คำสอนเรื่องความรักของพระ
        ร่างกายของเราเป็นภาชนะที่ผุพัง  เป็นร่างกายที่ตายได้และเป็นอาหารของหนอน ร่างกายของเรามิได้เป็นอะไรมากไปกว่านั้นเลย!  กระนั้นก็ดี เราก็ทำทุกอย่างเพื่อความพอใจของร่างกาย แทนที่จะทำให้วิญญาณของเราเจริญงอกงาม ทั้งที่ วิญญาณของเราเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากจนเราไม่สามารถจะนึกถึงสิ่งอื่นที่ยิ่งใหญ่กว่าได้  ไม่มีสิ่งอื่นที่ยิ่งใหญ่กว่าจริงๆ!  ทั้งนี้เพราะเราทราบว่าพระเจ้าโดยความรักของพระองค์ไม่ทรงสร้างเราเหมือนกับสัตว์ทั้งหลาย แต่ทรงสร้างเราให้เป็นภาพลักษณ์ของพระองค์เอง.  ลูกเห็นหรือยังว่ามนุษย์ยิ่งใหญ่เพียงใด?


         มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความรักจึงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากความรัก  มนุษย์ถ้าไม่รักพระ ก็จะรักตัวเองและรักโลก   ลูกรัก เราจึงต้องการความเชื่อในเรื่องนี้...  เมื่อเราขาดความเชื่อ  เราก็จะเป็นคนตาบอด  ผู้ที่มองไม่เห็น ก็จะไม่รู้จัก  ผู้ที่ไม่รู้จักก็จะรักไม่เป็น   ผู้ที่ไม่รักพระก็จะรักตนเองและในขณะเดียวกันก็ยังรักความสุขสบายอีกด้วย  เป็นผู้ที่มุ่งหาแต่ทรัพย์สมบัติที่จะสูญสิ้นไปเช่นเดียวกันควันไฟ  เป็นผู้ที่ไม่รู้จักความจริง และไม่รู้จักทรัพย์สมบัติที่ทรงคุณค่า  เป็นผู้ที่ไม่รู้จักอะไรเลยนอกจากสิ่งที่จอมปลอม  เพราะเขาไม่มีแสงสว่าง  อยู่ในหมอกควัน  หากเขาได้รับแสงสว่าง เขาก็คงจะแลเห็นว่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เขารักนั้นให้อะไรเขาไม่ได้เลยนอกจากความตายนิรันดร  นี่คือการลิ้มรสนรกล่วงหน้า

         ลูกรัก  ลูกเห็นไหมว่านอกจากพระแล้วไม่มีสิ่งใดที่ถาวรอีก  ไม่มีสิ่งใดเลย!  หากสิ่งนั้นหมายถึงชีวิตก็เป็นสิ่งที่ตายได้ หากเป็นทรัพย์สมบัติก็จะล่มสลายหมดไป  หากหมายถึงสุขภาพก็มีการเสื่อมโทรมและถูกทำลาย  หากเป็นชื่อเสียงก็จะถูกโจมตี   พวกเราทุกคนจะแตกกระจายไปเหมือนกับสายลม... ทุกสิ่งจะดับสลายไปอย่างรวดเร็ว   ข้าแต่พระเจ้า!  ผู้ที่ฝากอนาคตไว้กับสิ่งเหล่านี้ทั้งหลายช่างเป็นผู้ที่น่าสงสารสักเพียงใด!  พวกเขาฝากอนาคตไว้กับสิ่งเหล่านี้เพราะพวกเขารักตนเองมากเกินไป  มิได้รักตนเองด้วยความรักที่มีเหตุผล แต่รักตนเองด้วยความรักในการแสวงหาตนเองและแสวงหาโลก คือแสวงหาสิ่งที่ถูกสร้างแทนที่จะแสวงหาพระเจ้าผู้ทรงสร้างสิ่งเหล่านี้  นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเขาจึงไม่พอใจกับสิ่งที่ได้มา  พวกเขาไม่มีวันที่จะอยู่อย่างสงบ  พวกเขาจะกระสับกระส่าย, เป็นทุกข์และหัวเสียอยู่ตลอดเวลา    ลูกรัก  คริสตังที่ดีใช้ชีวิตในโลกนี้ด้วยการนั่งอยู่บนรถม้าแห่งชัยชนะที่งดงาม  มีเทวดาเป็นผู้แบกและมีองค์พระคริสตเจ้าทรงเป็นสารถีด้วยพระองค์เอง   ขณะที่คนบาปที่น่าสงสารผูกติดอยู่กับรถม้าแห่งชีวิต โดยมีปีศาจเป็นผู้ขับและลงแซ่อย่างหนักเพื่อให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า  

        ลูกรัก  ความเชื่อ ความไว้ใจและความรักคือปัจจัย 3 ประการที่ช่วยให้มนุษย์มีความสุขขณะที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้  โดยความเชื่อ  เราเชื่อในสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับมนุษย์  เราเชื่อว่าวันหนึ่งเราจะพบพระองค์  จะเป็นเจ้าของพระองค์  จะมีความสุขตลอดนิรันดรกับพระองค์ในสวรรค์.   โดยความไว้ใจ เราหวังว่าคำสัญญาของพระองค์จะเป็นจริง  เราหวังจะได้รับรางวัลจากการกระทำกิจการดีทั้งหลาย  จากความคิดที่ดีทั้งหลาย  จากความปรารถนาทั้งหลาย เพราะพระเจ้าประทานรางวัลให้แม้แต่ความปรารถนาดีของเรา  เรายังต้องการสิ่งใดอีกหรือเพื่อที่จะมีความสุข?

        ในสวรรค์ จะไม่มีความเชื่อและความไว้ใจอีกต่อไป  เพราะม่านหมอกที่ปิดบังเหตุผลของเราจะสลายไป  จิตใจของเราจะสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่ถูกปิดซ่อนไว้ขณะที่เรามีชีวิตอยู่ในโลก   เราจะไม่ต้องหวังอีกต่อไปเพราะสิ่งที่หวังไว้คือสิ่งที่เรามีอยู่แล้วในสวรรค์   เราไม่ต้องหวังที่จะได้ทรัพย์สมบัติอีกเพราะเป็นสิ่งที่เราได้มาแล้วเช่นกัน... ในสวรรค์จะมีแต่ความรัก  เราคงจะดื่มด่ำกับความรักอย่างเต็มที่!  เราคงจะจมอยู่ในความรักและสูญหายไปในมหาสมุทรแห่งความรักของพระองค์  สูญหายไปในความรักที่กว้างใหญ่ไพศาลของพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า!  และดังนั้นความรักในโลกนี้จึงเป็นการลิ้มรสสวรรค์   เราจะมีความสุขเพียงใดหากเรารู้วิธีที่จะเข้าใจความรัก  สัมผัสและลิ้มรสความรักได้!  สิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์คือการที่เราไม่ได้รักพระนั่นเอง
เมื่อเรากล่าวว่า “พระเจ้าข้า ลูกเชื่อ  ลูกเชื่อด้วยความมั่นใจ”  นี่คือคำพูดที่ปราศจากความระแวงสงสัยใดๆ  และเป็นการกล่าวขึ้นมาโดยไม่ต้องคิด... หากเราสามารถแทรกซึมเข้าไปในคำพูดเหล่านี้ได้ คำพูดเหล่านี้จะแปลได้ว่า “ลูกเชื่อด้วยความมั่นใจว่า พระองค์สถิตอยู่ในทุกแห่งหน  พระองค์ทรงแลเห็นตัวลูกๆ อยู่ในสายพระเนตรของพระองค์  และวันหนึ่งตัวลูกเองก็จะแลเห็นพระองค์อย่างชัดแจ้ง  และลูกจะชื่นชมยินดีกับสิ่งที่ดีทั้งหลายที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กับลูก!  พระเจ้าข้า  ลูกไว้ใจว่าพระองค์จะประทานรางวัลให้ลูกสำหรับทุกสิ่งที่ลูกได้กระทำเพื่อให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์!  พระเจ้าข้า ลูกรักพระองค์ จิตใจของลูกถูกสร้างขึ้นเพื่อรักพระองค์!”   ความเชื่อที่แสดงถึงความรักนี้ เพียงพอแล้วสำหรับทุกสิ่ง!  หากเราสามารถเข้าใจความสุขของเราในการสามารถรักพระเจ้าได้  เราก็คงจะตกอยู่ในภวังค์แห่งความรักจนทำอะไรไม่ถูก...

           หากเจ้าชายหรือจักรพรรดิทรงมีบัญชาให้ข้ารับใช้คนหนึ่งไปเข้าเฝ้า และกล่าวกับผู้นั้นว่า “เราอยากให้ท่านมีความสุข  จงอยู่กับเรา  จงชื่นชมยินดีกับทรัพย์สมบัติของเรา แต่อย่าทำอะไรขัดใจเรานะ”  --- ข้ารับใช้ผู้นั้นจะเอาใจใส่และใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดเพียงใดในการทำทุกสิ่งให้เป็นที่พอพระทัยเจ้าชายของเขา!  พระเป็นเจ้าได้ทรงเสนอเช่นเดียวกันนี้แก่เรา...  และเราก็ไม่สนใจในไมตรีจิตของพระองค์  เราไม่ใยดีต่อพระสัญญาของพระองค์เลย... ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร!


**** ขอบคุณข้อมูลจากคุณพ่อวิจิตต์ แสงหาญ เจ้าอาวาสวัดเซนต์จอห์น
          แปลจาก http://saints.sqpn.com/stj18003.htm