คำสอนเรื่องสวรรค์ (2)
“ถ้าท่านทั้งหลายรักเรา ท่านจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของเรา”
          ไม่มีสิ่งใดสำหรับเราคริสตังที่จะง่ายไปกว่าการพูดว่า “พระเจ้าข้า ลูกรักพระองค์”  และคงไม่มีสิ่งใดที่จะหาได้ยากไปกว่าความรักของพระเจ้าผู้พระทัยดี.  บ่อยครั้ง เรารู้สึกพอใจเมื่อได้แสดงความรักภายนอกกับผู้อื่น โดยที่จิตใจของเรามิได้มีความรักเลย แต่เราก็คิดว่าเราได้กระทำตามพระบัญญัติของพระองค์แล้ว   ลูกรัก นี่คือภาพลวงตา และการเข้าใจผิด  นักบุญยอห์นสอนเราว่า เราต้องไม่รักพระด้วยคำพูด และต้องรักพระองค์ด้วยกิจการ  พระเยซูคริสตเจ้าตรัสสอนเราเสมอว่า “ผู้ที่รักเรา จะปฏิบัติตามวาจาของเรา”  

ดังนั้นหากเรายึดตามกฎข้อนี้ เราจะพบว่ามีคริสตังจำนวนไม่มากที่รักพระอย่างแท้จริง  เนื่องจากมีเพียงไม่กี่คนที่ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์  กระนั้นก็ดี ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าความรักของพระ  นี่คือคุณธรรมที่สำคัญที่สุดในบรรดาคุณธรรมทั้งหลาย  เป็นคุณธรรมที่จำเป็นเพราะหากขาดคุณธรรมนี้ไป เราก็จะเข้าสู่สวรรค์ไม่ได้.   การอยู่ในโลกนี้ของเราก็เพื่อจะรักพระ  แม้พระเจ้าจะมิได้ทรงมีพระบัญชาไว้  ความรู้สึกรักนี้ก็ยังคงเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของเราที่ว่า จิตใจของเราควรจะถูกนำไปสู่ความรักได้เอง

           แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เราล้างผลาญความรักของเราไปกับเรื่องที่ไม่คุ้มค่า  และยังปฏิเสธที่จะมอบความรักแด่พระองค์ผู้ทรงสมควรได้รับความรักอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย   ลูกรัก บางคนก็ทุ่มเทความรักเพื่อจะได้ร่ำรวย  บางคนก็เพื่อความสุขสำราญ  พวกเขามิได้ถวายสิ่งใดเพื่อพระเลยนอกจากหัวใจที่หมดสภาพเพราะการทุ่มเทให้กับโลก.   เหลือเพียงหัวใจที่ขาดความรักและเป็นความรักที่แตกแยก  หัวใจที่ไม่สมควรนำขึ้นถวายแด่พระเจ้าผู้พระทัย  เพราะมีแต่พระองค์เท่านั้นที่ทรงอยู่เหนือสิ่งสร้างทั้งหลายอย่างไม่มีขอบเขต สมควรที่เราจะมอบความรักแด่พระองค์เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหลาย  เหนือทรัพย์สมบัติของเรา  สมบัติที่เป็นของโลก ความรักที่มอบให้พระองค์อยู่เหนือบรรดามิตรสหายที่จะต้องตาย  อยู่เหนือชีวิตของเราเองเนื่องจากร่างกายของเราจะเน่าเปื่อยไป  และอยู่เหนือตัวเราเองเพราะเราเป็นของพระองค์   ลูกรัก ความรักของเราหากมีจริง ต้องเป็นความรักที่ไม่มีขอบเขตและต้องนำความรักนั้นมาใช้ควบคุมความประพฤติของเรา...

          หากพระผู้กอบกู้โลกทรงมาพบเราแต่ละคนเป็นการส่วนตัว พระองค์จะตรัสถามเราด้วยคำถามเดียวกันกับที่ได้ตรัสถามนักบุญเปโตรในครั้งนั้นว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านรักเราไหม?"  เราจะสามารถตอบพระองค์ด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกับท่านอัครสาวกผู้ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ว่า “ใช่แล้ว   พระเจ้าข้า พระองค์ทรงทราบว่าข้าพเจ้ารักพระองค์" : Domine, tu seis quia amo te.  บางทีเราเคยกล่าวเช่นนี้โดยไม่คำนึงถึงความหมายออกไป  ลูกรัก การรักพระเจ้าผู้พระทัยดี มิใช่เพียงการพูดว่า “พระเจ้าข้า ลูกรักพระองค์!” – ไม่จริงเลย!  เพราะคำพูดเช่นนี้ แม้แต่คนบาปบางครั้งก็พูดเช่นกันมิใช่หรือ?

            การรักพระเจ้าผู้พระทัยดี มิใช่เป็นความรู้สึกที่บางครั้งเกิดกับเราเมื่อเรารู้สึกดีกับพระ   เราไม่อาจควบคุมจิตใจของเราให้ศรัทธาต่อพระเจ้าได้เสมอไป   การรักพระเจ้าผู้พระทัยดีมิใช่เป็นการที่เราสัตย์ซื่อต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเราและละเลยผู้อื่น    พระเจ้าผู้พระทัยดีไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก  “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาและสุดกำลังของท่าน”  นี่เป็นการแสดงถึงพลังที่ต้องใช้ในการปฏิบัติบัญญัติแห่งความรักของพระ   การรักพระอย่างสุดจิตใจคือการจัดให้พระองค์อยู่เหนือทุกสิ่ง  พร้อมที่จะสูญเสียสิ่งของทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็นเกียรติยศ  ชีวิตของเรา  โดยไม่ยอมทำผิดต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้านายผู้มีพระทัยดี   การรักพระอย่างสุดจิตใจคือการไม่รักสิ่งใดที่เป็นอุปสรรคต่อความรักของพระ,  ไม่รักสิ่งที่จะมาแบ่งแยกหัวใจของเราเพื่อพระเจ้าผู้พระทัยดี, ละทิ้งราคะตัณหาทั้งหลายและความปรารถนาที่ผิดทั้งหลาย.    ลูกรัก เรารักพระองค์เช่นนี้กันหรือ?

            การรักพระเจ้าผู้พระทัยดีสุดจิตใจคือการเสียสละความรู้และเหตุผลของเราเพื่อพระองค์  และเชื่อทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสอนไว้   การรักพระเจ้าผู้พระทัยดีสุดจิตใจคือการคิดคำนึงถึงพระองค์อยู่บ่อยๆ  และถือเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดเพื่อจะได้รู้จักพระองค์เป็นอย่างดี   การรักพระเจ้าผู้พระทัยดีสุดจิตใจคือการใช้ทรัพย์สมบัติของเรา  สุขภาพของเรา  ความสามารถของเราในการรับใช้และถวายพระเกียรติแด่พระองค์  เป็นเรื่องการนำถวายกิจการทั้งหมดของเราแด่พระองค์ผู้เป็นจุดหมายสุดท้าย  พ่อขอถามย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า  เรารักพระองค์เช่นนี้กันหรือ?  เมื่อพิจารณากันตามกฎเกณฑ์นี้จะเห็นว่า มีคริสตังไม่กี่คนที่รักพระเจ้าอย่างแท้จริง!

            คริสตังที่ไม่ดีที่เป็นทาสของราคะตัณหา  รักพระเจ้าผู้พระทัยดีหรือ?  ผู้ที่หลงอยู่ในโลก รักพระเจ้าผู้พระทัยดีหรือ?  คนตระหนี่รักพระหรือเมื่อเขาได้ถวายข้าวของที่โกงมาแด่พระองค์?  คนชั่วช้าลามกรักพระหรือเมื่อปล่อยตัวในบาปที่เป็นศัตรูอย่างสุดขั้วกับความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์?  คนขี้เมารักพระองค์หรือเมื่อเขาคิดถึงแต่สุราและการสนุกสนานเฮฮา?  คนที่เกลียดเพื่อนบ้านรักพระองค์หรือเมื่อเขาไม่ยอมให้อภัย?  หญิงสาวคนนั้นรักพระหรือเมื่อเธอเอาแต่เที่ยวเตร่และปล่อยตัวฟุ้งเฟ้อจอมปลอม?  ลูกรัก พวกเขามิได้รักพระผู้พระทัยดีเลย  เนื่องจากเราต้องรักพระยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมด และต้องเป็นความรักที่แสดงออกทางกิจการด้วย!

