ccp037.jpgบทเรียนที่      2 เดือนมกราคม 1997

หัวข้อเรื่อง      นักบุญยอห์น บอสโก ผู้มากด้วยประสบการณ์ชีวิต

จุดมุ่งหมาย    เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนแสวงหาประสบการณ์ในรูปแบบต่างๆ  จะได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการแพร่ธรรมให้มากขึ้น  ตามแบบอย่างของนักบุญยอห์น บอสโก

ขั้นที่ 1 กิจกรรม
 ครูเล่นกลง่ายๆ ต่อไปนี้ให้ผู้เรียนชม
 1.เหรียญ 5 อัน 
ใช้เหรียญต่างขนาด 2 ชนิด เช่น เหรียญ 5 บาท 3 อัน กับเหรียญ 1 บาท 2 อัน นำมาวางเรียงบนโต๊ะ สลับตำแหน่งกันโดยให้เหรียญ 5 บาท ปิดหัวปิดท้าย (ดูในภาพ)
กติกา ใครก็ได้อาสาสมัครออกมาย้ายเหรียญ ให้ย้ายได้เพียง 3 ครั้ง แต่ละครั้งต้องย้ายพร้อมกัน 2 เหรียญติดกัน ไปด้วยกัน หลังจากย้าย 3 ครั้งแล้วต้องให้เหรียญ 5 บาททั้ง 3 อันมาเรียงกันข้างหน้า และเหรียญ 1 บาท 2 อันมาเรียงอยู่ข้างหลัง

เฉลย ครั้งที่ 1 ย้ายเหรียญที่ 3 และ 4 ไปต่อท้ายเหรียญที่ 5
        ครั้งที่ 2 เลื่อนเหรียญที่ 3 และ 5 ไปติดเหรียญที่ 2
        ครั้งที่ 3 ย้ายเหรียญที่ 1 และ 2 ไปเสียบเข้าที่ว่างหน้าเหรียญที่ 4

 2.แก้ว 3 ใบ
แก้ว 3 ใบ มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ นำมาวางเรียงบนโต๊ะ ให้คว่ำและหงายเหมือนในภาพ

กติกา อาสาสมัครออกมาพลิกแก้วเพียง 2 ครั้งๆ ละ 2 ใบติดกัน เสร็จแล้วแก้วทั้ง 3 ใบจะต้องหงายหมด
ครูแสดงให้ดูก่อน         ครั้งที่ 1 พลิก 2 ใบแรก
                                ครั้งที่ 2 พลิก 2 ใบหลัง
                                แก้วทั้ง 3 ใบจะหงายหมด
                                ครูทำซ้ำให้ดูอีกสัก 2-3 ครั้ง
เสร็จแล้วแอบเรียงแก้วให้คว่ำและหงายในลักษณะใหม่ อย่าให้ทันสังเกตดังในภาพ
เชิญอาสาสมัครออกมาทำบ้างตามกติกาข้างต้นรับรองทำจนตายก็ไม่วันสำเร็จ

 3.ตัดกระดาษไม่ขาด
ครูหยิบกระดาษที่มีความกว้างประมาณ 1 นิ้ว ยาวประมาณ 15 นิ้ว พับครึ่งแล้วเอากรรไกรตัดเสร็จแล้วปล่อยกระดาษคลี่ออก กระดาจะไม่ขาดจากกัน
เฉลย เอากาวซีเมนต์ (หาซื่อได้ตามร้านเครื่องเขียน) ทากระดาษตรงจุดที่จะเอากรรไกรตัดปล่องทิ้งไว้ให้แห้ง เอาแป้งฝุ่นโรยทับเพื่อเวลาพับกระดาษจะไม่ติดกัน เวลาแสดงให้พับกระดาษตรงจุดที่ทากาวไว้ แล้วตัดด้วยกรรไกร เมื่อปล่อยกระดาษคลี่ออกกาวซีเมนต์จะช่วยยึดกระดาษให้ติดกันอยู่

