ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCCESE

คุณค่าพระวรสารฯ บทเรียนที่ 15 มีใจในการเป็นผู้รับใช้

คุณค่าพระวรสารฯ บทเรียนที่ 15
มีใจในการเป็นผู้รับใช้

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
        1. บอกและอธิบายถึงความหมายของการรับใช้ตามแบบคริสตชนได้
        2. มีใจบริการรับใช้ผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนและมีความทุกข์
        3. รู้จักสังเกตความต้องการของผู้อื่นและให้ความช่วยเหลือทันทีเท่าที่ตนเองสามารถ

 

กิจกรรม  ให้ผู้เรียนได้ทบทวนประสบการณ์ของตนเองและบันทึกลงในสมุด ในประเด็นต่อไปนี้
               1. ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนถึงเวลาที่มาเรียนนี้ ผู้เรียนได้รับความช่วยเหลือจากใครและในเรื่องใดบ้าง ?
               2. ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนถึงเวลาที่มาเรียนนี้ ผู้เรียนได้ให้ความช่วยเหลือหรือรับใช้ใครและในเรื่องใดบ้าง ?


 วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
               1. เมื่อผู้เรียนได้รับความช่วยเหลือ มีความรู้สึกอย่างไร (ดีใจ, สุขใจ, ปลาบปลื้มใจ ฯลฯ)
               2. เมื่อผู้เรียนได้รับใช้ ช่วยเหลือผู้อื่น มีความรู้สึกอย่างไร (ดีใจ, สุขใจ, ปลาบปลื้มใจ ฯลฯ)

            สรุป  ผู้เรียนรู้สึกชอบและมีความสุขเมื่อมีคนทำสิ่งดี ๆ ให้เรา ในชีวิตประจำวันยังมีอีกหลายคนที่คอยช่วยเหลือเรา ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ลุงป้า น้าอา พี่น้อง คุณครู เพื่อน ๆ รวมถึงคนอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในสังคม เมื่อมีคนทำสิ่งดี ๆ ให้เรา เราจึงต้องทำสิ่งที่ดีต่อผู้อื่นด้วยเช่นกัน

 

คำสอน            

                1. หากพูดถึง การช่วยเหลือรับใช้ หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงเรื่องอุดมการณ์หรือคนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะทำ แต่ในความเป็นจริง มีหลายคนที่ใช้ชีวิตเพื่อรับใช้ ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เช่น พนักงานต้อนรับในโรงแรม โรงพยาบาลห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าการรับใช้เหล่านี้เป็นหน้าที่ ต้องทำอยู่แล้ว แต่ความจริงแล้วการกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่ายกย่องมาก เพราะเป็นการแสดงน้ำใจเพื่อรับใช้ผู้อื่น ซึ่งเราเองก็อาจเคยทำมาแล้วที่บ้าน ในการดูแลรับใช้ ช่วยเหลือพ่อแม่ ไม่ว่าจะกวาดบ้าน ล้างจาน นำขยะไปทิ้ง หรือสิ่งต่าง ๆที่เราเคยได้ทำ ย่อมเป็นการแสดงน้ำใจในการรับใช้ช่วยเหลือผู้อื่นในแบบที่เราสามารถทำได้

                2. ทำไมเราต้องรับใช้กันและกัน เหตุผลก็เพราะว่าในคืนสุดท้ายที่พระเยซูเจ้าอยู่กับรรดาศิษย์ เมื่อทรงล้างเท้าบรรดาศิษย์เสร็จแล้ว “พระเยซูเจ้าทรงสวมเสื้อคลุมอีกครั้งหนึ่ง เสด็จกลับไปที่โต๊ะ ตรัสว่า ‘ท่านเข้าใจไหมว่าเราทำอะไรให้ท่าน’ ท่านทั้งหลายเรียกเราว่าอาจารย์ และองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็ถูกแล้ว เพราะเราเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ในเมื่อเราซึ่งเป็นทั้งองค์พระผู้เป็นเจ้าและอาจารย์ ยังล้างเท้าให้ท่าน ท่านก็ต้องล้างเท้าให้กันและกันด้วย เราวางแบบอย่างไว้ให้แล้ว ท่านจะได้ทำเหมือนกับที่เราทำกับท่าน” (เทียบ ยอห์น 13:1-15)

 

