ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2012
“สวัสดีปีใหม่...ขอพระเจ้าอวยพร”
         
สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน
            สวัสดี เป็นคำทักทายของคนไทย โดยจะใช้เมื่อแรกพบกัน หรือ เมื่อต้องการบอกลา โดยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายของคำว่า "สวัสดี (สวัสดิ์)" ว่าหมายถึง ความดี ความงาม ความเจริญรุ่งเรือง และความปลอดภัย ใช้เพื่อเพื่อเป็นการอวยชัยให้พรต่อกัน เป็นคำทักทาย หรือพูดขึ้นเมื่อพบหรือจากกัน


             ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า "สวัสดี" คือ พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) โดยใช้เป็นครั้งแรก ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) เป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2486 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นเห็นชอบให้ใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม เป็นต้นมา

             คำว่าสวัสดีนั้นจะทำหน้าที่ทั้งการทักทาย และอวยพรไปในคราวเดียวกัน และเมื่อเรากล่าวคำว่าสวัสดี คนไทยเรายังยกมือขึ้นประนมไหว้ตรงอก มือทั้งสองจะประสานกันเป็นรูปดอกบัวตูม เหมือนสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายถึงสิ่งสูงค่าที่เป็นมงคล เพราะชาวไทยใช้ดอกบัวในการสักการะผู้ใหญ่ บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนการวางมือไว้ตรงระดับหัวใจนั้น เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกให้เห็นว่า การทักทายนั้นมาจากใจของผู้ไหว้

              ดังนั้น เมื่อกล่าวคำว่าสวัสดีพร้อมกับการยกมือขึ้นประนม จึงแฝงให้เห็นถึงความมีจิตใจที่งดงามของคนไทย ที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำที่งดงามของคนไทยที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำที่งดงามดังกล่าวนี้ ถือเป็นมงคลต่อทั้งตัวผู้พูดและผู้ฟัง(จาก วิกิพีเดีย)
นี้คือความงดงามของวัฒนธรรมไทยของเรา ที่เราจะต้องปฏิบัติให้สืบทอดต่อกันไป

             ส่วนธรรมเนียมของเราคริสตชนนั้นเรามีวิธีอวยพรกันและกัน ซึ่งขอให้พระคัมภีร์ตอนนี้อวยพรผู้อ่านทุกท่าน ดังนี้
บทอ่านที่หนึ่งประจำวันอาทิตย์นี้มาจากหนังสือกันดารวิถี 6:22-27 สอนเราดังนี้
ท่านทั้งหลายจะต้องอวยพรชาวอิสราเอลดังนี้ ท่านต้องกล่าวว่า
“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรท่านและพิทักษ์รักษาท่าน
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรท่านและพิทักษ์รักษาท่าน
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระพักตร์แจ่มใสต่อท่านและโปรดปรานท่าน
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงผินพระพักตร์มายังท่านและประทานสันติแก่ท่านเทอญ”
สมณะจะต้องเรียกขานนามของเราให้ลงเหนือชาติอิสราเอลเช่นนี้ แล้วเราจะอวยพรเขาทั้งหลาย
 ..........................................
                 สำหรับเราแล้ว การอวยชัยให้พรแก่กันและกันนั้น เราต้องอัญเชิญพระเจ้าให้เสด็จลงมาเป็นผู้อวยพรเรา โดยเรียกขานพระนามของพระเจ้า ลำพังตัวเราเองนั้น เรายังไม่บริสุทธิ์พอที่จะดลบันดาลหรือให้พรใครได้ เราจึงต้องอาศัยพระเจ้าโดยเอ่ยพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

                 วันนี้ท่านจะอวยพรใครก็แล้วแต่ ขอให้เราด้วย การเอ่ยพระนามของพระเจ้าก่อน แล้วค่อยว่ากันในรายละเอียดต่อไปว่าจะขอพระเจ้าประทานพรอะไรให้กับคนๆนั้นอย่างไร
“ขอพระเจ้าอวยพร” ครับ