 4.ความสามารถพิเศษ
ครูเชิญผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษมาแสดงหน้าชั้น เช่น ผิวปาก ยักคิ้วข้างเดียว กระดิกหู หน้าผากหัวเราะ ฯลฯ
หมายเหตุ ครูอาจจะเล่นกลทั้งหมด หรือเลือกเอาเฉพาะบางอย่าง แต่ข้อ 4 เป็นข้อบังคับ

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
ครูถามผู้เรียนว่า
- ชมการเล่นกลแล้วรู้สึกอย่างไร?
- เล่นกลง่ายหรือยาก?
- จะเล่นกลได้ต้องทำอย่างไรก่อน?
- การเล่นกลมีประโยชน์อะไรบ้าง
- รู้สึกอย่างไรต่อคนที่มีความสามารถพิเศษ?
- ความสามารถพิเศษนั้นมีประโยชน์อะไร?

 สรุป การเล่นกลก็ดี การแสดงความสามารถพิเศษก็ดี สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มาก จึงมักจะมีการแสดงดังกล่าวเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าหรือธุรกิจบางอย่าง

ขั้นที่ 3 คำสอน
1.พระเป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาตามพระฉายาของพระองค์ และประทานสติปัญญาอันล้ำเลิศที่สามารถคิดและทำสิ่งประหลาดมหัศจรรย์ต่างๆ มากมาย รวมทั้งการเล่นกลและความสามารถพิเศษทั้งหลายที่เราเห็นมาแล้วด้วย พระองค์ตรัสว่า “ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอาถึงครอบไว้ แต่ยอมตั้งไว้บนเชิงตะเกียงเพื่อส่องสว่างให้แก่ทุกคนที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้น”  (มธ 5:15) หมายความว่าคนที่มีความสามารถต่างๆ นั้นอย่าเก็บไว้เฉยๆ หรือเก็บไว้คนเดียว แต่ต้องนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวม

2.ความสามารถของคนเราอาจจะมาจากกำเนิดก็ได้ คือเกิดมาแล้วก้เป็นเอง หรืออาจจะเกิดมาจากการฝึกฝนก็ได้ ตัวอย่างเช่น นักบุญยอห์น บอสโก เมื่อยังเป็นเด็กอยู่ เห็นนักเล่นกลและนักแสดงกายกรรมมาแสดงอยู่ในหมู่บ้าน มีคนมามุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก ยอห์นบอสโกก็จดจำเอามาฝึกบ้างจนสามารถแสดงได้ไม่แพ้กัน และอาศัยการเล่นกลและแสดงกายกรรมนี้ก็ดึงดูดเยาวชนให้มารวมกลุ่มกันวดภาวนา ฟังคำสอน แทนที่จะไปจับกลุ่มกันประพฤติเกะกะเกเรสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านเมื่อเติบใหญ่ขึ้น ระหว่างปิดภาคเรียน ยอห์นบอสโก ก็ไปฝึกงานอาชีพต่างๆ เช่น ตัดเสื้อ ช่างไม้ ช่างปูน หรือไปฝึกอาชีพเสริร์ฟอาหารในภัตตาคารเป็นการหารายได้ไปในตัวด้วย แถมยังได้ประสบการณ์ในการทำขนมปังและเป็นพ่อครัวที่มีความชำนาญในการปรุงอาหารต่างๆ ยอห์นบอสโกยังฝึกเล่นดนตรีจนมีความสามารถสีไวโอลินได้ดี ชื่อเสียงของท่านจึงระบือไป แต่มีบางคนพูดว่าท่านเป็นพ่อมดจึงสามารถทำอะไรได้มากมายหลายอย่าง จนถูกพระสงฆ์ผู้คงแก่เรียนคนหนึ่งเรียกตัวไปสอบสวน ก็ไม่พบความผิดอย่างที่พูดกัน
เมื่อบวชเป็นพระสงฆ์แล้วยอห์นบอสโกก็ยังหันมาเขียนหนังสือ ตั้งโรงพิมพ์เพื่อเผยแพร่สิ่งพิมพ์ที่ดี แข่งขันกับสิ่งพิมพ์ไม่ดี จนถูกรังควานและปองร้าย แต่ท่านก็ไม่หวั่นไหวและรอดพ้นอันตรายมาได้เสมอ
              ทั้งหมดนี้ ยอห์นบอสโกได้สู้อุตสาห์ฝึกฝนและสั่งสมไว้เป็นกำไรชีวิต ซึ่งต่อมาก็สามารถทำประโยชน์มหาศาลให้แก่งานอบรมเยาวชนของท่าน ยอห์นบอสโกได้ตั้งคณะนักบวชซาเลเซียนขึ้นเพื่อสืบทอดจิตตารมณ์และงานอบรมเยาวชนต่อไปและให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และวิธีการที่สำคัญก็คือการส่งเสริมความสามารถของเยาวชนในด้านต่างๆ โดยผ่านทางโรงเรียนอาชีวศึกษาซึ่งนักบวชคณะซาเลเซียนจะมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เท่ากับเป็นการชักพาเอาพรสวรรค์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวเยาวชนออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และเป็นการสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพให้แก่ประเทศชาติอีกด้วย

