คุณค่าพระวรสารฯ บทเรียนที่ 12
มีใจเมตตากรุณาต่อผู้อื่น

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
        1. บอกความหมายของความเมตตากรุณาได้
        2. มีใจเมตตากรุณาตามคำสอนของพระเยซูเจ้า
        3. เป็นผู้มีใจเมตตากรุณาและแสดงความเมตตากรุณาต่อผู้อื่น

กิจกรรม 
ผู้สอนเตรียมภาพภาพเด็ก ๆ ที่ยากจนต้องการความช่วยเหลือ มาให้ผู้เรียนได้ดูและสนทนากับผู้เรียนด้วยคำถามเหล่านี้

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
                1. เห็นอะไร
                2. รู้สึกอย่างไร
                3. ชอบหรือไม่ชอบอะไร
                4. อยากเป็นอะไรหรือใครในภาพนี้
                5. บุคคลในภาพมีชีวิตเป็นอย่างไรและต้องการความช่วยเหลืออย่างไร

            สรุป  ในสังคมมีบรรดาคนยากจนและคนที่มีความยากลำบากในชีวิตอยู่มากมาย เช่น คนที่ขาดแคลนอาหารเสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย คนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา และคนเจ็บป่วย พวกเขาต่างต้องดิ้นรน และกำลังรอความช่วยเหลือเพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในแต่ละวัน

คำสอน            

             1. เมตตากรุณา หมายถึง การกระทำเพื่อต้องการช่วยให้ผู้อื่นมีความสุข ให้พ้นจากความทุกข์ โดยการแสดงความมีน้ำใจเอื้ออาทรต่อผู้อื่นด้วยความเต็มใจ ไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งเราเห็นได้ชัดจากกลุ่มองค์กรการกุศลหรือองค์กรทางศาสนา ที่ได้ออกไปช่วยเหลือผู้อื่นเวลามีภัยพิบัติ หรือผู้ที่ประสบกับความทุกข์ยากลำบากต่าง ๆ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

            2. พระเยซูเจ้าสอนเราให้รู้จักพระเจ้าผู้เป็นพระบิดาผู้เมตตา (เทียบ ลูกา 15:20) และสอนเราว่า “จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด” (ลูกา 6:36)

            3. พระเยซูเจ้าทรงสอนเราให้เห็นพระเมตตากรุณาของพระบิดาเจ้า ผ่านทางการรักษาคนโรคเรื้อนคนหนึ่ง เมื่อพระองค์ทรงเห็นเขา พระเยซูเจ้าทรงสงสารตื้นตันพระทัย จึงทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขา ตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” (มาระโก 1:41) การพบปะของพระองค์กับคนเจ็บป่วยและคนบาป เต็มเปี่ยมไปด้วยพระเมตตากรุณา พระองค์ทรงช่วยหญิงตกโลหิตให้เป็นอิสระจากการถูกหินทุ่ม ด้วยท่าทีแห่งความเมตตา(ยอห์น 8:3-11) พระองค์ยังทรงเมตตาต่อเด็ก ๆ ที่ปรารถนาจะเข้ามาหาพระองค์ (มัทธิว 19:14) พระองค์ร่วมทุกข์กับคนที่มีความทุกข์ เข้าถึงความรู้สึกและความต้องการของผู้อื่นเสมอ (ยอห์น 11:33) ทุกเหตุการณ์แสดงให้เราเห็นถึงพระเมตตากรุณาของพระเจ้าต่อเรามนุษย์อย่างชัดเจน

            4. เรายังเห็นเมล็ดพันธุ์แห่งความเมตตาของพระเยซูเจ้า ที่ได้งอกเงยขึ้นในดวงใจของนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตาในช่วงที่ท่านเป็นนักบวชและเป็นธรรมทูตในประเทศอินเดีย ท่านเริ่มงานแห่งความเมตตาโดยการสอนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในกัลกัตตา ต่อมาท่านได้ยินเสียงเรียกพิเศษของพระเจ้า ท่านไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ เมื่อท่านเห็นคนนอนตายอยู่ตามถนนอย่างน่าสงสาร ท่านขออนุญาตออกจากอาราม และออกไปช่วยเหลือคนเหล่านั้น ในปี ค.ศ. 1948 พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 อนุญาตให้ท่านติดตามกระแสเรียกพิเศษนี้ ท่านได้ถอดชุดซิสเตอร์และสวมส่าหรีสีขาวของสตรีที่ยากจน ท่านเริ่มรวบรวมคนยากจนตามท้องถนน และก่อตั้ง “บ้านสำหรับดูแลผู้ใกล้จะสิ้นใจ (Home for the Dying) ในกัลกัตตา แต่ต้องประสบปัญหาการต่อต้านจากชาวฮินดูมากมาย

