ccp018.jpgบทเรียนที่      2 เดือนมกราคม 1995
หัวข้อเรื่อง     กระแสเรียก
จุดมุ่งหมาย   
เพื่อเน้นการประกาศข่าวดีตามกระแสเรียกที่ตนมี

ขั้นที่ 1 กิจกรรม
 ครูเตรียมบัตรคำ เช่น
 อาชีพ                       หน้าที่                                    สถานที่ประกอบอาชีพ
 หมอ                          รักษาพยาบาล                         โรงพยาบาล
 ตำรวจ                        ดูแลทุกข์สุข                            โรงพัก
 พระสงฆ์                     อภิบาลสัตบุรุษ                         วัด
 ครู                             สอน อบรม                              โรงเรียน
 ดารา                          ให้ความบันเทิง                         โรงภาพยนตร์ โรงละคร
 นักร้อง                        ร้องเพลง                                เวที ร้านอาหาร
 ชาวนา                         ปลูกข้าว                                 ทุ่งนา
 ชาวสวน                       ปลูกผลไม้                               สวน                                         ฯลฯ

หมายเหตุ     ถ้าเด็กเล็กอาจจัดทำบัตรคำออกเป็น 2 กลุ่มก็พอ อาชีพ และหน้าที่ ส่วนเด็กโตให้ทำครบทั้งหมด ทั้ง 3 กลุ่ม ตามตัวอย่าง
                 ให้เด็กจับบัตรที่ครูเตรียมมา คนละ 1 ใบ แล้วให้เด็กดูว่าตนได้บัตรคำเกี่ยวกับอะไร เมื่อดูเสร็จแล้วให้ออกค้นหาบัตรคำที่เกี่ยวข้องกันซึ่งอยู่กับเพื่อนๆ คนอื่น แล้วจับคู่ให้ถูกต้อง

ครูเฉลย  อาชีพ หน้าที่ และสถานที่ พร้อมชี้ถึงคุณธรรมของแต่ละอาชีพด้วย

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์

 ครูตั้งคำถาม

เช่น  -อาชีพนักร้องมีหน้าที่ร้องเพลงให้ประชาชนฟัง อาชีพนักร้องนี้สามารถจะประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้าได้อย่างไร (ครูอธิบาย)
 -อาชีพดารา มีหน้าที่ให้ความบันเทิง โดยการแสดง อาชีพนี้สามารถจะประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้าได้อย่างไร (ครูอธิบาย) ฯลฯ

สรุป อาชีพต่างๆ ก็มีความจำเป็นสำหรับมนุษย์ ทุกคนเกิดมาต้องมีอาชีพของตน ซึ่งแต่ละคนก็จะเลือกอาชีพที่ตนชอบที่ตนรัก และที่ตนถนัด บางคนอาจจะไม่ชอบอาชีพที่ตนทำ แต่ก็ต้องทำเพราะว่าเป็นอาชีพของบรรพบุรุษ เหมือนกับที่พระทรงเลือกให้เราทำตามที่พระองค์ต้องการ เราเรียกว่า “กระแสเรียก” ซึ่งกระแสเรียกนี้ต่างๆ กันไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับอาชีพ แต่ก็มีพื้นฐานเดียวกันคือไม่ว่าจะมีอาชีพอะไร ไม่ว่าจะมีกระแสเรียกอะไร ทุกคนต้องประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้า โดยประกอบอาชีพให้ดีที่สุด คือตามกระแสเรียกให้ดีที่สุด

