ผิด-ถูก รู้ได้อย่างไร
ผิด-ถูก
รู้ได้อย่างไร

          การที่เราจะตัดสินการกระทำของใครคนใดคนหนึ่งว่าผิดหรือถูกนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งตามคำสอนของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงสอนเราไว้ว่า “อย่าตัดสินเขา และท่านจะไม่ถูกพระเจ้าตัดสิน ท่านตัดสินเขาอย่างไร พระเจ้าจะทรงตัดสินท่านอย่างนั้น”(มัทธิว 7:1-2)

           ดังนั้นเมื่อจำเป็นต้องทำการตัดสินใครว่าผิดหรือถูก ดีหรือชั่วจึงเป็นเรื่องที่เราต้องระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง การตัดสินจะไม่เป็นการเสี่ยง ถ้าเราตัดสินผู้อื่นด้วยด้วย “ความรัก”

มาตรการในการตัดสินผิด-ถูกคืออะไร
            คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกให้หลักเพื่อการพิจารณาการกระทำของเรามนุษย์ว่าอะไรถูกต้องตามหลักศีลธรรมและอะไรไม่ถูกต้องดังนี้
1. การกระทำ
2. เจตนา
3. สภาพแวดล้อม

สามองค์ประกอบนี้แหละที่เป็นตัวตัดสิน  เราจะพิจารณาดูทีละองค์ประกอบ
เริ่มจาก “การกระทำ” หมายถึงเนื้อหาของการกระทำเอง เป็นตัวกิจการที่เราเลือกปฏิบัติด้วยใจเสรี ตามเสียงแห่งมโนธรรมของเรา ตอบคำถามที่ว่า “ทำอะไร”

            “เจตนา” หมายถึง ความตั้งใจในการกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ตอบคำถามว่า “ทำไปทำไม..ทำไปเพื่ออะไร” เจตนาเป็นตัวกำหนดถึงเป้าหมายของการกระทำของเรา

           “สภาพแวดล้อม” หมายถึง สถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องตัดสินลงมือกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดลงไป ตอบคำถามว่า “อะไรเรียกร้องให้ต้องทำเช่นนี้”

             การที่เราตัดสินว่าอะไรดีนั้น ทั้งสามองค์ประกอบจะต้องเป็น ดี เหมาะสม ถูกต้อง อย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่น การช่วยเหลือคนที่โดนน้ำท่วมบ้านเพราะความรักต่อเพื่อนมนุษย์ การช่วยเหลือเป็นกิจการที่ดี สภาพแวดล้อมคือน้ำท่วมก็เป็นเหตุผลที่เหมาะสม เจตนาคือทำเพราะความรัก เมื่อสามองค์ประกอบลงตัวเช่นนี้ เราตัดสินได้ว่าการกระทำนี้ถูกต้องตามหลักศีลธรรม

            แต่ถ้าคนหนึ่งช่วยเหลือเพื่อนที่โดนน้ำท่วมบ้านเพราะต้องการเกียรติยศชื่อเสียง กรณีนี้ไม่ถูกต้องตามหลักศีลธรรมเพราะเจตนาไม่ดี

            หรือขโมยของตามห้างไปแจกคนจนเพราะน้ำท่วมไม่มีอะไรจะกิน กรณีนี้ผิดตั้งแต่แรกเพราะกิจการขโมยทำที่ไหนทำอย่างไรก็ผิดอยู่แล้ว แม้ว่าเจตนาและสภาพแวดล้อมจะดีก็ตาม

            ดังนั้น ถ้าเราต้องตัดสินใครเราต้องตรวจสอบองค์ประกอบทั้งสามให้ดี ทำดีต้องมี “สามดี” คือ ทำดี เจตนาดี สภาพแวดล้อมดี