              อย่างไรก็ตามท่านก็ฝ่าฝันมาได้ ต่อมามีผู้ใจบุญบริจาคบ้านเพื่อการกุศล คุณแม่เทเรซาจึงเปิดบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าชื่อว่า “บ้านเด็กหทัยนิรมล” (Children’s Home of the Immaculate Heart) ท่านได้ตั้งคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม (Missionaries of Charity) พระเจ้าได้ทรงช่วยและผู้ใจบุญก็ยื่นมือช่วยเหลือคณะของท่านด้วยท่านเป็นคนศักดิ์สิทธิ์ ท่านเป็นผู้ใจบุญ ท่านมีความรักมากมายและเป็นแบบฉบับของสตรีผู้อุทิศตนเพื่อผู้ยากไร้คือให้ความรัก ความสุขในชีวิตแก่ผู้ยากจนและยากไร้ เป็นนักบุญที่ยังมีชีวิตอยู่ จากตัวอย่างชีวิตของท่านนี้เองทำให้เกิดกิจการงานเมตตาธรรมแพร่ขยายไปทั่วโลก

            5. พระเยซูเจ้าทรงเรียกร้องเราแต่ละคน ให้ทำอย่างชาวสะมาเรียที่มีใจเมตตาต่อผู้อื่น แม้กระทั้งผู้ที่เป็นศัตรู “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด” (ลูกา 10:37) นี่เป็นคำสอนของพระองค์ที่ปรารถนาให้เรามีใจเมตตากรุณาต่อกัน ด้วยการเปิดดวงตาที่จะมองเห็นเพื่อนพี่น้องที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบาก ให้เราเปิดหู เปิดตา เปิดใจของเรา เพื่อที่จะได้ยินเสียงของผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ และยอมให้หัวใจของเราเต้นเพื่อผู้อื่นด้วยและแสดงความเมตตาต่อผู้อื่น

ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ
          1. เมตตากรุณา หมายถึง การกระทำเพื่อต้องการช่วยให้ผู้อื่นมีความสุข ให้พ้นจากความทุกข์ โดยการแสดงความมีน้ำใจเอื้ออาทรต่อผู้อื่นด้วยความเต็มใจ ไม่หวังผลตอบแทน
          2. พระเยซูเจ้าสอนเราให้รู้จักพระเจ้าผู้เป็นพระบิดาผู้เมตตา(เทียบ ลูกา 15:20) และสอนเราว่า“จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด” (ลูกา 6:36)
          3. พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เราสัมผัสและเห็นถึงพระเมตตากรุณาของพระบิดาเจ้า ผ่านทางการรักษาและการปฏิบัติต่อผู้อื่น ในชีวิตประจำวันของพระองค์
          4. เรายังเห็นถึงเมล็ดพันธุ์แห่งความเมตตาของพระเยซูเจ้า ที่ได้งอกเงยขึ้นใดดวงใจของนักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา ท่านได้ช่วยเหลือคนใกล้จะสิ้นใจและคนโรคเรื้อนมากมาย
          5. พระเยซูเจ้าปรารถนาให้เรามีใจเมตตากรุณาต่อกัน ด้วยการแสดงความเมตตาต่อผู้อื่น

ข. กิจกรรมสรุปบทเรียน

   ให้ผู้เรียนคิดว่าจะแสดงความเมตตาต่อผู้อื่นที่อยู่ในโรงเรียนได้อย่างไร (อย่างน้อย 3 ข้อ) 

ค. การบ้าน
       สวดภาวนา “บทภาวนาขอพระหรรษทานให้มีความเมตตาต่อผู้อื่น”

