิวกระหายความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะอิ่ม (มธ. 5:6)

ผู้มีใจเมตตา ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับพระเมตตา (มธ. 5:7)

ผู้มีใจบริสุทธิ์ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า (มธ. 5:8)

ผู้สร้างสันติ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า (มธ. 5:9)

ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา (มธ. 5:10)

ท่านทั้งหลายย่อมเป็นสุข เมื่อถูกดูหมิ่น ข่มเหงและใส่ร้ายต่างๆ นานาเพราะเรา จงชื่นชมยินดีเถิด เพราะบำเหน็จรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่นัก (มธ. 5:11-12)

แต่พระองค์ตรัสตอบว่า “คนทั้งหลายที่ฟังพระวาจาของพระเจ้าและปฏิบัติตามย่อมเป็นสุขกว่านั้นอีก” (ลก. 11:28)

ฉะนั้น เพราะความรักต่อพระคริสตเจ้า ข้าพเจ้าจึงพอใจความอ่อนแอต่าง ๆ เมื่อถูกสบประมาท เมื่อมีความคับแค้น เมื่อถูกข่มเหงและอับจน เพราะข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็ย่อมเข้มแข็งเมื่อนั้น (2คร. 12:10)

ข้าพเจ้ามิได้พูดเช่นนี้เพราะต้องการสิ่งใด ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะพอใจในสภาพของตน (ฟป. 4:11)

พี่น้องทั้งหลาย จงคิดว่าเป็นที่น่ายินดีเมื่อประสบความยากลำบากต่าง ๆ เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าการที่ความเชื่อของท่านถูกทดสอบก่อให้เกิดความพากเพียร (ยก. 1:2-3)

ท่านใดทนทุกข์ จงอธิษฐานภาวนาเถิดท่านใดร่าเริงยินดี จงร้องเพลงสดุดีเถิด (ยก. 5:13)

ถ้าท่านจะต้องทนทุกข์ทั้ง ๆ ที่ทำความดีแล้ว ก็จงเป็นสุขเถิด อย่ากลัวเขา อย่าวุ่นวายใจเลย (1ปต. 3:14)

จงชื่นชมในการที่ท่านมีส่วนร่วมรับทรมานกับพระคริสตเจ้า เพื่อท่านจะได้มีความชื่นชมและปลื้มปิติยิ่งขึ้นเมื่อพระองค์ทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์ (1ปต. 4:13)