ขั้นที่ 3 คำสอน

1. “กระแสเรียก” คือวิถีชีวิตที่คนคนหนึ่งเลือกตามความถนัดและความเหมาะสมของตนเอง เพื่อการดำรงอยู่และความก้าวหน้าของชีวิตทั้งส่วนตัวและส่วนรวม เพราะเหตุที่คนเราแตกต่างกัน กระแสเรียกก็แตกต่างกันไปด้วย แต่สำหรับคริสตชนมีอยู่อย่างหนึ่งที่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นกระแสเรียกอะไร นั่นก็คือการประกาศข่าวดีซึ่งเป็นพันธที่เกิดจากศีลล้างบาป สังคายนาวาติกันที่ 2 กล่าวว่า “พระศาสนจักรที่กำลังจาริกอยู่ในโลกนี้เป็นธรรมทูตตามธรรมชาติ” (พระสมณกฤษฎีกา เรื่องงานธรรมทูตของพระศาสนจักร ข้อ 2) หมายความว่าคริสตชนทุกคนต้องเป็นธรรมทูตตามธรรมชาติหรือต้องประกาศข่าวดีตามธรรมชาตินั่นเอง

2. เราต้องประกาศข่าวดีตามกระแสเรียกที่เรามี คือตามฐานะ หน้าที่ อาชีพของเรา
ใครเป็นพระสงฆ์ นักบวช ก็ประกาศข่าวดีแบบพระสงฆ์ นักบวช
ใครเป็นครูบาอาจารย์ ก็ประกาศข่าวดีแบบครูบาอาจารย์
ใครเป็นชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ก็ประกาศข่าวดีแบบชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน
ใครเป็นพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ก็ประกาศข่าวดีแบบพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย
ใครเป็นเด็ก เยาวชน ก็ประกาศข่าวดีแบบเด้ก เยาวชน

3. ประกาศข่าวดีแบบเด็กและเยาวชนคือเตรียมตัวเข้าสู่วิถีชีวิตที่เลือกสรรอย่างดี โดยความร่วมมือของครอบครัว พ่อแม่อย่าพยายามยัดเยียดกระแสเรียกให้แก่ลูกๆ หรืออุปโลกน์ให้ลูกเป็นโน่นเป็นนี่อย่างที่เราต้องการ หรือปล่อยให้เป็นธุระของลูกๆ ที่จะตัดสินใจเอง อย่างที่พ่อแม่บางคนพูดว่า “ลูกเลี้ยงได้แต่กาย ใจเลี้ยงไม่ได้” พ่อแม่ต้องเลี้ยงลูกทั้งกายและใจ จะมาแบ่งภาคกันไม่ได้

4. สนามงานของเด็กและเยาวชนก็คือเพื่อนเด็กและเยาวชนนั่นเอง เพราะวัยเดียวกันย่อมเข้าใจกันดีกว่าคนรุ่นอื่นๆ แต่ก่อนที่จะลงสนามก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมจะไปประกาศข่าวดี เราก็ต้องซึมซับข่าวดีไว้ในตัวให้เพียบแปล้เสียก่อน นักบุญเบอร์นาร์ดกล่าวว่า “คนประเภทคลองส่งน้ำมีเยอะ  แต่คนประเภทอ่างเก็บน้ำ” คลองส่งน้ำถ้าไม่มีอ่างเก็บน้ำก็ไร้ประโยชน์ เราจึงควรทำตนเป็นอ่างเก็บน้ำเสียให้เต็มเสียก่อน แล้วจึงจะเป็นคลองส่งน้ำจ่ายไปให้คนที่ต้องการ หมายความว่า เราต้องมีความสัมพันธ์ ใกล้ชิดพระเป็นเจ้าเป็นส่วนตัว ต้องยึดพระเยซูเจ้าเป็นผู้ร่วมชีวิต เราจึงจะสามารถประกาศข่าวดีได้อย่างมีพลังและเกิดผล

