เราทุกคนเป็นพระวิหารของพระเจ้า เราต้องพยายามรักษาพระวิหารนี้ให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ

มหาพรตเป็นช่วงเวลาที่อาจถูกผจญล่อลวงอย่างหนัก มารับพระวาจาพระเจ้าไปเสริมกำลังกัน

ท่านจะต้องไม่กรีดร่างกายเป็นการไว้ทุกข์ให้ผู้ตาย ท่านจะต้องไม่สักตามเนื้อตัว เราคือ พระยาห์เวห์” (ลนต. 19:28)

อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับท่าน อย่ากังวลใจ เพราะเราเป็นพระเจ้าของท่าน เราจะทำให้ท่านมีกำลังเข้มแข็งและจะมาช่วยเหลือท่านด้วย จริงซิ เราจะยึดท่านไว้ด้วยมือขวาให้ท่าน มีชัยชนะ (อสย. 41:10)

พี่น้อง เพราะเห็นแก่พระกรุณาธิคุณของพระเจ้า ข้าพเจ้าอ้อนวอนท่านทั้งหลายให้ถวายร่างกายของท่านเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่พอพระทัยแด่พระเจ้า นี่เป็นคารวกิจด้วยจิตใจของท่าน (รม. 12:1)

อย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกนี้ แต่จงเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการฟื้นฟูความคิด ขึ้นใหม่ เพื่อจะได้รู้จักวินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สิ่งใดดี และสิ่งใดเป็นที่พอพระทัยอันสมบูรณ์พร้อมของพระองค์ (รม. 12:2)

ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน (1คร. 3:16)

ถ้าใครทำลายพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายเขา เพราะพระวิหารของพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์และท่านก็คือพระวิหารนั้น (1คร. 3:17)

ร่างกายมิได้มีไว้สำหรับการล่วงประเวณี แต่มีไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และองค์พระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับร่างกาย (1คร. 6:13)

ท่านไม่รู้หรือว่า ร่างกายของท่านเป็นพระวิหารของพระจิตเจ้าผู้สถิตอยู่ในท่าน ท่านได้รับพระจิตนี้จากพระเจ้า (1คร. 6:19)

ท่านจึงไม่เป็นเจ้าของของตนเอง พระเจ้าทรงซื้อท่านไว้ด้วยราคาแพง ดังนั้นจงใช้ร่างกายของท่านถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเถิด (1คร. 6:20)

ท่านทั้งหลายเป็นพระกายของพระคริสตเจ้า แต่ละคนต่างก็เป็นอวัยวะของพระกายนั้น (1คร. 12:27)

ดังนั้น ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสตเจ้า ผู้นั้นก็เป็นสิ่งสร้างใหม่สภาพเก่าผ่านพ้นไป สภาพใหม่เกิดขึ้นแล้ว (2คร. 5:17)

พระวิหารของพระเจ้าและรูปเคารพจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่เราเป็นเรา คือพระวิหารของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต พระองค์ตรัสไว้เช่นนี้ว่า “เราจะพำนักอยู่และจะดำเนินไปกับพวกเขา เราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชากรของเรา” (2คร. 6:16)

เราเป็นผลงานของพระองค์ ถูกสร้างมาในพระคริสตเยซูเพื่อให้ประกอบกิจการดี ซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้เราปฏิบัติ (อฟ. 2:10)

พระคริสตเจ้าทรงทำให้อาคารทุกส่วน ต่อกันสนิทเจริญขึ้นเป็นพระวิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า (อฟ. 2:21)

ในพระคริสตเจ้า ท่านทั้งหลายก็เช่นกันกำลังถูกก่อสร้างร่วมกันขึ้นเป็นที่ประทับของพระเจ้าเดชะพระจิตเจ้า (อฟ. 2:22)

จงมีจิตใจและความรู้สึกนึกคิดอย่างใหม่ จงสวมใส่สภาพมนุษย์ใหม่ซึ่งพระเจ้าทรงเนรมิต ให้เหมือนพระองค์ มีความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากความจริง (อฟ. 4:23-24)

ตามที่ข้าพเจ้ามุ่งมั่นรอคอยอย่างกระตือรือร้นและหวังว่า ข้าพเจ้าจะไม่อับอายเลย แต่จะพูดอย่างกล้าหาญว่า พระคริสตเจ้าจะทรงได้รับเกียรติในร่างกายของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ เหมือนกับในอดีต ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเป็นหรือตายก็ตาม (ฟป. 1:20)

นี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า คือให้ท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ ละเว้นจากการผิดประเวณี แต่ละคนรู้จักใช้ร่างกายของตน ด้วยความศักดิ์สิทธิ์และด้วยความเคารพ โดยไม่ปล่อยตัวตาม ราคตัณหาอย่างคนต่างชาติที่ไม่รู้จักพระเจ้า (1ธส. 4:3-5)

การฝึกร่างกายมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่ความเคารพรักพระเจ้านั้นมีประโยชน์สำหรับทุกสิ่ง เพราะมีพระสัญญาทั้งสำหรับชีวิตในโลกนี้และชีวิตในโลกหน้า (1ทธ. 4:8)

พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่บันดาลความขลาดกลัว แต่ประทานจิตที่บันดาลความเข้มแข็ง ความรักและการควบคุมตนเองแก่เรา (2ทธ. 1:7)

ท่านเป็นเหมือนศิลาที่มีชีวิตกำลังก่อสร้างขึ้นเป็นวิหารของพระจิตเจ้า เป็นสมณตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เพื่อถวายเครื่องบูชาฝ่ายจิตซึ่งเป็นที่สบพระทัยของพระเจ้าเดชะพระเยซูคริสตเจ้า (1ปต. 2:5)