ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

 ดาวิด: ผู้มีชีวิตเพื่อพระเจ้าและผู้อื่น

บุคคลในประวัติศาสตร์ความรอด บทเรียนที่ 14
ดาวิด: ผู้มีชีวิตเพื่อพระเจ้าและผู้อื่น

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
       1. รู้จักชีวิตของดาวิด ผู้มีชีวิตเพื่อพระเจ้าและผู้อื่น
       2. ตระหนักถึงพระพรและความสามารถที่พระเจ้าประทานให้
       3. ใช้พระพรและความสามารถที่ตนมีเพื่อรับใช้พระเจ้าและผู้อื่น

กิจกรรม   ชมวิดีทัศน์  “LIVE | ซุปเปอร์บุ๊ค ซีซั่น 1 | ตอน การผจญครั้งใหญ่ Ep.5” (เวลา 32 นาที)



อุปกรณ์      1. ทีวีหรือโปรเจคเตอร์   2. โน้ตบุ๊ค/แทบเล็ต (อุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับจอภาพได้)
                   3. ลำโพงต่อขยายเสียง 4. คลิป “การผจญครั้งใหญ่”   5. รางวัลสำหรับการตอบคำถาม

ดำเนินการ   ผู้สอนเกริ่นนำว่า วันนี้จะนำให้ผู้เรียนได้รู้จักเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือกเขาให้ทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ เขามีชื่อว่า ‘ดาวิด’ ให้ผู้เรียนตั้งใจดู “การผจญครั้งใหญ่” ของเขาให้ดี ๆ เมื่อจบแล้วจะมีคำถาม ใครตอบได้จะมีรางวัลให้

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
              1. ทำไมคริสจึงไม่ยอมไปออดิชันเป็นมือกีต้าร์ของวงโรงเรียน (ไม่มั่นใจ, ไม่กล้า, กลัวการอยู่ต่อหน้าคนเยอะ ๆ)
              2. อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คริสกลับมาขึ้นเวทีเพื่อออดิชันอีกครั้ง และผลลัพท์เป็นอย่างไร (คำพูดของดาวิด และเหตุการณ์ที่ดาวิดต่อสู้กับโกลิอัท, คริสได้เข้าเป็นสมาชิกวงดนตรีของโรงเรียน)
              3. ใครมาหาดาวิดที่บ้านและมาทำอะไร (ซามูเอล-มาแจ้งว่าพระเจ้าทรงเลือกเขาให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอลและเจิมน้ำมัน)
              4. ดาวิดมีความสามารถอะไรบ้าง (เล่นพิณ, เลี้ยงสัตว์, ต่อสู้กับสิงโต)
              5. นักรบของชาวฟิลิสเตียซึ่งมีรูปร่างใหญ่มีชื่อว่าอะไร (โกลิอัท)
              6. ทำไมจึงไม่มีใครเห็นด้วยที่ดาวิดอาสาจะไปต่อสู้กับโกลิอัท (เพราะเขายังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ)
              7. ทำไมกษัตริย์ซาอูลจึงยอมให้ดาวิดไปต่อสู้กับโกลิอัท (ความมุ่งมั่นตั้งใจและดาวิดบอกว่า พระเจ้าอยู่กับเขาจะช่วยเหลือเขาให้เอาชนะได้)
              8. ดาวิดใช้วิธีการใดเพื่อเอาชนะโกลิอัท (ใช้ก้อนหินใส่สลิงเหวี่ยงไปถูกหน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินเจาะที่หน้าผากจนทำให้ล้มลง แล้วจึงใช้ดาบตัดศีรษะ)

                 สรุป คริสรู้สึกประหม่า ไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง เมื่อต้องเล่นกีต้าร์ต่อหน้าสาธารณะ แต่เมื่อได้เห็นแบบอย่างความเชื่อในพระเจ้า และความกล้าหาญของดาวิดซึ่งเป็นคนตัวเล็ก แต่มีความกล้าหาญ มุ่งมั่นตั้งใจจริง จนเอาชนะโกลิอัทได้ เขาจึงกลับมาเปลี่ยนแปลงตนเองให้มีความกล้าหาญจนประสบความสำเร็จในที่สุด