                3. คำสอนเรื่องการรับใช้ตามแบบของคริสตชน ยังสอนเราให้มีความนอบน้อมถ่อมตน ไม่คิดถึงแต่เรื่องของตนเองและพวกพ้องของตนเท่านั้น แต่ให้เราตระหนักถึงความต้องการความช่วยเหลือของผู้อื่นด้วย การรับใช้ช่วยเหลือผู้อื่น ยังช่วยให้เราเติบโตขึ้นในความเชื่อ โดยการใช้พระพรความสามารถที่ตนมี รับใช้ผู้อื่นยิ่งเรารับใช้ช่วยเหลือผู้อื่น เราจะยิ่งเป็นเหมือนพระเยซูเจ้าและอยู่ใกล้กับพระเจ้ามากขึ้น และเมื่อเรารู้จักรักผู้อื่นมากขึ้น เราก็จะเริ่มมีความปรารถนาที่จะรับใช้พระเจ้าในชีวิตของเรามากยิ่งขึ้นด้วย

 

               4. เราสามารถรับใช้ผู้อื่นได้ ด้วยการช่วยเหลือดูแลปู่ย่า ตายาย ช่วยบิดามารดาของเราทำงานในบ้าน และที่โรงเรียนก็เช่นเดียวกัน เราอาจช่วยเหลือรับใช้คุณครูและเพื่อน ๆ ด้วยการช่วยถือของ ช่วยลบกระดาน ช่วยเปิดประตู เก็บขยะ ล้างห้องน้ำ รวมถึงการรับใช้ช่วยเหลืองานต่าง ๆ ที่วัดด้วย เช่น ช่วยมิสซา อ่านบทอ่าน ปิดหน้าต่าง ปิดพัดลม เป็นต้น

 

               5. แม้ว่าการรับใช้หรือช่วยเหลือผู้อื่น อาจทำให้เราต้องเหน็ดเหนื่อย ยุ่งยาก แต่ถือว่าเป็นหน้าที่ที่ควรค่าที่เราควรทำ เมื่อเหน็ดเหนื่อยหรือท้อใจ ก็ให้เราสวดภาวนาเพื่อขอพลังจากพระเจ้า เพื่อให้เราจะได้สามารถรับใช้ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปได้


                6. พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า ให้เรารับใช้ทุกคนโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนและไม่คิดมูลค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนยากจน คนตกทุกข์ได้ยาก ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา และด้วยการรับใช้ทุกคนเช่นนี้เท่านั้นที่จะทำให้เรายิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระเจ้า

 

ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ
          1. เราต้องรับใช้กันและกัน เพราะพระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาศิษย์และสั่งว่า เราวางแบบอย่างไว้ให้แล้ว ท่านจะได้ทำเหมือนกับที่เราทำกับท่าน
          2. การรับใช้ช่วยเหลือผู้อื่นช่วยให้เราเติบโตขึ้นในความเชื่อ โดยการใช้พระพรความสามารถที่ตนมีรับใช้ผู้อื่น
          3. เราสามารถรับใช้ผู้อื่นได้ ด้วยการช่วยเหลือดูแลปู่ย่า ตายาย และบิดามารดาของเรา
          4. การรับใช้หรือช่วยเหลือผู้อื่น อาจทำให้เราต้องเหน็ดเหนื่อย ยุ่งยาก แต่ถือว่าเป็นหน้าที่ที่เราควรทำ
          5. เมื่อเรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือท้อใจในการรับใช้ช่วยเหลือผู้อื่น ก็ให้เราสวดภาวนาเพื่อขอพลังจากพระเจ้า
          6. พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า ให้เรารับใช้ทุกคนโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนและไม่คิดมูลค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนยากจน คนตกทุกข์ได้ยาก และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา

ข. กิจกรรมสรุปบทเรียน
            ร้องเพลง รับใช้ช่วยเหลือผู้อื่น เพลงประกอบการสอนคุณธรรม อัลบั้ม เด็กดี

 

เพลงรับ  ใช้ช่วยเหลือผู้อื่น
มาพวกเราเร็วไว ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือ ด้วยความสุขใจ
มาพวกเราเร็วไว รับใช้ผู้อื่น รับใช้ ด้วยความเต็มใจ

ค. การบ้าน
       1. ให้ผู้เรียนรับใช้ช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องของตน โดยเฉพาะงานที่นอกเหนือจากหน้าที่ประจำที่เราเคยทำและกลับมาเล่าให้เพื่อนฟัง
       2. ให้ผู้เรียนรับใช้ช่วยเหลือชุมชน ที่โรงเรียนหรือที่วัด โดยเฉพาะงานที่นอกเหนือจากหน้าที่ และหรืองานที่ไม่มีใครทำ และกลับมาเล่าให้เพื่อนฟัง

::: Download  บทเรียนที่ 15 ::

เนื้อหาและบทเรียน

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์