จิตวิทยาการการสอนคำสอนตามวัยสำหรับเด็กอายุ 6-7 ปี

เด็กวัยอายุ 6 ปี
               เด็กในวัยนี้ส่วนใหญ่ผ่านโรงเรียนระดับอนุบาลมาแล้ว บางคนอาจจะมีปัญหา
เกี่ยวกับการปรับตัวในการเรียนระดับประถม เพราะในระดับอนุบาลไม่ต้องเรียนอะไรมาก
เพียงแต่การเตรียมความพร้อม ร้องรำทำเพลง แต่เมื่อต้องเข้าสู่ระบบที่ใหญ่กว่า
อาจจะทำให้เด็กในวัยนี้รู้สึกอึดอัดจนเกิดความเครียด ไม่อยากมาโรงเรียน
หรือทำเป็นไข้ไม่สบายหรือเป็นโรคปวดท้องขึ้นได้

ดังนั้นในการเรียนคำสอนนั้น เราจะต้องสร้างบรรยากาศของห้องคำสอนให้แตกต่างไปจากห้องเรียน
                 เด็กในวัยนี้ยังยึดคุณพ่อคุณแม่เป็นวีรบุรุษอยู่อย่างมาก จึงเหมาะสมที่จะ
แนะนำนักบุญทั้งชายและหญิงให้แก่เด็กๆ โดยแนะนำว่าพวกเขาให้เห็นว่าบุคคลที่เป็น
นักบุญเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่อ่อนแอเหมือนกับเราแต่พวกเขาได้พยายามที่จะเสริม
สร้างตนเองจนมีความเข้มแข็งขึ้นมาได้
บรรดานักบุญล้วนมาจากภูมิหลังของชีวิตที่แตกต่างกัน บางคนมาจากสามัญชน
บางคนก็เป็นถึงพระมหากษัตริย์หรือราชินี แต่ที่พวกเขาสามารถเป็นนักบุญได้นั้นก็
เพราะพวกเขาได้เลือกที่จะดำเนินชีวิตแห่งความรักตามแนวทางแห่งพระวรสาร
บรรดานักบุญทราบดีว่าพระเจ้าทรงรักพวกเขา และพวกเขาก็รักพระองค์
ตอบโดยการดำเนินด้วยความปิติยินดี การเข้าช่วยเหลือผู้อื่น การยืนอยู่ข้างความถูกต้อง
แลพยายามที่จะร่าเริงอยู่เสมอแม้ว่าจะประสบกับความยุ่งยากลำบากในชีวิต
นักบุญไม่ได้กล่าวแต่คำ “ตอบรับ” กับพระเจ้าเท่านั้น แต่ยังต้องการที่จะเป็นมิตร
กับพระเจ้ามากกว่าสิ่งใดๆ และต้องการที่จะดำเนินชีวิตเยี่ยงบุตรของพระองค์
 บุคคลในพระคัมภีร์ที่มีชื่อเสียงเช่น ดาเนียล โยนา ดาวิด โยนาธาน ฯลฯ
จากพันธสัญญาเดิม เปโตร เปาโล มัทธิว ฯลฯ จากพันธสัญญาใหม่

เด็กวัยอายุ 7 ปี
            เด็กวัยนี้ชอบฟังเรื่องเล่าต่างๆ เขาจะสนุกไปกับเรื่องเล่าต่างๆ ได้อย่างไม่รู้เบื่อ
ครูจึงต้องพยายามตอบสนองต่อความต้องการโดยพยายามที่จะเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีอย่าง
เช่นพระเยซูเจ้าเด็กในวัยนี้ยังอยู่ในวัยที่โน้มน้าวจิตใจได้ง่ายและเริ่มที่จะยอมรับความคิด
ของผู้ใหญ่อื่นที่ไม่ใช่พ่อหรือแม่หรือคนในครอบครัวของตน มีความต้องการที่จะรับคำ
ชมเชยจากครูสูง ครูจะต้องสนองต่อความต้องการของเด็กในเรื่องนี้ และฝึกฝนเด็ก
ให้เป็นเช่นพระคริสต์และให้แสดงความรักต่อเด็กแต่ละคน
 หลักสูตรคำสอนที่จะให้แก่เด็กในวัยนี้คือการแนะนำชีวิตของพระคริสตเจ้า
ตั้งแต่การบังเกิด การทนทุกข์ทรมาน การสิ้นพระชนม์ การกลับคืนชีพ และอัศจรรย์ต่างๆ
นั้นเป็นสิ่งที่แสดงว่าพระเยซูทรงรักและห่วงใยประชาชน พระอานุภาพของพระองค์
ทรงยิ่งใหญ่เหนือสิ่งต่างๆ แม้นกระทั่งความตาย ทั้งหมดนี้ครูจะต้องเล่าให้อยู่ในรูแบบที่ซื่อๆ ง่ายๆ
ครูอาจจะใช้ปฏิทินพิธีกรรมโดยเริ่มตั้งแต่เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
ครูสามารถอธิบายถึงชีวิตของแม่พระและภารกิจของพระนาง เรื่องแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด
และฟาติมา รวมทั้งการฉลองต่างๆ ที่เกี่ยวกับแม่พระ บทบาทของนักบุญ เทวดา และอำนาจ
ของพระสันตะปาปา พระสังฆราช

วัตถุประสงค์ในการสอนคำสอนเด็กในวัยนี้คือ
-ให้เด็กๆ สามารถเล่าเรื่องของพระเยซูและอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงกระทำ
-ให้เด็กๆ ได้คุ้นเคยกับปีพิธีกรรมของพระศาสนจักร
-รักและเลียนแบบแม่พระ
-เข้าใจถึงธรรมประเพณีปฏิบัติของพระศาสนจักร

(สารคำสอนฉับที่ 61 เดือนกรกฎาคม 1999)