3.นักบุญเปาโลเรียกขานความสามารถหรือพรสวรรค์ของเรามนุษย์ว่าเป็นของประทานของพระจิตเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ท่านกล่าวว่า “โดยทางพระจิต พระเป็นเจ้าประทานให้คนหนึ่งเทศนาสั่งสอนได้อย่างลึกซึ้ง.... อีกคนหนึ่งมีพรรักษาโรคได้..... อีกคนหนึ่งมีฤทธิ์ทำอัศจรรย์..... อีกคนหนึ่งสามารถพยากรณ์..... อีคนหนึ่งสามารถแยกแยะจิต..... อีกคนหนึ่งพูดภาษาต่างๆ และอีกคนหนึ่งสามารถแปลภาษานั้นๆ ได้ ทั้งหมดเหล่านี้เป็นผลงานของพระจิตองค์เดียวกัน ผู้ทรงแจกจ่ายให้แต่ละคนตามที่ทรงพอพระทัย” (1คร 12:5-11)
                ส่วนรวมหรือสังคมจะได้รับประโยชน์จากความสามารถหรือพรสวรรค์ของมนุษย์แต่ละคน เช่น ทางฝ่ายโลก เราก็มีนักปราชญ์เรืองนามต่างๆ มากมายที่เป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกนำความเจริญมาสู่โลก ไม่ว่าจะเป็นทางด้านวิทยาศาสตร์ (โทมัส เอลวา เอดิสัน ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า เจมส์ วัตต์ ผู้ประดิษฐ์รถไฟเครื่องจักรไอน้ำ พี่น้องตระกูลไรท์ ผู้ประดิษฐ์เครื่องบิน ไอน์สไตน์ ผู้ค้นพบพลังปรมาณู ฯลฯ) ทางด้านการแพทย์ (หลุยส์ ปาสเตอร์ ผู้คิดค้นวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า มาดามคูรีย์ ผู้ค้นพบรังสีเรเดียมรักษาโรคมะเร็ง ฯลฯ) ทางด้านสถาปัตยกรรม (ไมเคิล อันเจโล จิตรกร และสถาปนิกผู้มีชื่อเสียงก้องโลก ฯลฯ) ทางด้านวรรณกรรม (สุนทรภู่ จินตกวีเอกของไทย ฯลฯ)
ทางฝ่ายศาสนา เราก็มีบรรดานักบุญต่างๆ มากมายที่ใช้ความสามารถหรือพร สวรรค์เฉพาะตัวของท่าน สร้างสรรค์ความดีงามให้แก่โลกในด้านต่างๆ ตัวอย่างเช่น นักบุญยอห์น บอสโก ที่สั่งสมความสามารถไว้หลายอย่างในตัวท่านและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการอบรมเยาวชนได้เป็นอย่างดี ดังที่ได้เห็นมาแล้ว นักบุยคามิลโล เด เลลลิส ผู้สนใจคนเจ็บป่วยก็ได้ก่อให้เกิดงานอภิบาลคนป่วยทั้งทางกายและทางใจ ดังที่ได้เห็นมาแล้วเช่นกัน นักบุญอิกญาซีโอ มีพรสวรรค์ทางด้านความรู้ก้ได้ให้กำเนิดคณะนักบวชเยสุอิต ซึ่งทำหน้าที่สั่งสอนอบรมนักศึกษาในมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกาชั้นสูงอยู่จนปัจจุบันนี้ นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีมีพรสวรรค์รักพระ รักมนุษย์ รักธรรมชาติ ก็ได้ให้กำเนิดคณะนักบวชฟรังซิสกันและกาปูชิน ที่อุทิศตนแด่พระโดยถือความยากจน ไม่ติดใจในทรัพย์สินสิ่งของใดๆ นักบุยคลาราก็มีพรสวรรค์คล้ายๆ นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี ก็ได้ให้กำเนิดคณะชีลับกาปูชิน ที่สละโลก อุทิศตน ภาวนา พลีกรรมอยู่ในอาราม ยังมีนักบุญต่างๆ อีกมากมายที่มีพรสวรรค์หลากหลายและได้ทำให้พระศาสนจักรเจ้าสวของพระเยซูคริสต์สวยงามด้วยความหลากหลายตระการตาเหล่านั้นมาจนทุกวันนี้

