ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

พระธาตุของคุณพ่อบอสโกเดินทางรอบโลก!..“พระธาตุของคุณพ่อบอสโกเดินทางรอบโลก!.. มันคืออะไรกันแน่?
          ก่อนอื่นหมด เหตุการณ์นี้ไม่เหมือนกับการจาริกแสวงบุญที่เราเคยได้ยินมาว่า ผู้คนจำนวนล้นหลามแห่แหนกันไปยังสักการสถาน หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อถวายความเคารพสักการะต่อแม่พระ ต่อนักบุญองค์นั้น องค์นี้ เพราะว่านี่เป็นการนำพระธาตุของคุณพ่อบอสโกไปพบปะกับผู้คนในทวีปต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก พระธาตุของคุณพ่อบอสโกที่ว่านี้จะเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง จากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง เพื่อให้สมาชิกซาเลเซียน สมาชิกในครอบครัวซาเลเซียน และบรรดาผู้เลื่อมใสศรัทธาในบุรุษที่ชื่อ “ยอห์น บอสโก” ได้ถวายความเคารพแด่ท่าน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้ชายหรือผู้หญิง ทุกคนจะมีโอกาสดีที่จะได้สวดภาวนาต่อหน้าพระธาตุของคุณพ่อบอสโก และวอนขอพระคุณจากพระเจ้าโดยผ่านทางคำเสนอวิงวอนของคุณพ่อ

 
           พระธาตุของคุณพ่อบอสโกจะได้รับการแห่แหนไปยังเมือง และหมู่บ้านต่างๆ ณ ที่ซึ่งพระวรสารได้รับการประกาศไปทั่วในระหว่างบรรดาเยาวชนและคนยากจนในสังคมทุกวันนี้ การแห่พระธาตุของคุณพ่อบอสโกในครั้งนี้จะเป็นโอกาสพิเศษสำหรับเราแต่ละคน ที่จะได้ศึกษาชีวิตและพันธกิจของคุณพ่อบอสโก และการได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของคุณพ่อบอสโกนี้ จะนำเราแต่ละคนให้รู้จักเลียนแบบความรัก และเพิ่มพูนความเชื่อในองค์พระเจ้า รวมทั้งดึงดูดเราให้รู้จักรักเพื่อนพี่น้องที่อยู่รอบข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเยาวชนและคนยากจน 

 
           พระธาตุของคุณพ่อบอสโกนี้เปรียบได้ดั่งเช่นเสียงเรียกบรรดาลูกๆ ในครอบครัวซาเลเซียน ให้หันมาร่วมกันเสริมสร้างหมู่คณะแห่งความเชื่อ ที่ได้รับการเรียกจากองค์พระคริสตเจ้า ให้ก้าวหน้าไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นดังครอบครัวที่ปรารถนาที่จะติดตามพระคริสตเจ้าในหนทางแห่งพระวรสาร โดยมีคุณพ่อบอสโกเป็นตัวอย่างทรงชีวิต

            การนำพระธาตุของคุณพ่อบอสโกเดินทางจาริกไปในที่ต่างๆ ครั้งนี้  คุณพ่อปัสกวัล ชาเวซ วิลลานูเอวา อัคราธิการของคณะซาเลเซียน ได้ดำเนินการขออนุญาตจากสันตะสำนัก และได้รับความเห็นชอบจากพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ที่จะมีการโปรดพระคุณการุญครบบริบูรณ์ สำหรับทุกคนที่เดินทางมาถวายความเคารพ และสวดภาวนาต่อหน้าพระธาตุของคุณพ่อบอสโก ที่เดินทางจาริกไปในสถานที่ต่างๆ รอบโลก

ทำไมถึงต้องเป็น “พระธาตุ”
?
            พระธาตุเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการถวายความเคารพสักการะจากบรรดาคริสตชน พระธาตุอาจจะเป็นส่วนหนึ่งจากกระดูกของนักบุญ หรือจะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับการสัมผัสจากผู้ศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่เขาหรือเธอยังมีชีวิตอยู่
            หนังสือกิจการอัครสาวกได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของพระธาตุ โดยเขียนไว้ว่า “พระเจ้าทรงกระทำอัศจรรย์พิเศษโดยอาศัยมือของเปาโล จนกระทั่งคนจำนวนมากนำผ้าเช็ดหน้า และผ้ากันเปื้อนที่ได้สัมผัสเปาโล มาวางบนร่างผู้ป่วย เขาก็หายจากโรคภัย และแม้แต่ปีศาจร้ายก็หนีไปด้วย” (กจ.19.11-12)