คำสอน                                                

           1. ผู้เรียนบางคนอาจจะเคยมีความรู้สึกกังวล ไม่มั่นใจไม่แน่ใจ หรือรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถ กลัวว่าจะทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ได้ไม่ดี เช่น เวลาที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนกลุ่มออกไปพูดนำเสนองาน แสดงความคิดเห็น หรือแสดงออกเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่หน้าชั้นเรียนหรือหน้าแถว ซึ่งมีผู้ฟังผู้ชมจำนวนมาก แต่บางคนก็ชอบที่จะอาสาเป็นตัวแทนของเพื่อน ๆ ในการพูดนำเสนอความคิดเห็น การเป็นผู้นำ หรือแสดงออกในความสามารถด้านต่าง ๆ อย่างมั่นใจ

           2. เรื่องราวของดาวิด บุตรคนเล็กของเจสซี ซึ่งพระเจ้าทรงใช้ซามูเอลให้มาหาเขาเพื่อเจิมให้เป็นกษัตริย์ของชาติอิสราเอล สืบอำนาจต่อจากกษัตริย์ซาอูล

               ดาวิดเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ทำหน้าที่เลี้ยงแกะ มีความสามารถในการเล่นพิณ พูดจาคมคาย บุคลิกหน้าตาดี และองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา

               วันหนึ่ง นักรบคนหนึ่งออกจากค่ายของชาวฟีลิสเตีย มาท้าทายชาวอิสราเอล เขาชื่อ โกลิอัท เป็นชาวเมืองกัท สูงประมาณสามเมตร ยืนอยู่หน้าแนวรบของชาวอิสราเอล ร้องตะโกนให้ส่งคนออกมาสู้กับเขา ดาวิดได้ไปเฝ้ากษัตริย์ซาอูลและอาสาออกไปสู้กับโกลิอัท แต่กษัตริย์ซาอูลเห็นว่าเขายังเป็นเด็ก และไม่อาจสู้ได้ แต่ดาวิดบอกว่า “พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากเล็บของสิงโตและหมีมาแล้ว จะทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากมือของชาวฟีลิสเตียผู้นี้ด้วย” ซาอูลตรัสตอบดาวิดว่า “ไปเถิด ขอพระเจ้าสถิตกับเจ้า”

                ดาวิดจึงออกไปสู้รบกับโกลิอัท เขาล้วงลงไปในย่าม หยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง ใส่สลิงเหวี่ยงไปถูกหน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินเจาะหน้าผากเข้าไป เขาล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นดิน ดาวิดฆ่าเขาโดยใช้สลิงและก้อนหิน เขาปราบและฆ่าชาวฟีลิสเตียได้ทั้ง ๆ ที่ตนไม่มีดาบในมือ ดาวิดวิ่งไปยืนคร่อมร่างชาวฟีลิสเตียไว้ เขาชักดาบของชาวฟีลิสเตียออกจากฝักฆ่าเขา และตัดศีรษะออกจากร่าง เมื่อบรรดาชาวฟีลิสเตียเห็นว่านักรบของตนตายแล้วต่างก็ออกวิ่งหนีไป

               ดาวิดเป็นที่ยอมรับและชื่นชอบของคนอิสราเอล ทำให้กษัตริย์ซาอูลทรงอิจฉาดาวิด เพราะผู้คนพูดกันว่า “ซาอูลฆ่าศัตรูเป็นพัน ดาวิดฆ่าศัตรูเป็นหมื่น” ทำให้กษัตริย์ซาอูลพยายามฆ่าดาวิดหลายครั้ง แต่ก็หนีรอดไปได้ทุกครั้ง และเมื่อมีโอกาสที่ดาวิดจะฆ่ากษัตริย์ซาอูล ดาวิดก็ไว้ชีวิตพระองค์ถึงสองครั้ง หลังจากกษัตริย์ซาอูลสิ้นพระชนม์ ชนเผ่ายูดาห์ได้เจิมดาวิดให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ที่เมืองเฮโบรน

