ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2011
(ลนต.19:1-2,17-18. 1คร 3:16-23. มธ. 5:38-48)
"ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์"

1. ปัจจุบันเรามักจะพูดกันถึง “เป้าหมาย” ใครจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งก็มักจะถามว่า “ทำไปทำไม” “มีเป้าหมายอะไร” เป้าหมายมีความสำคัญ เพราะเป็นหลักชัยหรือจุดสุดท้ายที่เราจะต้องไปถึง ถ้าจะถามว่าแล้วเป้าหมายในการดำเนินชีวิตเป็นคริสตชนคืออะไร คำตอบก็คือ “ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด” แล้วคนดีอย่างสมบูรณ์เป็นอย่างไร คำตอบหรือข่าวดีอยู่ในพระคัมภีร์ที่เราได้รับฟังกันในวันนี้
2. คำสอนของพระเยซูจากพระวรสารในวันนี้ เราสามารถแยกแยะในทางปฏิบัติได้ดังนี้ เรื่องแรก เกี่ยวกับความรุนแรงทางร่างกาย “ตาต่อตา..” เราต้องไม่โต้ตอบคนชั่ว “จงระวังอย่าให้ใครตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว แต่จงแสวงหาความดีให้แก่กันและกันและให้แก่ทุกคน” (1ธส.5:15)  การโต้ตอบกันด้วยความชั่วนี้จะยิ่งนำความทุกข์มาให้มากยิ่งขึ้น

3. ประการที่สอง เกี่ยวกับเรื่องทางกฎหมาย ..”ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาล” ศิษย์ของพระเยซูเจ้าจะต้องไม่ต่อสู้กันด้วยกฎหมาย การโต้เถียง คารม
4. ประการที่สาม เกี่ยวกับการใช้แรงงานหรือการให้บริการ ถ้าใครขอให้เดินร่วมทางไปกับเขาหนึ่งกิโล คริสตชนควรที่จะเดินเป็นเพื่อนเขาสองกิโล ทุกวันนี้เราสามารถเปรียบเทียบได้กับงานในหน้าที่ของเรา เรามีเวลาทำงานตามระเบียบขององค์กร หรือตามข้อตกลงของนายจ้าง ถ้าจะทำอะไรก็ต้องขอเงินล่วงเวลา(โอที) นี้เป็นความยุติธรรม แต่สำหรับคริสตชนจะต้องแสดงออกถึงความรัก โดยยอมทำงานนอกเวลาเมื่อเกิดความจำเป็นโดยไม่เรียกร้อง หรือการให้ความช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ต้องให้ร้องขอ ยินดีทำงานแบบจิตอาสาซึ่งในปัจจุบันมีหลายองค์กรที่ปฏิบัติกันอย่างจริงจัง เช่น การไปเยี่ยมคนเจ็บป่วย คนชรา คนที่ถูกจองจำ เป็นต้น

5. ประการที่สี่ เรื่องของขวัญและการให้ยืม อย่าปฏิเสธ “อย่าหันหลังให้ผ็ที่มาขอยืมสิ่งใดจากท่าน” แน่นอนในกรณีที่เราไม่มี เราคงให้ใครยืมไม่ได้

6. แน่นอนคำสั่งสอนเหล่านี้เป็นคำสอนที่ถูกต้องและนำความสุขมาสู่ชีวิตทางสังคม แต่ในทางปฏิบัติอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยเหตุและผลจากคำสอนของพระเยซูนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้หรือเป็นไปไม่ได้ แต่ขึ้นอยู่กับตัวของเราว่าเราพร้อมแค่ไหน เราพร้อมที่จะดำเนินชีวิตตามจริยธรรมของคริสตชนหรือไม่

7. ในตอนท้ายของพระวรสารในวันนี้เตือนใจเราว่า “ถ้าท่านรักแต่คนที่รักท่าน ท่านจะได้บำเหน็จรางวัลอะไรเล่า บรรดาคนเก็บภาษีมิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ ถ้าท่านทักทายแต่พี่น้องของท่านเท่านั้น ท่านทำอะไรพิเศษเล่า คนต่างศาสนามิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ ฉะนั้น ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด”