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ

ก. ข้อควรจำ
1. “กระแสเรียก” คือวิถีชีวิตที่คนคนหนึ่งเลือกตามความถนัดและความเหมาะสมของตนเองเพื่อดำรงอยู่และความก้าวหน้าของชีวิตทั้งส่วนตัวและส่วนรวม
2. ประกาศข่าวดีแบบเด็กและเยาวชนคือเตรียมตัวเข้าสู่วิถีชีวิตที่เลือกสรรอย่างดี โดยความร่วมมือของครอบครัว
3. สนามงานของเด็กและเยาวชนก็คือเพื่อนเด็กและเยาวชนนั่นเอง เพราะวัยเดียวกันย่อมเข้าใจกันดีกว่าคนในวันอื่นๆ แต่ก่อนที่จะลงสนามก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมคือต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดพระเป็นเจ้าเป็นส่วนตัว ต้องยึดพระเยซูเจ้าเป็นผู้ร่วมชีวิต

ข. กิจกรรม
- ให้เด็กนักเรียนหาอาชีพที่ตนชอบ รักมากที่สุดและมีประโยชน์มากที่สุด 1 อาชีพ  โดยตัดภาพจากหนังสือพิมพ์ แล้วนำมาติดในสมุดงาน (อาชีพที่ตนชอบ) พร้อมคุณธรรมของอาชีพนั้นๆ ด้วย

- นำบัตรคำมาถามเด็กอีกครั้ง เช่น
ตำรวจจะประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้าได้อย่างไร?
ดาราจะประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้าได้อย่างไร?
นักร้องจะประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้าได้อย่างไร? ฯลฯ

- สวดภาวนาเพื่อพระกระแสเรียกพร้อมๆ กัน

         ข้าแต่พระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นพระชุมพาบาลแสนดี โปรดรับคำสรรเสริญและขอบพระคุณอันต่ำต้อยของข้าพเจ้าทั้งหลาย ด้วยเหตุที่พระองค์ได้ทรงโปรดให้พระจิตทรงบันดาลให้พระศาสนจักรมีกระแสเรียกต่างๆ ด้วยน้ำพระทัยอารีและต่อเนื่องกันมา โปรดทรงอนุเคราะห์บรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ ธรรมทูตและบุคคลที่ถวายตัวทั้งหลาย โปรดให้ท่านเหล่านั้นเป็นตัวอย่างในการดำรงชีวิตแบบที่พระวรสารสอนอย่างแท้จริง โปรดให้บรรดาผู้ที่เตรียมตัวจะทำงานพระสงฆ์ และบำเพ็ญชีวิตถวายตัว เข้มแข็งและยืนหยัดมั่นคงในความตั้งใจของเขา โปรดเพิ่มจำนวนคนงานแพร่พระวรสาร เพื่อประกาศพระนามของพระองค์แก่ชนชาติต่างๆ โปรดเอาพระทัยใส่บรรดาเยาวชนในครอบครัวและกลุ่มชนของข้าพเจ้าทั้งหลาย โปรดให้เขาสรรพพร้อมและมีน้ำใจกว้างที่จะเดินตามพระองค์ไป ในทุกวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ขอพระองค์ทรงหันมาทอดพระเนตรดูและเรียก เขาโปรดให้บรรดาผู้ที่รักบเรียกมีพละกำลังที่จะสละทิ้งทุกสิ่ง เพื่อเลือกเอาพระองค์แต่ผู้เดียว ผู้ทรงเป็นองค์ความรัก ขอพระราชทานอภัยแก่บรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงเลือกแล้วแต่เขาไม่สนองตอบ และได้ประพฤติไม่ซื่อสัตย์
ข้าแต่พระคริสตเจ้า โปรดสดับฟังคำวอนขอข้าพเจ้าทั้งหลาย โดยเห็นแก่คำเสนอวิงวอนของพระแม่เจ้ามารีย์ พระชนนีของพระองค์และพระราชินีของมวลอัครสาวก พระนางผู้ซึ่งเมื่อเชื่อและสนองตอบด้วยน้ำใจกว้างแล้ว ก็ได้เป็นมูลเหตุทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความชื่นชมโสมนัส โปรดติดตามบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงเรียกมาทำการรับใช้ในพระอาณาจักของพระองค์ โดยให้พระนามประทับอยู่กับเขา และเป็นแบบฉบับแก่เขาด้วยเทอญ อาแมน