           3. ดาวิดใช้ความสามารถที่พระเจ้าประทานให้เพื่อบุคคลอื่น เช่น ช่วยเหลือครอบครัวดูแลฝูงแกะ เล่นพิณเพื่อสรรเสริญพระเจ้า ใช้ก้อนหินกับสลิงเอาชนะโกลิอัท และเขามีความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงประทับอยู่กับเขา จึงทำให้เขามีความกล้าหาญไม่หวั่นกลัวสิ่งใด สามารถก้าวข้ามคำพูดสบประมาท สายตาที่ดูถูก และข้อจำกัดของการเป็นเด็ก เปลี่ยนให้เป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะทำภารกิจให้สำเร็จลงได้

           4. ในบทจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวโรม เตือนใจให้เราตระหนักถึงพระพรว่า “เรามีพระพรพิเศษแตกต่างกันตามพระหรรษทานที่พระองค์ประทานให้ ผู้ได้รับพระพรที่จะประกาศพระวาจา ก็จงใช้พระพรนั้นมากน้อยตามส่วนความเชื่อของตน ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะรับใช้ ก็จงรับใช้ ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะสอน ก็จงสอน ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะตักเตือนก็จงตักเตือน ผู้ที่บริจาคก็จงบริจาคด้วยความเอื้อเฟื้ออย่างจริงใจ ผู้ที่เป็นผู้นำ ก็จงทำหน้าที่ผู้นำด้วยความเอาใจใส่ ผู้ที่แสดงความเมตตากรุณา ก็จงแสดงความเมตตากรุณาด้วยใจยินดี..” (รม. 12:6-8)

           5. ให้เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพรความสามารถต่าง ๆ ที่พระองค์ประทานให้ และหมั่นฝึกฝนให้เชี่ยวชาญเพื่อสร้างความมั่นใจและใช้พระพรนั้นเพื่อพระเจ้าและผู้อื่น เช่น หากผู้เรียนมีเสียงที่ไพเราะ ร้องเพลงเก่งก็ไปร่วมเป็นนักขับร้องของวัด หรือไปเป็นจิตอาสาร้องเพลงให้กำลังใจผู้ป่วยที่โรงพยาบาล หรือมีความสามารถในการเล่นดนตรี ก็ไปช่วยเล่นดนตรีในพิธีบูชาขอบพระคุณที่วัด

 

ก. ข้อควรจำ
          1. ดาวิด เป็นบุตรคนเล็กของเจสซี พระเจ้าทรงใช้ซามูเอลให้มาหาเขาเพื่อเจิมให้เป็นกษัตริย์ และองค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับเขา
          2. ดาวิดอาสาไปสู้กับนักรบชาวฟิลิสเตีย เขาฆ่าโกลิอัทโดยใช้สลิงและก้อนหิน
          3. ดาวิดใช้พระพรความสามารถที่พระเจ้าประทานให้เขาเพื่อบุคคลอื่น และเขามีความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงประทับอยู่กับเขา จึงทำให้เขามีความกล้าหาญไม่หวั่นกลัวสิ่งใด
          4. เรามีพระพรพิเศษแตกต่างกันตามพระหรรษทานที่พระองค์ประทานให้
          5. ให้เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพรความสามารถต่าง ๆ ที่พระองค์ประทานให้ หมั่นฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างความมั่นใจและใช้พระพรนั้นเพื่อพระเจ้าและผู้อื่น

ข. กิจกรรม     ร้องเพลง “ดาวิดกับโกลิแอท”

เพลงประกอบการสอนคำสอน อัลบั้ม พระเยซูใจดี



ฟังและดาวน์โหลด mp3 ได้ที่ 

 ดาวิดกับโกลิแอท
1. มียักษ์ตนหนึ่ง ชื่อ “โกลิแอท” จึงไม่น่าแปลกที่ไม่กลัวผู้ใด
หน้าตาน่ากลัว ร้องท้าคนทั่วไป เร็ว เร็ว ไว ไว มาสู้กับข้า

2. ดาวิด เป็นเด็ก แต่มีใจเด็ด เมื่อคิดเบ็ดเสร็จ จึงเดินหน้าเข้ามา
มือถือสลิง ก้อนหินจากลำธาร สองแขน สองขา ท่าทางว่องไว

*** แม้....ตัวจะเล็ก แต่มีเคล็ดลับ ที่ไม่เหมือนใคร
อยากจะรู้บ้างไหม เหตุใดจึงกล้าราวี

3. ดาวิด ออกสู้ ด้วยรู้ตัวดี ว่ารบครั้งนี้ มีพระเจ้าคอยช่วยเหลือ
ส่วน โกลิแอท ไม่เชื่อศรัทธา เย่อหยิ่ง อหังกา ไม่เชื่อพระเจ้า