4.ความสามารถหรือพรสวรรค์นั้น เรามีกันทุกคนแตกต่างกันไป มากบ้างน้อยบ้าง ตามสภาพของแต่ละคน แต่เราสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้เสมอ โดยอาศัยการกระทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และแม้กระทั่งความสามารถหรือพรสวรรค์บางอย่างที่คนเราไม่มีมาแต่กำเนิด หรือไม่อยู่ในสายเลือด และความนึกคิดมาก่อน เราก็ยังสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยการฝึกฝนจนสามารถยังประโยชน์ให้แก่สังคมได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น คนพิการตาบอก็สามารถหันมาเอาดีทางดนตรี คนแขนด้วนก็ยังสามารถหันมาเอาดีทางวาดภาพด้วยเท้า ฯลฯ หรือแม้แต่คนที่ปกติดี หลายครั้งก็เบี่ยงเบนไปประกอบอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถที่ตนไม่เคยมีความถนัดหรือคาดฝันมาก่อน บางทีเราก็เรียกความสามารถทำตรงนี้ว่า พรแสวง  จึงเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่หลายคนงอมืองอเท้า ทั้งๆ ที่มีความสามารถติดตัวอยู่ หรือไม่สนใจแสวงหาและฝึกฝนตนเองเมื่อทำได้ จึงทำให้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์สำหรับสังคมไป ถ้ามีคนอย่างนักบุญยอห์นบอสโกมากๆ สังคมคงจะก้าวหน้ากว่านี้อีกมากมาย ทั้งทางฝ่ายวัตถุและจิตใจ

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก.ข้อควรจำ
1. “ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอาถึงครอบไว้ แต่ยอ่มตั้งไว้บนเชิงตะเกียงเพื่อส่องสว่างให้แก่ทุกคนที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้น” (มธ 5:15)
2. นักบุญยอห์น บอสโกได้ชื่อว่าเป็น “บิดาและอาจารย์แห่งเยาวชน” เพราะท่านมีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงพร้อมมูล เพื่อประโยชน์ของเยาวชน
3. “พระจิตประทานพระคุณต่างๆ ให้มนุษย์แต่ละคนตามที่พระองค์ทรงพอพระทัย” (1คร 12:11)
4. จงอยู่อย่างผู้มีประโยชน์ต่อสังคม โดยใช้ความสามารถของเราเพื่อส่วนรวม
เพียงรู้ว่าเธอเป็นเยาวชน พ่อก็รักเป็นพิเศษ
ข.กิจกรรม 
ถ่ายทอดความสามารถหรือพรสวรรค์ให้แก่กันและกัน โดยการฝึกสอนอย่างสม่ำเสมอ
ค.การบ้าน
ใช้ความสามารถหรือพรสวรรค์ดึงดูดเพื่อนๆ ให้มาทำดี เช่น มาวัด มาเรียนคำสอน มาเล่นกีฬา มาเข้ากลุ่มกิจการคาทอลิก