            พระธาตุไม่ได้บรรจุไว้ด้วยพลังแบบมายากล แต่พระธาตุแสดงให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงทำงานผ่านทางบรรดานักบุญแม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้วก็ตาม นักบุญจึงนำพวกเราเข้าใกล้ชิดกับองค์พระเจ้ามากยิ่งขึ้น และแม้พวกเขาจะจบชีวิตบนโลกนี้แล้ว แต่พระธาตุของพวกเขาทำให้เราแต่ละคนได้สักการะพระเจ้ามากขึ้น
            พระศาสนจักรสามารถแสดงความเคารพสักการะต่อองค์พระเจ้า ผ่านทางพระธาตุของบรรดานักบุญ ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือเป็นสิ่งของที่ท่านเคยใช้ หรือเป็นสิ่งของที่บรรดานักบุญได้สัมผัสขณะยังมีชีวิตอยู่ และพระธาตุของคุณพ่อบอสโกนี้จะได้รับการนำไปยังสถานที่ต่างๆ รอบโลก เพื่อให้ประชาสัตบุรุษได้ถวายความเคารพคุณพ่อบอสโก ในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า และได้สัมผัสกับคุณพ่อบอสโก ราวกับว่าท่านเป็นสายธารแห่งความศักดิ์สิทธิ์สำหรับเราแต่ละคนที่ยังดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ 

ทำไมเราจึงมีความศรัทธาต่อบรรดานักบุญ
?
            มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะถวายความเคารพ และสวดภาวนาต่อบรรดานักบุญ เพราะพวกท่านเป็นดังต้นแบบแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ที่เราทุกคนควรพยายามเลียนแบบ บรรดานักบุญถือกำเนิดมาในบาปกำเนิดเช่นเดียวกับเราแต่ละคนที่เกิดมาพร้อมกับมีบาปกำเนิดติดตัวมา บรรดานักบุญได้รับประสบการณ์ต่างๆ เหมือนกับพวกเรา อาทิ ความอ่อนแอ การถูกประจญล่อลวง แต่ทว่าพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นนักบุญ ก็เพราะพวกเขาสามารถเอาชนะความอ่อนแอเหล่านั้นได้ โดยอาศัยพระหรรษทานของพระเจ้า ที่ทรงมอบให้กับเราทุกๆ คนเหมือนกัน ชีวิตของบรรดานักบุญแต่ละคนยังเป็นแบบอย่างให้เราทุกคนได้เดินตาม ได้เลียนแบบ เพื่อว่าสักวันหนึ่ง เราจะได้เข้าอยู่ในหมู่นักบุญ อยู่ในพระอาณาจักรสวรรค์ของพระองค์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การถวายความเคารพต่อนักบุญนั้น นำมาซึ่งความหวังและพลังที่ผลักดันเราแต่ละคน ให้สวดภาวนาวอนขอพระพรจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

การแสดงความเคารพต่อพระธาตุในประวัติศาสตร์
            การถวายความเคารพต่อพระธาตุนั้น มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานพอๆ กับอายุของพระศาสนจักร หลักฐานอ้างอิงแรกสุดเกี่ยวกับพระธาตุนั้น ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล (พระธรรมเก่า) โดยมีเขียนไว้ว่า “เมื่อเอลีชาสิ้นชีวิต เขาก็ถูกฝังไว้ ฝ่ายหมู่คนโมอับเคยปล้นแผ่นดินนั้นในฤดูแล้ง ครั้งหนึ่งเมื่อเขากำลังส่งศพคนหนึ่งไป นี่แน่ะ เขาเห็นโจรหมู่หนึ่ง เขาจึงโยนศพของชายคนนั้นลงไปในอุโมงค์ของเอลีชา พอศพชายคนนั้นแตะต้องกระดูกของเอลีชา เขาก็คืนชีวิต ลุกขึ้นยืน” (2พกศ.13.20-21)

            ยังมีการอ้างอิงอีกหลายตอนในพระธรรมใหม่ ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้ความเคารพและให้เกียรติแก่ร่างของบรรดานักบุญ อาทิ เมื่อนักบุญยอห์น บัปติสต์ ถูกตัดศีรษะกลายเป็นมรณสักขี บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านได้นำศพของท่านไปเก็บรักษาไว้ในที่ที่ปลอดภัยเพื่อการเคารพสักการะ ทำนองเดียวกันในศตวรรษที่ 2 พระสังฆราชโปลีคาร์ปได้ถูกจับมัดติดกับหัวเสและเผาทั้งเป็น บรรดาลูกศิษย์ของท่านได้รวบรวมกระดูกของท่าน และนำไปเก็บรักษาไว้ในหลุมฝังศพใต้ดิน ที่ซึ่งพวกเขามารวมกันเพื่อร่วมในพิธีมิสซา ในช่วงปีแห่งการเบียดเบียนศาสนา บรรดาคริสตชนจะเผาซากศพของบรรดามรณสักขีที่ในหลุมฝังศพใต้ดินแห่งโรมโบราณ ที่ซึ่งพวกเขามารวมตัวกันอย่างลับๆ เพื่อร่วมในพิธีมิสซา จากนั้นมาจึงกลายเป็นประเพณีสืบต่อมาอย่างยาวนาน ที่จะมีการเก็บพระธาตุชิ้นเล็กๆ ที่พระแท่นของแต่ละวัด