4. ดาวิด ใช้สลิง ยิงเข้าตรงหน้า โกลิแอท หลับตา ล้มลงทันใด
ดาวิด วิ่งไป ตรวจสอบเร็วไว ชนะครั้งนี้ไซร้ ก็เพราะพระเจ้า (***)

สำหรับเด็กโต ให้ผู้เรียนแต่ละคนสำรวจว่า ตนมีความสามารถอะไร และจะใช้ความสามารถนั้นรับใช้พระเจ้าและผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง เขียนบันทึกลงในสมุดและบอกเล่าให้เพื่อนในชั้นเรียนได้ฟัง

***ในกรณีที่คิดว่าตนไม่มีจริง ๆ ให้ผู้เรียนเขียนว่าอยากได้รับพระพรหรือความสามารถอะไรจากพระเจ้าและจะใช้พระพรหรือความสามารถที่ได้รับมานั้นรับใช้พระเจ้าและผู้อื่นได้อย่างไร



ตัวอย่าง..

พระพร/ความสามารถที่ฉันมี รับใช้พระเจ้า ช่วยเหลือผู้อื่น
เล่นดนตรี เล่นดนตรี สอนเพื่อนเล่นดนตรี
... ... ...

 

ค. การบ้าน              

        1. อ่านใบความรู้เรื่องดาวิด เพิ่มเติม 
        2. ภาวนาขอบคุณพระเจ้าอยู่เสมอสำหรับพรพรความสามารถที่ตนเองได้รับ
        3. ใช้ความสามารถที่ตนเองมีในการรับใช้พระเจ้าและผู้อื่น เช่น ไปช่วยมิสซา อ่านบทอ่าน นำสวด เล่นดนตรี นำขับร้องที่วัด ฯลฯ

       ::: Download  บทเรียนที่ 14 ::

 

 ดาวิด

ดาวิด: ผู้มีชีวิตเพื่อพระเจ้าและผู้อื่น

(1 ซามูเอล 15:10-16:23, 17:4-18:7; 24:1-23; 26:1-25; 2 ซามูเอล 5:1-5)

 

           พระดำรัสของพระเจ้ามาถึงซามูเอลว่า “เราเสียใจที่แต่งตั้งซาอูลขึ้นเป็นกษัตริย์ เพราะเขาหันหลังไม่ติดตามเรา ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเรา” หลังจากที่พระเจ้าให้ซามูเอลแต่งตั้งซาอูลเป็นกษัตริย์คนแรกของอิสราเอล พระองค์ไม่เคยต้องการของถวายใด ๆ มากกว่าการเชื่อฟัง แต่เพราะกษัตริย์ซาอูลไม่เชื่อฟังและไม่ปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้า พระเจ้าจึงตัดสินใจปลดกษัตริย์ซาอูลและพงศ์พันธุ์ของเขาออกจากการเป็นกษัตริย์

 

ดาวิด: ผู้มีชีวิตเพื่อพระเจ้าและผู้อื่น           หลังจากที่พระเจ้าได้ตัดสินใจจะถอดกษัตริย์ซาอูลจากการเป็นกษัตริย์ พระเจ้าสั่งให้ซามูเอลเติมน้ำมันมะกอกเทศให้เต็มเขาสัตว์ และออกเดินทางไปพบชายคนหนึ่งชื่อเจสซีที่เบธเลเฮม เพราะพระเจ้าจะเลือกลูกชายคนหนึ่งของเจสซี ให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป แต่ซามูเอลสงสัยว่าเขาจะออกเดินทางไปได้อย่างไร เพราะถ้ากษัตริย์ซาอูลรู้เขาจะถูกฆ่าแน่ ๆ พระเจ้าทรงตอบเขาว่า “จงเอาลูกโคเพศเมียตัวหนึ่งไปด้วย และพูดว่า ข้าพเจ้ามาเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า จงเชิญเจสซีไปร่วมการถวายเครื่องบูชา แล้วเราจะบอกให้เจ้ารู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เจ้าต้องเจิมผู้ที่เราบอกนั้นให้เป็นกษัตริย์” ซามูเอลก็ทำตามคำสั่งของพระเจ้า และเดินทางไปเบธเลเฮม

