สาส์นวันอาทิตย์พระวาจาของพระเจ้า
(วันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2020)
พี่น้องที่รักในพระคริสตเจ้าทุกท่าน
พระวาจาของพระเจ้าเป็น “อานุภาพของพระเจ้าซึ่งนำความรอดพ้นให้แก่ทุกคนที่มีความเชื่อ” (รม 1:16) สังฆธรรมนูญเรื่อง “การเผยความจริงของพระเจ้า” ระบุถึงเรื่องนี้ไว้ตอนหนึ่งว่า “ในพระวาจาของพระเจ้ามีพละกำลังและประสิทธิภาพมากมาย จนว่าพระวาจานั้นค้ำจุนและเป็นพลังของพระศาสนจักรและเป็นพละกำลังแห่งความเชื่อ เป็นอาหารเลี้ยงวิญญาณและเป็นธารบริสุทธิ์ไม่มีวันเหือดแห้งของชีวิตฝ่ายวิญญาณสำหรับบรรดาบุตรแห่งพระศาสนจักร” (DV 21) ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พระศาสนจักรถือเสมอมาและยังถือต่อไปว่าพระวาจาของพระเจ้า ซึ่งได้รับการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในพระคัมภีร์ พร้อมกับธรรมประเพณีศักดิ์สิทธิ์ “เป็นบรรทัดฐานสูงสุดของความเชื่อของตน” (DV 21)
เมื่อพระวาจาของพระเจ้ามีความสำคัญต่อชีวิตคริสตชนถึงเพียงนี้ พระศาสนจักรจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อให้สมาชิกทุกคนมีโอกาสเข้าถึงพลังชีวิตนี้ได้โดยสะดวก นับตั้งแต่สังคายนาวาติกันที่ 2 เป็นต้นมามีการแปลพระคัมภีร์จากต้นฉบับเป็นภาษาท้องถิ่นต่างๆ และจัดตั้งหน่วยงานมากมายที่อุทิศตนให้กับงานประกาศพระวาจาของพระเจ้า สหพันธ์พระคัมภีร์คาทอลิก (CBF) เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อเรื่องนี้ เมื่อปีที่แล้วหน่วยงานนี้ได้ฉลองครบรอบ 50 ปีของการรับใช้พระศาสนจักรในฐานะผู้ช่วยนายชุมพาบาลทั้งหลายในการประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่มวลสัตบุรุษ ซึ่งเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ยิ่งกว่านั้น ในปีนี้ซึ่งเป็นปีครบรอบ 1600 ปีการจากไปของนักบุญเยโรม นักพระคัมภีร์ผู้ยิ่งใหญ่ของพระศาสนจักร ผู้แปลพระคัมภีร์จากต้นฉบับเป็นภาษาละติน ซึ่งเป็นภาษาที่คนธรรมดาในสมัยนั้นเข้าใจได้ แรงบันดาลใจที่อยากให้พระวาจาของพระเจ้าเข้าถึงทุกคนเกิดจากความเชื่อมั่นของท่านที่ว่า “การไม่รู้พระคัมภีร์ คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า”
เหตุการณ์สำคัญทั้งสองซึ่งเวียนมาบรรจบในเวลาไล่เลี่ยกันเป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งกาลเวลาที่พระศาสนจักรต้องรื้อฟื้นความสำคัญของพระวาจาของพระเจ้าที่มีต่อชีวิตและพันธกิจของตนอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ สหพันธ์พระคัมภีร์คาทอลิก (CBF) จึงประกาศให้ช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า จนถึงวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2020 ซึ่งตรงกับวันฉลองนักบุญเยโรม เป็น “ปีพระวาจาของพระเจ้า” โดยหวังว่าหนึ่งปีที่มอบถวายแด่พระวาจาของพระเจ้าจะช่วยบรรดานายชุมพาบาล สถาบันและหน่วยงานต่างๆ ที่อุทิศตนให้กับงานอภิบาลด้านพระคัมภีร์ ได้รื้อฟื้นความมานะอุตสาหะของตนในการทำให้พระวาจาของพระเจ้าเป็นศูนย์กลางชีวิตและพันธกิจของพระศาสนจักร เช่นเดียวกันเมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2019 ในพระสมณลิขิต “พระองค์ทรงเปิดใจของพวกเขา” (Aperuit Illis) พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกาศให้ “วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่สาม เทศกาลธรรมดา” ของทุกปี เป็น “วันอาทิตย์พระวาจาของพระเจ้า” ซึ่งเป็นวันอุทิศให้กับการฉลอง การศึกษา และการเผยแผ่พระวาจาของพระเจ้า อีกทั้งเป็นช่วงเวลาพิเศษที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่น้องชาวยิวและอธิษฐานภาวนาเพื่อเอกภาพของคริสตชน พร้อมกันนี้พระองค์ทรงนำเสนอกิจกรรมบางอย่างเพื่อช่วยให้คริสตชนเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของการประกาศพระวาจาของพระเจ้าในพิธีกรรมต่างๆ เช่น การแห่พระคัมภีร์ พิธีแต่งตั้งผู้อ่านพระคัมภีร์ การมอบพระคัมภีร์ให้สัตบุรุษ เป็นต้น ยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังทรงเน้นย้ำให้ผู้อภิบาลทั้งหลายเตรียมบทเทศน์ด้วยความเอาใจใส่เป็นพิเศษด้วย
เพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าว คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ จึงขอเชิญชวนบรรดาผู้อภิบาลและพี่น้องคริสตชนชาวไทยทุกท่านให้ใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อพระวาจาของพระเจ้า ให้พระคัมภีร์ ซึ่งเป็นพระวาจาของพระเจ้า ที่ตรัสด้วยภาษามนุษย์ เพื่อเราและความรอดพ้นของเรา เป็นหนังสือที่เราทุกคนต้องอ่าน ต้องใช้ในการภาวนา ต้องศึกษา และต้องเป็นแสงสว่างในการดำเนินชีวิต เหมือนที่ผู้เขียนหนังสือเฉลยธรรมบัญญัติเตือนใจเราว่า “พระวาจานี้อยู่ใกล้กับท่านมาก คืออยู่ในปากและในใจของท่าน เพื่อท่านจะนำไปปฏิบัติได้” (ฉธบ 30:14) ผ่านทางคำเสนอวิงวอนของนักบุญเยโรม ขอพระจิตเจ้านำทางและส่องสว่างสติปัญญาของทุกท่านเพื่อจะได้รู้จักและเข้าใจพระคริสตเจ้าจากพระคัมภีร์มากขึ้น และขอพระวาจาของพระเจ้านำความยินดีมาสู่ทุกท่านเพื่อทุกท่านจะเป็นพยานที่ซื่อสัตย์ของพระคริสตเจ้าตลอดไป
“พระวาจาของพระเจ้าเป็นพระวาจาที่มีชีวิตและบังเกิดผล คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุเข้าไปถึงจุดที่วิญญาณและจิตใจแยกจากกัน ถึงเส้นเอ็นและไขกระดูก วินิจฉัยความรู้สึกนึกคิดภายในใจได้” (ฮบ 4:12)
อวยพรมาในนามองค์พระผู้เป็นเจ้า
บิชอปยอแซฟ ลือชัย ธาตุวิสัย
ประธานคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์
:::: Download ::::