คำสอนเรื่องการรับศีลมหาสนิทบ่อย ๆคำสอนเรื่องการรับศีลมหาสนิทบ่อย ๆ
              ลูกรัก สิ่งสร้างที่มีชีวิตทั้งหลายต้องการอาหารเลี้ยงชีพ  ด้วยเหตุนี้เองพระเจ้าจึงได้สร้างต้นไม้และพืชเพื่อเป็นอาหารสำหรับมนุษย์และสัตว์ต่างๆ   วิญญาณของเราก็ต้องได้รับอาหารเช่นกัน แต่ะอาหารสำหรับวิญญาณอยู่ที่ไหนล่ะ? 
              ลูกรัก  อาหารสำหรับวิญญาณคือพระ  นี่คืออาหารชนิดเดียวสำหรับวิญญาณ และก็มีแต่พระเท่านั้นที่จะประทานเพื่อดับความหิวของวิญญาณได้
              ทุกบ้านมีที่เก็บอาหาร วัดคือบ้านสำหรับวิญญาณ เป็นบ้านสำหรับคริสตัง และในบ้านนี้ก็มีที่เก็บอาหารเช่นกัน  ลูกรู้จัก “ตู้ศีล” ไหม?  ตู้ศีลนี่แหละคือที่เก็บอาหารสำหรับวิญญาณของเรา


ลูกรัก ไม่มีสิ่งใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าศีลมหาสนิท  ผลของการทำงานทั้งหมดของมนุษย์รวมกันก็ยังเทียบไม่ได้เลยกับการรับศีลมหาสนิทที่ดีเพียงครั้งเดียว  เพราะเมื่อเปรียบไปแล้ว ผลงานทั้งหมดเหล่านั้นเทียบได้กับเม็ดฝุ่นที่ตกอยู่ข้างภูเขาใหญ่   จงสวดภาวนาเมื่อลูกมีพระเจ้าผู้พระทัยดีอยู่ในใจ  พระบิดาผู้พระทัยดีจะไม่ปฏิเสธสิ่งใดๆ ที่ลูกขอเลยหากลูกได้ถวายพระบุตรแด่พระองค์  เป็นการถวายผลบุญจากการสิ้นพระชนม์ที่ศักดิ์สิทธิ์และพระมหาทรมานของพระบุตร

             ลูกรัก เมื่อลูกเข้าใจถึงคุณค่าของศีลมหาสนิทแล้ว ลูกก็ควรจะหลีกหนีบาปแม้จะเป็นข้อบกพร่องที่เล็กน้อยที่สุดก็ตาม ก่อนที่ลูกจะติดเป็นนิสัยทำผิดบ่อยขึ้นและผิดหนักขึ้นในภายหลัง  ลูกจึงควรรักษาวิญญาณให้บริสุทธิ์อยู่เสมอในสายพระเนตรของพระเจ้า   ลูกรัก สมมติว่าวันนี้ลูกไปรับศีลแก้บาปมาแล้ว ก็ขอให้ลูกรักษาวิญญาณให้บริสุทธิ์ต่อไป เพื่อลูกจะมีความสุขกับความคิดที่ว่าวันรุ่งขึ้นลูกก็จะได้รับความสุขอีกจากการรับพระเจ้าผู้พระทัยดีไว้ในจิตใจของลูก  เมื่อเป็นเช่นนี้ลูกก็จะไม่ทำผิดต่อพระองค์ในวันรุ่งขึ้น  วิญญาณของลูกก็จะอิ่มเอิบอยู่ในพระโลหิตแสนประเสริฐของพระคริสตเจ้าและมีชีวิตที่สวยสดงดงาม

             ลูกรัก วิญญาณจะสวยสดเพียงใดในนิรันดรภาพเมื่อเป็นวิญญาณที่ได้รับพระเจ้าผู้พระทัยดีอยู่บ่อยๆ!  พระกายของพระเยซูคริสตเจ้าจะทรงเปล่งแสงสว่างไสวทั่วร่างกายของลูก  พระโลหิตของพระองค์จะซึมแทรกอยู่ในกระแสโลหิตของลูก และวิญญาณของลูกก็จะสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระวิญญาณของพระคริสตเจ้าชั่วนิรันดร์ในความสุขที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์ที่สุด   ลูกรัก เมื่อวิญญาณของคริสตังเป็นวิญญาณที่ได้รับพระกายของพระคริสตเยซูได้เข้าสู่สวรรค์   บรรดานิกรเทวดาและพระราชินีของพวกเขาจะมาให้การต้อนรับ เพราะชาวสวรรค์รู้จักพระบุตรของพระเจ้าที่ประทับอยู่ในวิญญาณของผู้นั้น  วิญญาณนั้นก็จะได้รับรางวัลตอบแทนความเจ็บปวดและการพลีกรรมต่างๆ ที่ได้เคยสะสมไว้ขณะที่มีชีวิตอยู่ในโลก   ลูกรัก ลูกทราบว่าเมื่อวิญญาณบริสุทธิ์ได้รับศีลมหาสนิทแล้ว  วิญญาณนั้นจะอาบอยู่ในความรักและเปลี่ยนสภาพไปจนจำไม่ได้ทั้งในเรื่องการใช้คำพูดและกิจการ... กลายเป็นวิญญาณที่มีความสุภาพถ่อมตน,  ทำพลีกรรมและแผ่เมตตาจิต, เป็นวิญญาณที่มีแต่สันติกับทุกคนพร้อมที่จะเสียสละทุกสิ่งจนลูกจำวิญญาณนั้นไม่ได้เลย