 

          เมื่อซามูเอลเดินทางมาถึงเบธเลเฮม บรรดาผู้อาวุโสในเมืองต่างหวาดกลัวกับการมาของเขาและถามเขาว่า “ท่านมาอย่างสันติหรือ” ซามูเอลตอบว่า “ถูกแล้ว เรามาอย่างสันติ มาเพื่อถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า จงชำระตัวแล้วมาร่วมถวายเครื่องบูชาด้วยกันเถิด” เจสซีกับบุตรชายทั้งหลายของเขาก็ทำการชำระร่างกายด้วยน้ำและสวมเสื้อผ้าสะอาด เมื่อพวกเขามาถึง ซามูเอลมองดูเอลีอับ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของเจสซี และคิดในใจว่าชายคนนี้แหละ ต้องเป็นคนที่พระเจ้าแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์แน่นอน อาจเป็นเพราะว่าเขาเป็นบุตรหัวปี มีรูปร่างสูงใหญ่ในบรรดาพี่น้องของเขาและดูเหมาะสมกับการเป็นผู้นำ แต่พระเจ้าบอกกับซามูเอลว่า “อย่าสนใจจากรูปร่างหน้าตาหรือส่วนสูง เพราะเราไม่ได้เลือกคนนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้มองอย่างที่มนุษย์มอง มนุษย์มองรูปลักษณ์ภายนอก แต่องค์พระผู้เป็นเจ้ามองดูจิตใจ” จากนั้นเจสซีได้เรียกอาบีนาดับ ซึ่งเป็นลูกชายคนที่สองของเจสซีให้มาอยู่ต่อหน้าซามูเอล แต่ซามูเอลบอกว่าพระเจ้าไม่ได้เลือกคนนี้ จากนั้นเจสซีก็เสนอลูกชายคนที่สามของเขา ชัมมาห์มาให้ซามูเอลดู แต่ซามูเอลก็ตอบกลับพวกเขาว่า “พระเจ้าไม่ได้เลือกคนเหล่านี้ ท่านมีลูกชายเท่านี้หรือ” ที่จริงเจสซีมีลูกชายทั้งหมดแปดคน หลังจากเจสซีเสนอลูกชายทั้งเจ็ดคนแล้ว ก็เหลือเพียงดาวิดลูกคนสุดท้อง เจสซีจึงตอบซามูเอลไปว่า “ยังมีลูกคนสุดท้องอีกคนหนึ่ง แต่เขาเลี้ยงแกะอยู่” ซามูเอลจึงตอบว่า “จงไปตามเขามา เราจะไม่นั่งกินอาหารจนกว่าเขาจะมา”

 

            ดาวิดเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็กที่สุดในบรรดาพี่ ๆ ผิวพรรณดี รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา แล้วพระเจ้าตรัสว่า“คนนี้แหละ จงลุกขึ้นและเจิมตั้งเขาเถิด” ซามูเอลจึงหยิบเขาสัตว์บรรจุน้ำมันมะกอกเทศเจิมดาวิดต่อหน้าบรรดาพี่ชาย พระจิตของพระเจ้าก็เสด็จลงมาสวมทับดาวิดด้วยฤทธานุภาพตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แล้วซามูเอลจึงเดินทางกลับไปที่เมืองรามาห์

 

