การดูถูกบทเทศน์เรื่อง "การดูถูก"
"พระเยซูทรงแปลกพระทัยที่เขาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อ"(มาระโก 6:1-6)
ประสบการณ์ : ให้พูดถึงประสบการณ์ของสังคมมนุษย์ เช่น การวิพากษ์วิจารณ์-การดูถูกกัน-การไม่ยอมรับกัน-ความคุ้นเคยกันจนมองไม่เห็นความดีหรือความสามารถของกันและกัน – การเห็นคนอื่นดีกว่าคนในบ้านของตนเอง
         -ท่านเคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นไหม
         - ส่วนใหญ่เรามักจะพูดถึงคนที่อยู่ใกล้ๆตัวเรานั้นแหละ คนที่เราคุ้นเคย คนในบ้าน ญาติ เพื่อนๆ ผู้ใหญ่
คำสอนของพระเยซูเจ้า : เล่าเหตุการณ์ในพระวรสารที่เพิ่งอ่านไปด้วยภาษาของเราเอง
          -พระเยซูเจ้าเองยังโดยวิพากษ์วิจารณ์และดูถูกเลย “เอาเรื่องทั้งหมดนี้มากจากไหน...คนนี่เป็นลูกช่างไม้...” พวกเขาสะดุดใจและไม่ยอมรับพระองค์
          -การกลับมาบ้านของพระองค์ในครั้งนี้มาในฐานะรับบีมาพร้อมกับสานุศิษย์ ไม่ได้มาในฐานะลูกของช่างไม้
          -พระองค์เข้าไปในศาลาธรรมและสั่งสอนประชาชน
          -เพื่อนบ้านต่างคอยฟังด้วยใจจดจ่อเพราะได้ยินมาว่าพระเยซูเจ้าทรงทำอัศจรรย์มากมายตามเมืองต่างๆ เมื่อกลับมาบ้านจะมาทำอะไรให้พวกเขาได้เห็นบ้าง พวกเขาไม่ได้ฟังเพราะความเชื่อแต่เพราะแค่อยากรู้อยากเห็น
          -พระเยซูเจ้าทรงเริ่มการเทศน์ที่ดูเหมือนกับเป็นการต่อว่าพวกเขาว่าคนของพระเจ้ามักไม่ได้เกียรติในบ้านของตนเอง
          -ชาวนาซาเร็ธไม่ยอมรับพระองค์เพราะเห็นเขาเป็นแค่คนงานคนหนึ่งเห็นมาตั้งแต่เด็ก เป็นแค่ลูกช่างไม้ ความคุ้นเคยทำให้มองข้ามความดีงามของกันและกันไป
          -พระเยซูเจ้าจึงไม่ได้ทำอัศจรรย์อะไรที่นั้นมีเพียงแต่ปกมือรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วยบางคนที่นั้น ทั้งนี้เพราะว่าพวกเขาไม่ได้เปิดใจยอมรับพระองค์ ไม่ยอมให้พระองค์เข้าประทับในจิตใจของพวกเขา
          -ถ้าคนเราไม่ยอมรับกันและกัน รังเกียจกันและกัน จับผิดกันและกัน เราจะมีความสุขและได้ประโยชน์จากกันและกันได้อย่างไร

ปฏิบัติ:สรุปข้อปฏิบัติใน 2 ระดับ คือ
ความเชื่อศรัทธา(รักพระเจ้า) และการดำเนินชีวิตประจำวัน(รักเพื่อนมนุษย์)

ในด้านความเชื่อ
-เราศรัทธาในพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริง ยอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้หรือไม่ หรือเราเป็นคริสตชนแค่อยากรู้อยากเห็น

ด้านการดำเนินชีวิตประจำวัน
-วันนี้ให้เราตรวจสอบตนเอง เราเป็นคนที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์ หรือดูถูกคนอื่นๆบ้างไหม
-เราเคยชื่นชมคนในบ้านสามีหรือภรรยา ลูกๆหลานๆของเรามากน้อยเพียงใด
-เราเคยเอ่ยปากชมคนในบ้านหรือเพื่อนๆบ่อยมากน้อยเพียงใด
-เรามองกันในแง่ดี ส่งเสริมสนับสนุนกันให้ทำความดีกันอย่างไร
-พระวาจาของพระเจ้าเป็น “ข่าวดี” สำหรับเราทุกคน เราฟังแล้วจะต้องนำไปให้บังเกิดผลในชีวิตของเรา