            หากเราทำผิดต่อพระเจ้าผู้พระทัยดีด้วยการทำตนตามอำเภอใจ ด้วยการไม่ยอมปฏิเสธการไปมั่วสุมที่ผิดศีลธรรม, หมกมุ่นอยู่ในตัณหาที่น่าละอาย  เราก็มิได้รักพระเจ้าผู้พระทัยดีด้วยความรักที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใด  เนื่องจากเรารักความสุขความสบายและตัณหาบาปต่างๆ มากกว่ารักพระเจ้าผู้พระทัยดี.   ลูกรัก  ให้เราสำรวจวิญญาณของเรา ตั้งคำถามกับหัวใจของเรา  และดูว่าเรามิได้รักบางสิ่งบางอย่างมากกว่าพระเจ้าผู้พระทัยดีหรือ?  เรารักทุกอย่างได้ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องของเรา  ทรัพย์สมบัติของเรา  สุขภาพของเรา  ความมีชื่อเสียงของเรา แต่ความรักนี้ต้องเป็นรองความรักที่เราควรนำถวายแด่พระเจ้า  และต้องพร้อมที่จะเสียสละความรักเหล่านี้เมื่อเป็นพระประสงค์ของพระองค์...

            ลูกคิดว่าลูกเป็นคนเช่นนี้หรือ... เป็นผู้ที่เห็นบาปหนักเป็นเรื่องเล็ก และเก็บไว้ในใจอย่างเงียบเชียบเป็นเดือน เป็นปี ทั้งที่ลูกรู้ดีว่าลูกตกอยู่ในสถานะที่เป็นศัตรูตัวฉกาจกับพระเจ้าผู้พระทัยดี ?  เมื่อลูกตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ลูกยังคิดว่าลูกรักพระเจ้าผู้พระทัยดีอยู่หรือ เมื่อลูกไม่พยายามปรับปรุงตัวเองเลย?  ไม่เคยคิดจะละทิ้งสิ่งต่างๆ ที่ผิดเลย?   ผิดต่อพระผู้สร้างทุกครั้งเมื่อมีโอกาส?  ลูกรัก  ใช่แล้ว สิ่งที่คนตระหนี่รักสุดจิตใจคือเงินทอง, สิ่งที่นักดื่มรักสุดจิตใจคือสุรา,  สิ่งที่คนที่ปล่อยตัวตามราคะตัณหาแสวงหาคือตัณหาของผู้นั้น  ส่วนหญิงสาวที่ไม่ยอมละทิ้งความฟุ้งเฟ้อและความหยิ่งผยองและกล่าวว่าตนรักพระนั้น น่าจะกล่าวว่าเป็นคนรักตัวเองมากกว่า

            ไม่ใช่เลยลูกรัก  การรักพระต้องไม่เป็นเช่นที่กล่าวมานี้  เพราะเราต้องรักพระองค์มิใช่เพียงด้วยความรักเหนือสิ่งอื่นใดเท่านั้น  แต่ต้องเป็นความรักที่แสดงออกทางกิจการด้วย  นักบุญออกุสตินกล่าวว่า “ความรักจะอยู่ไม่ได้หากปราศจากกิจการที่สม่ำเสมอของวิญญาณ” (Non potest vacare amor in anima amantis).  ท่านนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ยังกล่าวด้วยว่า “จงแสวงหาความรักที่ไม่มีการแสดงออกของกิจการสิ  แล้วท่านจะพบว่า ท่านไม่สามารถหาความรักเช่นนั้นได้เลย!”  พระเจ้าข้า เป็นไปได้หรือที่ว่า ความรักของพระองค์เป็นเพียงสิ่งที่สูญเปล่า และไฟรักของพระองค์ที่ควรจะนำความร้อนสู่โลกทั้งมวลกลับกลายเป็นความรักที่ปราศจากกิจการและไม่มีพลัง?

             เมื่อลูกรักใครสักคน  ลูกก็จะแสดงให้ผู้นั้นเห็นถึงความรักของลูกมากน้อยตามความรักที่ลูกมีต่อผู้นั้น   ลูกทราบไหมว่าบรรดานักบุญเป็นอย่างไรกัน พวกเขาล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของพระเจ้าผู้พระทัยดี   บรรดานักบุญมิได้ลงทุนไปมากสักเท่าใดเลย  พวกท่านเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วยความชื่นชมยินดี  พวกเขาแบ่งปันข้าวของให้กับคนยากจน  ทำดีต่อศัตรู  มีชีวิตด้วยการใช้โทษบาป  ขังตนเองไว้จากความสุขสบายฝ่ายโลกและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  มีชีวิตอยู่อย่างสันโดษ   รีบรับความทรมานและความตายราวกับการเร่งรีบของผู้คนที่ไปร่วมงานเลี้ยงฉลอง  นี่คือผลที่เกิดจากความรักพระเจ้าของบรรดานักบุญเหล่านี้  สิ่งเหล่านี้ควรจะเกิดขึ้นกับเราด้วย  แต่ลูกรักของพ่อ ลูกไม่ได้มีความรักของพระเจ้ากันเลย  ลูกไม่ได้รักพระเจ้าผู้พระทัยดี  ลูกจะพูดได้อย่างไรว่ารักพระ ในเมื่อลูกเป็นคนขลาดกลัวเช่นนี้ และเป็นคนท้อถอยเมื่อพบความยากลำบากเล็กๆ น้อยๆ? 
  
            อนิจจา พวกเราจะเป็นเช่นไรหากพระเยซูเจ้าจะทรงรักเราก็ต่อเมื่อเรารักพระองค์?  แต่ไม่ใช่หรอก การมีชัยชนะเหนือความทุกข์ทรมานบนมหากางเขน  เป็นการรับความเจ็บปวด  เป็นการรับความอดสูจากการถูกทรมานอย่างไร้เกียรติมากที่สุด  ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะมีคุณค่าสำหรับพระองค์มากไปกว่าเมื่อพระองค์พิสูจน์ความรักของพระองค์ต่อเรา.   พระองค์ทรงเป็นต้นแบบเพียงอย่างเดียวของเรา!  หากความรักของเราเป็นความรักที่มีชีวิตชีวา  จะต้องเป็นความรักที่แสดงออกด้วยกิจการ เพราะความรักของพระเจ้าผู้พระทัยดีมิใช่ความรักที่แบ่งพรรคแบ่งพวก แต่เป็นความรักด้วยพระเมตตา  ความรักด้วยการนบนอบ เป็นความรักที่ทำให้เราปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์  ความรักที่มีชีวิตชีวาเป็นความรักที่ทำให้เราปฏิบัติหน้าที่คริสตังที่ดี

          ลูกรัก นี่คือความรักที่พระเจ้าทรงเรียกร้องจากเรา  นี่คือความรักที่ทำให้พระองค์ทรงได้รับการเรียกขานมากมาย  เป็นความรักที่พระองค์ทรงไถ่ซื้อเพื่อประทานผลบุญอย่างอุดมเพื่อเราด้วยการพลีพระชนม์บนกางเขน.   ลูกรัก  ลูกจะเป็นสุขสักเพียงใดเมื่อลูกรักพระเจ้าผู้พระทัยดี!  ไม่มีความชื่นชมยินดี  ไม่มีความสุขสันติในจิตใจของผู้ที่มิได้รักพระเจ้าบนโลกนี้  ลูกปรารถนาสวรรค์ แต่เพื่อจะได้รับสวรรค์ด้วยความมั่นใจ  ให้ลูกแสดงความรักต่อพระเจ้าผู้พระทัยดีที่นี่ ในโลกนี้  เพื่อจะได้เป็นเจ้าของพระองค์ตลอดนิรันดร์ในสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

**** ขอบคุณข้อมูลจากคุณพ่อวิจิตต์ แสงหาญ เจ้าอาวาสวัดเซนต์จอห์น
         แปลจาก http://saints.sqpn.com/stj18037.htm