             ในเวลานั้น พระจิตของพระเจ้าทรงละทิ้งจากกษัตริย์ซาอูล และจิตชั่วร้ายมาทรมานกษัตริย์ซาอูลมหาดเล็กแนะนำพระองค์ ให้หานักพิณมาบรรเลงถวาย เพราะเสียงพิณจะทำให้รู้สึกดีขึ้น จากนั้นกษัตริย์ซาอูลจึงสั่งให้มหาดเล็กหานักเล่นพิณมาคนหนึ่งในพวกนั้นคุยกันว่าเขารู้จักคนหนึ่งเป็นบุตรของเจสซีชาวเบธเลเฮม เขาเป็นนักดนตรี เป็นคนกล้าหาญ เป็นนักรบ พูดจาเฉลียวฉลาด รูปร่างหน้าตาดี พระเจ้าสถิตกับเขา กษัตริย์ซาอูลจึงส่งคนไปพบเจสซีและสั่งให้ส่งตัวดาวิดลูกชายที่เป็นหนุ่มเลี้ยงแกะมาเข้าเฝ้า เจสซีจึงส่งดาวิดพร้อมกับแพะหนุ่ม และให้ลาตัวหนึ่งบรรทุกอาหารและเหล้าองุ่นหนึ่งถุงมาถวายกษัตริย์ซาอูล เมื่อได้พบดาวิด กษัตริย์ซาอูลประทับใจเขามาก จึงได้ตั้งดาวิดให้เป็นหนึ่งในมหาดเล็กผู้เชิญอาวุธ และกษัตริย์ซาอูลก็ส่งข่าวไปถึงเจสซีว่า “ขอให้ดาวิดมาทำงานกับเรา เพราะเราชอบเขามาก” เมื่อใดที่จิตชั่วร้ายมารบกวนกษัตริย์ซาอูล ดาวิดจะบรรเลงเพลงพิณให้กษัตริย์ซาอูลฟังทำให้เขารู้สึกสงบสบายพระทัยขึ้น และจิตชั่วร้ายก็ไปจากพระองค์

 

            วันหนึ่ง นักรบคนหนึ่งออกจากค่ายของชาวฟีลิสเตียมาท้าทายชาวอิสราเอล เขาชื่อ โกลิอัท เป็นชาวเมืองกัท สูงประมาณสามเมตร ยืนอยู่หน้าแนวรบของชาวอิสราเอล ร้องตะโกนให้ส่งคนออกมาสู้กับเขา“จงเลือกคนหนึ่งออกมาสู้กับข้าพเจ้าซิ ถ้าเขาต่อสู้กับข้าพเจ้าและฆ่าข้าพเจ้าได้ พวกเราจะยอมเป็นทาสของท่าน แต่ถ้าข้าพเจ้าเอาชนะและฆ่าเขาได้ ท่านทั้งหลายจะต้องเป็นทาสรับใช้พวกเรา” ชาวฟีลิสเตียคนนั้นเสริมว่า “วันนี้ ข้าพเจ้าท้าทายกองทัพอิสราเอล จงส่งคนมาและเราจะต่อสู้กัน” เมื่อกษัตริย์ซาอูลกับทหารอิสราเอลทั้งหลายได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ของชาวฟีลิสเตีย ก็ตกใจและกลัวมาก เขาออกมาท้าทายชาวอิสราเอลทุกเช้าเย็นเป็นเวลาสี่สิบวัน

 

            เจสซีอยากรู้ว่าบุตรชายทั้งสามของตนที่ไปช่วยกษัตริย์ซาอูลรบกับฟีลิสเตียเป็นอย่างไรบ้าง จึงส่งดาวิดไปดู และให้เขานำของฝากจากพี่ชายกลับมาด้วย เพื่อให้พ่อรู้ว่าเขาสบายดี วันรุ่งขึ้น ดาวิดลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ ทิ้งฝูงแพะแกะไว้ให้คนอื่นดูแล จัดสัมภาระออกเดินทางตามคำสั่งของเจสซี และขณะที่เขากำลังคุยกับพี่ชายอยู่นั้น โกลิอัทออกจากแนวรบของชาวฟีลิสเตียมาท้าทายชาวอิสราเอลเช่นเคย เมื่อชาวอิสราเอลเห็นชายผู้นี้ต่างวิ่งหนีไปเพราะกลัวมาก ชาวอิสราเอลพูดกันว่า “เห็นคนนั้นที่ออกมาไหม เขาออกมาท้าทายชาวอิสราเอล ใครฆ่าเขาได้ กษัตริย์จะประทานรางวัลให้จนร่ำรวย จะประทานพระธิดาให้ ทั้งจะทรงยกเว้นภาษีให้ครอบครัวบิดาของเขาด้วย”

 

            ดาวิดถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ว่า “ผู้ที่ฆ่าชาวฟีลิสเตียคนนี้ และช่วยชาวอิสราเอลให้พ้นความอับอายจะได้อะไรบ้าง” ทุกคนตอบดาวิดเช่นเดียวกันว่า “ผู้ที่ฆ่าชาวฟีลิสเตียคนนั้น จะได้รับตามที่กษัตริย์ทรงสัญญาไว้” พี่ชายจึงดุเขา ดาวิดตอบว่า “น้องทำอะไรผิด จะถามสักหน่อยไม่ได้หรือ” ดาวิดหันไปถามเรื่องเดียวกันจากทหารอีกคนหนึ่ง ก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม

