📍พระคัมภีร์เป็นเรื่องจริงหรือ ?
#YOUCAT 14 บอกเราว่า
หนังสือต่างๆ ในพระคัมภีร์สอนความจริงอย่างหนักแน่น ซื่อสัตย์ และถูกต้องไม่ผิดหลงเพราะเขียนขึ้นภายใต้การดลใจของพระจิตเจ้า และมีพระเจ้าทรงเป็นผู้นิพนธ์(การเผยความจริงของพระเจ้า ข้อ 11)(CCC 103-107)
📒พระคัมภีร์มิได้ตกลงมาจากสวรรค์แบบสำเร็จรูป และพระเจ้าก็มิได้ตรัสให้มนุษย์เขียนตามคำบอกของพระองค์เหมือนหุ่นยนต์ อย่างไรก็ตาม“พระเจ้าทรงเลือกมนุษย์บางคนและทรงใช้เขาให้เขียนโดยใช้กำลังความสามารถของตนอย่างเต็มที่ แม้พระองค์ทรงทำงานในตัวเขาและทรงใช้เขาให้เขียนทุกอย่าง ตามพระประสงค์ของพระองค์เท่านั้น เขาก็ยังเขียนอย่างผู้นิพนธ์ที่แท้จริงด้วย (การเผยความจริงของพระเจ้า ข้อ 11)
💜เกณฑ์การยอมรับว่าหนังสือเล่มใดเป็นพระคัมภีร์หรือไม่ขึ้นอยู่กับการยอมรับของพระศาสนจักรทั้งมวลเท่านั้นและจะต้องมีการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์ในชุมนุมคริสตชน “พระเจ้าทรงตรัสกับเราโดยทางข้อความนี้ ซึ่งได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า” ในบรรดางานเขียนจำนวนมากของคริสตชนยุคแรกของพระศาสนจักร เล่มที่ได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้าอย่างแท้จริงนั้นมีการกำหนดตั้งแต่ศตวรรษที่สี่ว่า อยู่ในสารบบของพระคัมภีร์
💜การดลใจ (Inspiration) (ภาษาลาติน inspiration ดลใจ) อิทธิพลของพระเจ้าเหนือมนุษย์ผู้เขียนพระคัมภีร์ ดังนั้น จึงถือว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้นิพนธ์พระคัมภีร์
💜สารบบพระคัมภีร์ (Canon)(ภาษากรีก kanon ไม้วัด กติกา แบบแผน) การรวบรวมพระคัมภีร์ที่เชื่อถือได้ทั้งพันธสัญญาเดิมและพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่
💜พระคัมภีร์ (Bible) (ภาษาลาติน bibllia ม้วนกระดาษ หนังสือ) ชาวยิวและคริสตชนเรียกการรวบรวมพระคัมภีร์ ซึ่งใช้ระยะเวลามากกว่าหนึ่งพันปี พระคัมภีร์เป็นแบบแผนความเชื่อของพวกเขา พระคัมภีร์ของคริสตชนมีจำนวนมากกว่าพระคัมภีร์ของชาวยิว เพราะประกอบด้วยพระวรสาร 4 ฉบับ จดหมายจากนักบุญเปาโลและงานเขียนของผู้นิพนธ์อื่น ๆ ในพระศาสนจักรแรกเริ่ม