พระเยซูเจ้าประทับอยู่กับเราและพระองค์จะช่วยเราเมื่อกำลังเผชิญกับคลื่นลมที่ทำให้ชีวิตของเราหวาดกลัวและความเชื่อของเรากำลังสั่นคลอน
เชิญมารับพระวาจาพระเจ้าที่ช่วยเพิ่มมั่นใจและให้ความหวังแก่เรา
แม้น้ำทะเลจะส่งเสียงร้องกึกก้อง เดือดเป็นฟอง และคลื่นใหญ่ทำให้ภูเขาสั่นไหว พระยาห์เวห์จอมจักรวาลสถิตกับเรา พระเจ้าแห่งยาโคบทรงเป็นปราการของเรา (สดด. 46:3)
ทรงพาเขาไปอย่างปลอดภัยและไร้ความหวาดกลัว แต่ทรงบันดาลให้ทะเลกลืนศัตรูของเขา (สดด. 78:53)
พระองค์ทรงควบคุมความผยองของมหาสมุทร ทรงปราบคลื่นใหญ่ที่ปั่นป่วนให้สงบลง (สดด. 89:9)
พระองค์ทรงทำให้พายุสงบลงกลายเป็นลมอ่อน ทรงทำให้คลื่นเงียบเสียงลง (สดด. 107:29)
พระองค์ทรงเป็นที่กำบังเข้มแข็งของผู้อ่อนแอ ทรงเป็นที่กำบังเข้มแข็งของผู้ขัดสนที่มีความกังวลใจ ทรงเป็นที่หลบภัยจากลมพายุ ทรงเป็นร่มกันความร้อน ผู้โหดร้ายเป็นเหมือนลมพายุในฤดูหนาว (อสย. 25:4)
ถ้าท่านต้องลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับท่าน น้ำจะไม่ท่วมท่าน ถ้าท่านต้องลุยไฟ ไฟจะไม่ไหม้ท่าน เปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญท่าน (อสย. 43:2)
ถ้าท่านตั้งใจฟังบทบัญญัติของเรา ความเจริญรุ่งเรืองของท่านคงจะเป็นเหมือนแม่น้ำ ความชอบธรรมของท่านคงจะเป็นเหมือนคลื่นทะเล (อสย. 48:18)
ขอพระองค์ทรงพระเมตาต่อข้าพเจ้าทั้งหลายอีกครั้งหนึ่ง โปรดทรงเหยียบย่ำความผิดของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์จะทรงเหวี่ยงบาปของข้าพเจ้าทั้งหลาย ลงไปในทะเลลึก (มคา. 7:19)
พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ทำไมจึงตกใจกลัวเล่า ท่านช่างมีความเชื่อน้อยเหลือเกิน” แล้วทรงลุกขึ้น บังคับลมและทะเล ท้องทะเลก็สงบราบเรียบ (มธ. 8:26)
คนทั้งหลายต่างประหลาดใจ พูดว่า “ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ ลมและทะเลจึงยอมเชื่อฟังเช่นนี้” (มธ. 8:27)
เมื่อเห็นว่าลมแรง เขาก็กลัวและเริ่มจมลง แล้วร้องว่า “พระเจ้าข้า ช่วยข้าพเจ้าด้วย” ทันใดนั้นพระเยซูเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์จับเขา ตรัสว่า “ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง สงสัยทำไมเล่า” เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นมาประทับในเรือพร้อมกับเปโตรแล้ว ลมก็สงบ (มธ. 14:30-32)
พระองค์จึงทรงลุกขึ้น บังคับลม ตรัสสั่งทะเลว่า “เงียบซิ จงสงบลงเถิด” ลมก็หยุด ท้องทะเลราบเรียบอย่างยิ่ง (มก. 4:39)
บรรดาศิษย์จึงเข้ามาปลุกพระองค์ ทูลว่า “พระอาจารย์ พระอาจารย์ พวกเรากำลังจะตายอยู่แล้ว” พระองค์จึงทรงลุกขึ้น บังคับลมและคลื่นใหญ่ ลมและคลื่นก็สงบ ทะเลสาบก็สงบราบเรียบอีก (ลก. 8:24)
เราจะได้ไม่เป็นเหมือนเด็ก ถูกคลื่นลมซัดโคลงเคลงล่องลอยตามกระแสคำสั่งสอนทุกอย่างที่เกิดจากเล่ห์กลของมนุษย์ด้วยอุบายชาญฉลาดที่คอยหลอกลวงให้หลงผิดอีกต่อไป แต่ให้เราดำเนินชีวิตในความจริงด้วยความรัก เจริญเติบโตขึ้นจนบรรลุถึงความสมบูรณ์ในพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นพระเศียร (อฟ. 4:14-15)
ท่านใดขาดปรีชาญาณ จงขอปรีชาญาณนั้นจากพระเจ้าเถิด พระองค์ประทานให้ทุกคนด้วยพระทัยกว้าง โดยไม่ทรงตำหนิเลย แล้วเขาจะได้รับปรีชาญาณตามที่ขอ แต่เขาต้องขอด้วยความเชื่อ โดยไม่สงสัย เพราะผู้ที่สงสัยนั้นเปรียบเสมือนคลื่นในทะเลที่ถูกลมพัดซัดไปมา (ยก. 1:5-6)