              ลูกรัก  จงรับศีลมหาสนิท  จงไปหาพระเยซูเจ้าด้วยความรักและความวางใจ  จงไปและเจริญชีวิตอยู่ในพระองค์เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์!  จงอย่าพูดว่า ลูกมีสิ่งที่ต้องทำมากจริงๆ  พระคริสตเยซูมิได้ตรัสไว้หรือว่า “ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน” (มธ 11:28) 

              ลูกจะปฏิเสธคำเชื้อเชิญด้วยความรักและความอ่อนหวานได้หรือ?  จงอย่ากล่าวว่าลูกไม่สมควรกับการเชื้อเชิญของพระองค์ ทั้งที่จริงลูกก็ไม่สมควรอยู่หรอก แต่ลูกก็ต้องการคำเชิญนั้นเป็นอย่างยิ่ง.   หากพระเยซูคริสตเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นความไม่เหมาะสมของลูก  พระองค์ก็คงไม่ตั้งศีลแห่งความรักที่งดงามนั้น  เป็นความจริงที่ไม่มีผู้ใดในโลกคู่ควรกับศีลแห่งความรักนี้เลย  ไม่ว่าจะเป็นบรรดานักบุญ หรือนิกรเทวดา หรืออัครเทวดา หรือแม้แต่พระนางพรหมจารีมารีอา  แต่พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นความจำเป็นของเรา และพวกเราทุกคนก็ ต้องการศีลแห่งความรักนี้  จงอย่าพูดว่าลูกเป็นคนบาป  ลูกเป็นคนที่น่าสมเพชเกินไป และดังนั้นจึงไม่รับศีลฯ  พ่อขอบอกว่า การพูดเช่นนั้นก็เหมือนกับการที่พ่อได้ยินลูกพูดว่าลูกกำลังป่วยหนัก  แต่ลูกจะไม่กินยาหรือไม่ไปหาหมอเพื่อรับการบำบัดรักษา

               คำภาวนาทั้งหลายในพิธีบูชามิสซาขอบพระคุณเป็นการเตรียมการรับศีลมหาสนิท  และตลอดชีวิตของคริสตังก็ควรเป็นการเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทที่ยิ่งใหญ่นั้น   เราควรต้องทำงานหนักเพื่อสมจะได้รับพระคริสตเยซูทุกวัน  เราควรจะมีความรู้สึกต่ำต้อยมากเพียงใดเมื่อเราแลเห็นผู้อื่นก้าวเดินไปยังโต๊ะศักดิ์สิทธิ์เพื่อรับศีล ขณะที่เรากลับต้องนั่งเฉยๆ อยู่ที่เดิม!  อารักขเทวดาของเราจะมีความสุขมากเพียงใดที่ได้เป็นผู้นำวิญญาณที่งดงามไปยังโต๊ะศักดิ์สิทธิ์! 

              หากเราไปรับศีลมหาสนิทไม่ได้  อย่างน้อยก็ให้เรารับศีลมหาสนิทด้วยความปรารถนาซึ่งเราสามารถทำได้ทุกขณะ  เพราะเราควรมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าอยู่ทุกขณะที่จะรับพระองค์ผู้พระทัยดี   ศีลมหาสนิทเปรียบได้กับการที่เราเป่าไฟที่กำลังจะมอดให้ลุกโพลงขึ้นอีก

              หลังการรับศีลศักดิ์สิทธิ์แล้ว หากเมื่อใดก็ตามต่อมา เราเกิดรู้สึกว่าความรักพระได้ลดน้อยลงไป  ก็ให้เรารีบจัดการแก้ไขด้วยการรับศีลมหาสนิทด้วยความปรารถนาทันที   หากเราไม่สามารถไปวัดได้  ก็ให้เราหันหน้าไปทางตู้ศีล  ผนังวัดที่กั้นอยู่ไม่สามารถกั้นเราจากพระได้ จากนั้นก็ให้เราสวดบทข้าแต่พระบิดาและวันทามารีอาอย่างละ 5 ครั้งเพื่อรับศีลมหาสนิทด้วยความปรารถนา

              เราสามารถรับพระเจ้าผู้พระทัยดีได้เพียงวันละครั้ง (ในสมัยนั้น)  แต่วิญญาณที่เร่าร้อนด้วยไฟแห่งความรักจะสามารถรับพระองค์ด้วยความปรารถนาได้ตลอดเวลา   เมื่อได้รับอาหารที่เป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์แล้ว มนุษย์ก็จะยิ่งใหญ่  มีชีวิตที่หอมหวานในความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า!   นี่คือสวรรค์บนแผ่นดิน  ไม่มีเรื่องวุ่นวาย  ไม่มีการโกรธแค้นกันอีก!   เมื่อเรามีความสุขจากการได้รับพระเจ้าผู้พระทัยดี  เราก็จะรู้สึกปีติยินดี  มีจิตใจที่อ่อนโยน  ทั้งนี้เพราะจิตใจที่บริสุทธิ์จะสัมผัสความสุขเช่นนี้เสมอ เป็นความสนิทสัมพันธ์กับพระที่ก่อให้เกิดพละกำลังและความสุขแก่วิญญาณนั้น

**** ขอบคุณข้อมูลจากคุณพ่อวิจิตต์ แสงหาญ เจ้าอาวาสวัดเซนต์จอห์น
แปลจาก
http://saints.sqpn.com/stj18015.htm