ข้าแต่พระตรีเอกภาพผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
ทุก ๆ ครั้งที่ลูกหายใจ ทุก ๆ ครั้งที่หัวใจของลูกเต้น
ขณะที่โลหิตไหลวนเวียนทั่วกายเป็นจำนวนมากมายกี่ครั้งก็ตาม
ลูกปรารถนาให้ทุกครั้งนั้น เป็นการถวายสดุดีพระเมตตาของพระองค์
พระเจ้าข้า ลูกปรารถนาให้จิตใจลูกเข้าสู่พระเมตตาของพระองค์
และเป็นแสงสะท้อนอันทรงชีวิตของพระองค์อย่างครบถ้วน
ขอให้พระคุณลักษณะอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้า คือพระเมตตาอันสุดหยั่งของพระองค์
ผ่านดวงใจและวิญญาณลูกไปสู่เพื่อนมนุษย์เทอญ
พระเจ้าข้า โปรดทรงช่วยให้ดวงตาของลูกเต็มไปด้วยความเมตตา
เพื่อลูกจะไม่มองข้อพิรุธหรือตัดสินสิ่งใดโดยดูภายนอก
แต่ให้มองหาสิ่งที่งดงามในวิญญาณของเพื่อนมนุษย์และช่วยเหลือเขา
โปรดช่วยให้หูของลูกเต็มไปด้วยความเมตตา เพื่อลูกจะได้สนใจฟังความต้องการของเพื่อนมนุษย์
และไม่ทำใจเย็นเฉยต่อความเจ็บปวดและเสียงคร่ำครวญของเขา
พระเจ้าเข้า โปรดทรงช่วยให้ลิ้นของลูกเต็มไปด้วยความเมตตา
เพื่อลูกจะได้ไม่พูดสิ่งร้าย ๆ แก่เพื่อนมนุษย์ แต่กล่าวคำปลอบโยนและคำอภัยแก่เขา
พระเจ้าข้า โปรดทรงช่วยให้มือของลูกเต็มไปด้วยความเมตตาและทำสิ่งดีงาม
เพื่อลูกจะทำแต่ความดีเท่านั้นต่อเพื่อนมนุษย์
ส่วนลูกเองยอมรับความยากลำบากและงานอันเหน็ดเหนื่อยยิ่งขึ้น
โปรดทรงช่วยให้เท้าของลูกเต็มไปด้วยความเมตตา เพื่อลูกจะได้เดินไปช่วยเพื่อนมนุษย์
เอาชนะความเหน็ดเหนื่อยและความอ่อนระโหยของตน
การพักผ่อนอันแท้จริงของลูกอยู่ที่การได้ช่วยเหลือผู้อื่น
พระเจ้าข้า โปรดทรงช่วยให้ดวงใจของลูกเต็มไปด้วยความเมตตา
เพื่อลูกจะได้สำนึกในความทุกข์ยากทั้งมวลของเพื่อนมนุษย์ ลูกจะได้ไม่มีใจปฏิเสธผู้ใดเลย
ลูกจะมีความจริงใจ แม้แต่กับผู้ซึ่งลูกรู้ว่าเขาจะเข้าใจผิดในความดีของลูก
ลูกจะขังตัวอยู่ในพระหฤทัยอันทรงเมตตายิ่งของพระเยซูเจ้า ลูกจะยอมทนทุกข์ของตนเองเงียบ ๆ
ขอพระเมตตาของพระองค์สถิตกับลูกเทอญ พระเจ้าข้า
ขอให้ลูกทำกิจการทุกอย่างด้วยความเมตตา
ถ้าลูกมิอาจช่วยได้ด้วยกิจการ ขอให้ลูกช่วยเขาด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความเมตตา
ถ้าลูกมิได้ช่วยด้วยกิจการและคำพูด ขอให้ลูกภาวนาแก่เขาทุกคน ทุกแห่งหนที่ลูกไม่อาจไปถึงได้
ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดแปรเปลี่ยนลูกให้เป็นหนึ่งเดียวในพระเมตตาของพระองค์ด้วย
เพราะพระองค์ทรงกระทำทุกสิ่งได้ ทั้งนี้ขอทุกสิ่งจงเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด
ลูกเป็นของพระองค์ โปรดกระทำต่อลูกตามที่พระองค์ทรงพอพระทัยเถิด อาแมน

::: Download  บทเรียนที่ 12 ::