            พระธาตุยังเป็นการเตือนใจเราแต่ละคนถึงความศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญ และความสำเร็จของงานการไถ่กู้ของพระเจ้าโดยผ่านทางบรรดานักบุญ พระธาตุดึงดูดเราแต่ละคนให้สวดภาวนาวอนขอนักบุญ และต่อองค์พระเจ้าให้โปรดประทานพระคุณให้เราสามารถดำเนินชีวิตในความศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับบรรดานักบุญเหล่านั้น        

คุณพ่อบอสโก
: องค์อุปถัมภ์ของบรรดาเยาวชน
            นักบุญยอห์น บอสโก เกิดที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศอิตาลี ในวันที่ 16 สิงหาคม 1815 นับตั้งแต่ยังเล็กแล้ว ที่หนูยอห์น บอสโก ฉายแววแห่งจิตใจที่เปี่ยมด้วยความรักใจดีมีเมตตา ปรารถนาที่จะช่วยเหลือบรรดาเยาวชนและคนยากจน ในปี 1835 หนุ่มน้อยยอห์น บอสโก ได้สมัครเข้าบ้านเณร ที่ซึ่งเขาได้ร่ำเรียนวิชา และฝึกฝนความสามารถในด้านต่างๆ มากมาย อาทิ ช่างตัดผ้า ช่างตีเหล็ก ช่างซ่อมรองเท้า ช่างไม้ นักสีไวโอลิน นักกายกรรม และนักมายากล สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับงานของยอห์นในอนาคต

            ในปี 1841 ยอห์น บอสโกได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ จากนั้นได้ออกทำงานอภิบาลในกรุงตุริน ยอห์น บอสโกได้ติดตามคุณพ่อกาฟัสโซไปเยี่ยมผู้ต้องขังในคุก ณ ที่นี้ คุณพ่อยอห์น บอสโกได้สัมผัสกับเยาวชนที่ถูกทอดทิ้ง ตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี และไม่มีอนาคตที่แน่นอน ความโชคร้ายและความทุกข์ของบรรดาเยาวชนเป็นพลังผลักดันคุณพ่อบอสโกให้ตัดสินใจอุทิศชีวิตทั้งสิ้นของท่านเพื่อเยาวชน คุณพ่อบอสโกได้เริ่มงานของท่านด้วยกลุ่มเยาวชน หอพัก โรงเรียนประจำ และศูนย์เยาวชน ที่ซึ่งท่านสามารถสอนพวกเขาให้มีความรู้ มีงานทำ มีอนาคตที่ดีได้
            ในปี 1859 คุณพ่อบอสโกได้รวบรวมบรรดาเยาวชนจำนวนหนึ่ง และเสนอความคิดของการตั้งคณะนักบวชให้พวกเขา คุณพ่อได้ก่อตั้งคณะนักบวชซาเลเซียน โดยมีพันธกิจสำคัญคือ เป็นเพื่อนกับเยาวชนที่ยากจน เยาวชนที่ถูกทอดทิ้ง เยาวชนที่ตกอยู่ในความเสี่ยง และดังนี้ คุณพ่อจึงเป็นเพื่อนของพระเยซูเจ้าด้วย สมาชิกซาเลเซียนได้ยึดจิตตารมณ์ของนักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์ ที่เปี่ยมด้วยความรักอ่อนหวาน และระบบการอบรมของซาเลเซียนนั้นยึดหลักของเหตุผล ศาสนา และความรักใจดี โดยหลักพื้นฐานของการอบรมนั้นคือ ความรักจริงใจต่อบรรดาเยาวชน และความเข้าใจต่อปัญหาของพวกเขา


            ในปี 1875 คุณพ่อบอสโกได้ส่งคณะธรรมทูตชุดแรกไปทำงานในประเทศอาร์เจนตินา นับแต่นั้นมา งานของคุณพ่อบอสโกก็ได้แผ่ขยายออกไปในดินแดนธรรมทูต และในปัจจุบันนี้คณะซาเลเซียนมีสมาชิกจำนวน 15,952 คน ทำงานอยู่ใน 130 ประเทศ และกว่าครึ่งหนึ่งของสมาชิกซาเลเซียนทำงานอยู่ในดินแดนธรรมทูต 
            คุณพ่อบอสโกสิ้นใจในวันที่ 31 มกราคม 1888

            “ให้เราถวายความเคารพต่อนักบุญที่เรามีศรัทธา ด้วยการสวดภาวนาวอนขอพระพรต่างๆ จากพระเจ้า ผ่านทางคำเสนอวิงวอนของท่านเหล่านั้น โดยมั่นใจว่าบรรดานักบุญพร้อมเสมอที่ช่วยเรา” (ดอน บอสโก)


ขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก Blog นิตรสารดอนบอสโก
http://www.oknation.net/blog/thaidbmag

คาทอลิกไทย "รวมพลังรักษ์โลก" ค.ศ.2024-2025

คาทอลิกไทย "รวมพลังรักษ์โลก" ค.ศ.2024-2025

เนื้อหาและบทเรียน

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์