เมื่อเรามีคำถาม ข้อสงสัยในชีวิต เข้าใจ ไม่เข้าใจ และสิ่งที่เราวอนขอ
พระเจ้าทรงเป็นคำตอบให้กับชีวิตของเราเสมอ จะช้าหรือเร็วเท่านั้น มารับพระวาจาเป็นคำตอบกับชีวิตกัน
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าเรียกหาพระองค์ พระองค์จะทรงตอบข้าพเจ้า โปรดเอียงพระกรรณฟังคำของข้าพเจ้าเถิด (สดด. 17:6)
เมื่อเขาร้องเรียกหาเรา เราก็จะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามทุกข์ยาก เราจะช่วยเขาให้รอดพ้นและจะให้เกียรติยศแก่เขา (สดด. 91:15)
ในยามทุกข์ร้อน ข้าพเจ้าร้องหาพระยาห์เวห์ พระองค์ก็ทรงตอบข้าพเจ้า และทรงปลดปล่อยให้เป็นอิสระ (สดด. 118:5)
ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงฟังข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น (สดด. 118:21)
ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงฟังคำภาวนาของข้าพเจ้า โปรดเงี่ยพระกรรณฟังคำวอนขอของข้าพเจ้า พระองค์ทรงซื่อสัตย์ โปรดทรงตอบข้าพเจ้าด้วยความเที่ยงธรรมของพระองค์เถิด(สดด. 143:1)
คำตอบอ่อนโยนทำให้ความโกรธสงบลง แต่คำพูดทิ่มแทงก่อให้เกิดความโกรธ (สภษ. 15:1)
ผู้รู้จักให้คำตอบย่อมยินดี คำพูดที่ถูกกาลเทศะย่อมดีมาก (สภษ. 15:23)
น้ำสะท้อนให้เห็นใบหน้าฉันใด ใจของมนุษย์ก็สะท้อนความรู้สึกฉันนั้น (สภษ. 27:19)
จงเรียกเรา และเราจะตอบท่าน และจะบอกความลับยิ่งใหญ่ที่ท่านไม่รู้ให้ท่านรู้ (ยรม. 33:3)
พระองค์ตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น แต่ดำรงชีวิตด้วยพระวาจาทุกคำที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” (มธ. 4:4)
พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านมีความเชื่อ และไม่สงสัย ท่านจะทำได้ทุกสิ่ง (มธ. 21:21)
และทุกสิ่งที่ท่านจะอธิษฐานภาวนาวอนขอด้วยความเชื่อ ท่านก็จะได้รับ (มธ. 21:22)
ใครมีเสื้อสองตัว จงแบ่งตัวหนึ่งให้กับคนที่ไม่มี คนที่มีอาหาร ก็จงทำเช่นเดียวกัน (ลก. 3:10-11)
ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง (ลก. 10:27)
พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “กิจการของพระเจ้าก็คือให้ท่านทั้งหลายเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา” (ยน. 6:29)
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “คำสอนของเราไม่ใช่ของเรา แต่เป็นของพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา (ยน. 7:16)
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาป (ยน. 8:34)
เราเป็นประตู ผู้ที่เข้ามาทางเราก็จะรอดพ้น เขาจะเข้าจะออก และจะพบทุ่งหญ้า (ยน. 10:9)
เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย (ยน. 11:25-26)
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา (ยน. 14:6)
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “ผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะปฏิบัติตามวาจาของเรา พระบิดาของเราจะทรงรักเขา พระบิดาจะเสด็จพร้อมกับเรามาหาเขา จะทรงพำนักอยู่กับเขา (ยน. 14:23)
อย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกนี้ แต่จงเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการฟื้นฟูความคิดขึ้นใหม่ เพื่อจะได้รู้จักวินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สิ่งใดดี และสิ่งใดเป็นที่พอพระทัยอันสมบูรณ์พร้อมของพระองค์ (รม. 12:2)
ท่านได้รับความรอดพ้นเพราะพระหรรษทานอาศัยความเชื่อ ความรอดพ้นนี้มิได้มาจากท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า มิได้มาจากการกระทำใดๆ ของท่าน เพื่อมิให้ใครโอ้อวดตนได้ (อฟ. 2:8-9)
เราเป็นผลงานของพระองค์ ถูกสร้างมาในพระคริสตเยซูเพื่อให้ประกอบกิจการดี ซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้เราปฏิบัติ (อฟ. 2:10)
จงใช้ทุกโอกาสเพื่อปฏิบัติตนต่อคนต่างศาสนาด้วยความเฉลียวฉลาดรอบคอบ จงให้คำพูดของท่านอ่อนโยนและถูกกาลเทศะอยู่เสมอ จงรู้จักตอบทุกคนอย่างดีที่สุด (คส. 4:5-6)
ไม่ลักขโมย แต่ต้องแสดงความซื่อสัตย์อย่างเคร่งครัดเพื่อทุกคนจะยกย่องคำสอนของพระเจ้า พระผู้ไถ่ของเราว่าเป็นคำสอนที่ดีงามทุกประการ (ทต. 2:10)
พี่น้องที่รัก อย่าหลงผิด ของประทานทุกอย่างที่ดีและบริบูรณ์ย่อมมาจากเบื้องบน ลงมาจากพระบิดาผู้ทรงสร้างความสว่าง พระองค์ไม่ทรงเปลี่ยนแปลง ไม่ทรงมีแม้แต่เงาแห่งความแปรปรวนใดๆ (ยก. 1:16-17)
ทุกคนจงฉับไวที่จะฟัง แต่ช้าที่จะพูด และช้าที่จะโกรธ คนที่โกรธย่อมไม่ปฏิบัติตนชอบธรรมตามพระประสงค์ของพระเจ้า (ยก. 1:19-20)
ท่านทั้งหลายเห็นแล้วว่า มนุษย์จะเป็นผู้ชอบธรรมได้ก็ด้วยการกระทำ มิใช่ด้วยความเชื่อแต่อย่างเดียว (ยก. 2:24)
ร่างกายที่ปราศจากวิญญาณย่อมตายแล้วฉันใด ความเชื่อที่ไม่มีการกระทำก็ย่อมตายแล้วฉันนั้น (ยก. 2:26)
จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระคริสตเจ้าในจิตใจของท่าน จงพร้อมเสมอที่จะให้คำอธิบายแก่ทุกคนที่ต้องการรู้เหตุผลแห่งความหวังของท่าน (1ปต. 3:15)