8. ความรักอย่างสมบูรณ์ตามที่บทอ่านที่ 1 จากเลวีนิติ สอนเราว่า “ท่านจะต้องไม่เก็บความเกลียดชังพี่น้องไว้ในใจ แต่จงตักเตือนเพื่อนบ้านอย่างตรงไปตรงมา ท่านจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบบาปของเรา ท่านจะต้องไม่แก้แค้น หรืออาฆาตชนชาติเดียวกับท่าน แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า”

9. พี่น้องที่รัก เราไม่ต้องสอนใครให้เกลียดชังคนอื่น แต่เราต้องเตือนใจกันและกันให้รักและให้อภัยศัตรู

10. คำว่าเพื่อนบ้านในภาษาพระคัมภีร์หมายคนในหมู่บ้านเดียวกัน เมืองเดียวกันหรืชาติเดียวกัน เผ่าพันธุ์เดียวกัน ส่วนคนอื่นๆมักใช้คำว่า คนแปลกหน้า คนต่างชาติ หรือศัตรู ศัตรูที่นักบุญมัทธิวอ้างถึงในพระวรสารนั้นหมายถึงผู้ที่เบียดเบียนคริสตชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์ของคริสตชนในสมัยเริ่มแรก

11. ศิษย์ของพระเยซูได้รับการสั่งสอนให้ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเสมอภาคกัน เหมือนพระเจ้าทรงแสดงให้เห็นด้วยการให้ “แสงสว่าง” และ “สายฝน” ที่ตกลงมาให้ทุกคนโดยไม่เลือกหน้า

12. การรักเฉพาะเพื่อนพี่น้องเป็นธรรมชาติของคนทั่วไป เป็นลักษณะนิสัยของคนทั่วโลก แต่เพื่อที่จะเป็นคนดีที่สมบูรณ์เราจะต้องต่อยอดความรักที่จำกันนี้ เราจะต้องขยายความรักของเราออกไป เป็นความรักที่ให้อภัย รักด้วยการช่วยเหลือ รักที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ดังนี้จึงจะเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงความดีอย่างสมบูรณ์

13. ดังนั้นอาทิตย์นี้ ขอให้เรามุ่งมั่นที่จะเป็นคนดีดังบิดาเจ้าสวรรค์ของเรา ให้เราภาวนาให้กันและกันเพื่อเราจะได้มีพลังใจที่จะให้อภัยคนที่ไม่ถูกกับเรา คนที่เป็นอริกับเราโดยอาศัยพลังจากพระจิตเจ้าและในพระนามของพระเยซูเจ้า ทั้งนี้เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาเจ้า อาแมน

พระคัมภีร์ มัทธิว 5:38-48
(39)แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่าโต้ตอบคนชั่ว ผู้ใดตบแก้มขวาของท่าน จงหันแก้มซ้ายให้เขาด้วย  (40)ผู้ใดอยากฟ้องท่านที่ศาลเพื่อจะได้เสื้อยาวของท่าน ก็จงแถมเสื้อคลุมให้เขาด้วย (41)ผู้ใดจะเกณฑ์ให้ท่านเดินไปกับเขาหนึ่งหลัก จงไปกับเขาสองหลักเถิด  (42)ผู้ใดขออะไรจากท่าน ก็จงให้ อย่าหันหลังให้ผู้ที่มาขอยืมสิ่งใดจากท่าน  (43)“ท่านทั้งหลายได้ยินคำกล่าวว่า จงรักเพื่อนบ้าน จงเกลียดศัตรู  (44)แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า จงรักศัตรู จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน  (45)เพื่อท่านจะได้เป็นบุตรของพระบิดาเจ้าสวรรค์ พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม  (46)ถ้าท่านรักแต่คนที่รักท่าน ท่านจะได้บำเหน็จรางวัลอะไรเล่า บรรดาคนเก็บภาษีมิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ  (47)ถ้าท่านทักทายแต่พี่น้องของท่านเท่านั้น ท่านทำอะไรพิเศษเล่า คนต่างศาสนามิได้ทำเช่นนี้ดอกหรือ  (48)ฉะนั้น ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด