คุณค่าพระวรสารฯ บทเรียนที่ 14
มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน
จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
1. รู้และบอกได้ถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเอง
2. ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น
3. ปฏิตามหน้าที่ที่ได้รับด้วยความตั้งใจและรับผิดชอบ
กิจกรรม พับกระต่าย
อุปกรณ์ กระดาษหลากสี รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 20x20 เซนติเมตร ตามจำนวนผู้เรียน
วิธิการ ให้ผู้เรียนพับกระดาษเป็นรูปกระต่าย (หรือรูปอื่น ๆ) ทำตามผู้สอนทีละขั้นตอนจนสำเร็จ
ดูตัวอย่าง
วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
1. คนที่ทำได้สำเร็จรู้สึกอย่างไร และทำไมจึงทำได้สำเร็จ
2. คนที่ทำไม่สำเร็จรู้สึกอย่างไร และทำไมจึงทำไม่สำเร็จ
สรุป เราทุกคนต่างก็มีบทบาทของตน ทั้งในครอบครัวและในสังคม เช่น บทบาทของการเป็นลูกต่อบิดามารดาหรือบทบาทของการเป็นนักเรียนต่อคุณครูและโรงเรียน เมื่อมีบทบาทแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ หน้าที่ที่ต้องทำในการเป็นลูกที่ดี เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ ซึ่งเราแต่ละคนก็ต้องพยายามทำให้สำเร็จ
คำสอน
1. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นเรื่องพื้นฐานและเป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญที่ทุกคนและทุกสังคมต่างคาดหวังจากมนุษย์ทุกคน ซึ่งแน่นอนว่า เราแต่ละคนก็จะมีหน้าที่ทั้งต่อตนเอง ผู้อื่น สังคมและประเทศชาติ หากแต่ละคนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองก็จะทำให้ชีวิตและสังคมมีความสงบเรียบร้อยและเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น เพราะการกระทำของคน ๆ หนึ่ง ย่อมมีผลต่อคนอื่น ๆ ในสังคมเสมอ
2. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ หมายถึง ความสามารถในหน้าที่ของตน โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากหรือปัญหาอุปสรรค มีความกล้าหาญที่จะรับทั้งความผิดและความชอบจากการกระทำของตนเอง ตัวอย่างเช่น ผลสอบออกมาไม่ดี ก็ไม่โทษว่าเป็นการกระทำของผู้อื่น ไม่ใช่ความผิดของครูที่สอนไม่เข้าใจ ไม่โทษว่าไม่มีเวลาหรือไม่โทษบิดามารดาว่าไม่ให้การสนับสนุน แต่จะต้องพิจารณาถึงการกระทำของตนเป็นอันดับแรก ว่ายังทำไม่เต็มที่หรือมีข้อผิดพลาดตรงไหนอีกบ้าง เพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไขในการทำหน้าที่ของตนให้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น
3. ในวัยเด็กของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงทำหน้าที่ของตนด้วยความรับผิดชอบ เราเห็นได้จากเหตุการณ์ที่พระองค์เสด็จเข้าไปในพระวิหารในขณะที่มีพระชนมายุ 12 ปี ทรงประทับอยู่กับบรรดาอาจารย์ เพื่อเรียนรู้คำสอนของศาสนา ทรงฟัง และไต่ถามพวกเขาด้วยความตั้งใจและกระตือรือร้น เมื่อทรงกลับไปอยู่ที่เมืองนาซาเร็ธกับบิดามารดา ก็ทรงเชื่อฟังท่านทั้งสองอย่างดี และทรงเจริญวัยขึ้น ทั้งในพระปรีชาญาณ พระชนมายุ และพระหรรษทานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าและต่อหน้ามนุษย์ (เทียบ ลูกา 2:41-52)
4. พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เราเห็นคุณค่าของการทำงานและความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เพราะพระองค์ทำงานอยู่เสมอเหมือนพระบิดาทรงทำงานอยู่เสมอ (เทียบ ยอห์น 5:17) พระเยซูเจ้ายังสอนว่าการทำงานเป็นการสรรเสริญพระเจ้าด้วย (เทียบ มัทธิว 5:16, ยอห์น 15:8; 17:4) และพระองค์ก็ทรงทำงานตามบทบาทหน้าที่ของพระองค์อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การประกาศสอน การช่วยเหลือประชากรของพระเจ้าตลอดวันเวลาในชีวิตของพระองค์ ดังพระวาจาที่ว่า “พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านไปที่ใดทรงกระทำความดี...” (กิจการ 10:38)
5. เราต้องฝึกฝนตนเองให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ โดยเริ่มจากหน้าที่รับผิดชอบต่อตนเอง เช่น การเก็บที่นอน อาบน้ำแต่งตัวรู้จักจัดสรรเวลา ซึ่งสามารถลงมือทำโดยที่พ่อแม่หรือคุณครูไม่ต้องคอยบอกคอยเตือน เราสามารถอาสารับผิดชอบหน้าที่ภายในบ้านได้ เช่น ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน เก็บของทั้งของตนและส่วนรวมให้ถูกที่เป็นระเบียบเรียบร้อยเรายังมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบที่โรงเรียนด้วย เช่น ตั้งใจเรียน ทำงานที่ ได้รับมอบหมายให้สำเร็จตามเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นการทำการบ้านการทำความสะอาดห้องเรียน และสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงการทำงานกลุ่มด้วยความรับผิดชอบ รักษาคำพูดและการกระทำของตนเองเสมอ
6. คริสตชนยังมีหน้าที่ต่อพระเจ้าด้วย คือ ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ด้วยความรัก นมัสการพระเจ้าแต่เพียงพระองค์เดียว มีความเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้าเสมอ เคารพรักต่อพระนามของพระองค์ หมั่นสร้างความสัมพันธ์กับพระองค์ด้วยการไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ อ่านพระวาจาพระเจ้า สวดภาวนาเป็นประจำในทุก ๆ วัน
ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ
1. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นเรื่องพื้นฐานและเป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญที่ทุกคนต้องทำ
2. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ หมายถึง ความสามารถในหน้าที่ของตน โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากหรือปัญหาอุปสรรค มีความกล้าหาญที่จะรับทั้งความผิดและความชอบจากการกระทำของตนเอง
3. พระเยซูเจ้าทรงทำหน้าที่ของพระองค์ในครอบครัว โดยทรงเชื่อฟังพระนางมารีย์และนักบุญโยเซฟ
4. พระเยซูเจ้าทรงทำงานตามพระประสงค์ของพระบิดา คือ ประกาศสอน ช่วยเหลือดูแลและรักษาประชากรของพระเจ้า
5. เราต้องฝึกฝนตนเองให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเสมอ ด้วยการปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ในครอบครัวและในโรงเรียน
6. คริสตชนยังมีหน้าที่ต่อพระเจ้าด้วย คือการปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์ด้วยความรัก
ข. กิจกรรมสรุปบทเรียน
แบ่งหน้าที่ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรับผิดชอบในการทำความสะอาดบริเวณต่าง ๆ ในห้องเรียนหรือในโรงเรียนให้สำเร็จ และสังเกตดูว่าพวกเขาทำสำเร็จหรือไม่ หากขาดตกบกพร่อง ควรชี้ให้เด็กเห็นว่า สิ่งที่เขาละเลย ส่งผลต่อคนอื่นอย่างไร
ค. การบ้าน
ให้ผู้เรียนบันทึกหน้าที่ความรับผิดขอบของตนทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน ลงในสมุดปฎิบัติการส่วนตัวว่ามีอะไรบ้าง และพยายามกระทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายที่บ้านและที่โรงเรียนให้สำเร็จ
::: Download บทเรียนที่ 14 ::