 

           มีผู้ได้ยินดาวิดพูด จึงนำไปทูลกษัตริย์ซาอูล พระองค์ทรงเรียกดาวิดให้ไปเฝ้า เขาจึงทูลอาสาออกไปสู้กับโกลิอัท แต่กษัตริย์ซาอูลเห็นว่าเขายังเป็นเด็กและไม่อาจสู้ได้ แต่ดาวิดบอกว่า “พระเจ้าผู้ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากเล็บของสิงโตและหมีมาแล้ว จะทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากมือของชาวฟีลิสเตียผู้นี้ด้วย” ซาอูลตรัสตอบดาวิดว่า “ไปเถิด ขอพระเจ้าสถิตกับเจ้า”

 

          ดาวิดจึงออกไปสู้รบกับโกลิอัท เขาล้วงลงไปในย่ามหยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง ใส่สลิงเหวี่ยงไปถูกหน้าผากของโกลิอัท ก้อนหินเจาะหน้าผากเข้าไป เขาล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นดิน ดาวิดฆ่าเขาโดยใช้สลิงและก้อนหิน เขาปราบและฆ่าชาวฟีลิสเตียได้ทั้ง ๆ ที่ตนไม่มีดาบในมือ ดาวิดวิ่งไปยืนคร่อมร่างชาวฟีลิสเตียไว้ เขาชักดาบของชาวฟีลิสเตียออกจากฝัก ฆ่าเขาและตัดศีรษะออกจากร่าง เมื่อบรรดาชาวฟีลิสเตียเห็นว่า นักรบของตนตายแล้ว ต่างก็ออกวิ่งหนีไป ดาวิดเป็นที่ยอมรับและชื่นชอบของคนอิสราเอล ทำให้กษัตริย์ซาอูลอิจฉาดาวิด เพราะผู้คนพูดกันว่า “ซาอูลฆ่าศัตรูเป็นพัน ดาวิดฆ่าศัตรูเป็นหมื่น”ทำให้กษัตริย์ซาอูลพยายามฆ่าดาวิดหลายครั้ง แต่ก็หนีรอดไปได้ทุกครั้ง และเมื่อมีโอกาสที่ดาวิดจะฆ่ากษัตริย์ซาอูล ดาวิดก็ไว้ชีวิตพระองค์ถึงสองครั้ง

 

           หลังจากกษัตริย์ซาอูลสิ้นพระชนม์ ชนเผ่ายูดาห์ได้เจิมดาวิดให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ที่เมืองเฮโบรน แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ชาวอิสราเอลทุกเผ่ามาเฝ้ากษัตริย์ดาวิดที่เมืองเฮโบรนทูลว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นสายเลือดเดียวกันกับพระองค์ ในอดีตเมื่อกษัตริย์ซาอูลทรงปกครอง พระองค์ทรงนำชาวอิสราเอลออกรบ พระเจ้าตรัสแก่พระองค์ว่า ‘ท่านจะเลี้ยงดูอิสราเอลประชากรของเรา ท่านจะเป็นเจ้านายเหนืออิสราเอล’” บรรดาผู้อาวุโสชาวอิสราเอลจึงมาเฝ้ากษัตริย์ที่เมืองเฮโบรน และกษัตริย์ดาวิดทรงทำพันธสัญญากับเขาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าที่เมืองเฮโบรน เขาจึงเจิมดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล

 

             ดาวิดมีพระชนมายุสามสิบพรรษาเมื่อทรงขึ้นครองราชย์ และทรงเป็นกษัตริย์อยู่เป็นเวลาสี่สิบปีพระองค์ทรงปกครองชนเผ่ายูดาห์ที่เมืองเฮโบรนเป็นเวลาเจ็ดปีหกเดือน ทรงปกครองชาวอิสราเอลทุกเผ่าและชนเผ่ายูดาห์ที่กรุงเยรูซาเล็มเป็นเวลาสามสิบสามปี

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน