บทที่ 19
เครือญาติใหม่ในศีลล้างบาป

จุดมุ่งหมาย เพื่อให้นักเรียนกระชับความสัมพันธ์กับเครือญาติใหม่ในศีลล้างบาป

ขั้นที่ 1 กิจกรรม

ครูเล่นนิทานต่อไปนี้ให้นักเรียนฟัง
          จอยเป็นเด็กกำพร้า น่าสงสาร ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีบ้านที่อยู่อาศัย ต้องเร่ร่อนไปตามท้องถนนขอทานเขากินไปวัน ๆ ค่ำไหนก็ซุกหัวนอนที่นั้น ไม่ว่าจะใต้ต้นไม้ ใต้สะพาน ข้างถนน ฯลฯ
           เพราะชีวิตดังกล่าวทำให้จอยดำคล่ำ สกปรกมอมแมม ผมเผ้ายาวรุงรัง เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง และเปอะเปื้อนไปด้วยโคลนตม มีกลิ่นเหม็นสาบ เป็นที่รังเกียจของคนที่เดินผ่านไปมาเป็นอย่างยิ่ง บางวันไม่มีคนทำทานจอยก็หิว ต้องดื่มน้ำแทนข้าว เมื่อหิวจริง ๆ เข้าก็ต้องขโมยเขากินไม่ว่าจะเป็นผลหมากรากไม้ อาหาร หรือบางทีก็เงินทองเมื่อเจ้าของเผลอ
          เช้าวันนั้น จอยรู้สึกหิวมาก จึงออกไปแบมือขอทานตามปกติ ในเมื่อขอทานไม่ทันใจ ประกอบกับหิวจัดขึ้นทุกที จอยจึงตัดสินใจฉกกระเป๋าถือของสตรีคนหนึ่งแล้ววิ่งสุดฤทธิ์ แต่กรรมตามทันจอยวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือ ถูกรถยนต์คันหนึ่งชนล้มลง เจ้าของรถคือสามีภรรยาคู่หนึ่ง รีบเปิดประตูรถลงมาดูแล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
          เจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบสวนทำคดีก็ตกลงกันได้ว่า เป็นความของจอยเองที่วิ่งไปชนรถ สามีภรรยาคู่นั้นยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลทุกอย่างและเมื่อทราบว่า จอยเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีญาติไม่มีบ้านที่อยู่อาศัย ก็ยินดีรับจอยมาอยู่ที่บ้านและอุปการะเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง
          ที่บ้านนี้จอยเหมือนเกิดใหม่ เขาได้พบคุณพ่อคุณแม่ใหม่ เขายังได้พบพี่ ๆ น้อง ๆ ใหม่ พบเพื่อนฝูงใหม่ ทุกคนต่างยินดีรับเขาเข้ามาเป็นสมาชิกคนใหม่ของครอบครัว จอยรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีก่อนเลย ความสุขของจอยไม่ใช่อยู่ที่บ้านใหม่ใหญ่โต มีอาหารกินบริบูรณ์ มีเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่ แต่อยู่ที่จอยมีพ่อมีแม่ที่รักจอย มีพี่มีน้องที่คอยหยอกเย้าวิ่งเล่นด้วยกัน มีเพื่อน ๆ ในบ้านอีกหลายคนที่คอยยิ้มแย้มทักทายให้ความเป็นกันเอง จอยขาดสิ่งเหล่านี้มาตลอด แต่บัดนี้จอยได้พบมันแล้ว จอยบอกตัวเองว่าจอยโชคดีจริง ๆ ที่ได้เข้ามาในบ้านใหม่นี้ มีเครือญาติใหม่ที่แสนดี จอยจะทำตนเป็นสมาชิกที่ดีของบ้านใหม่นี้ และเครือญาติใหม่นี้ตลอดไป

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์

 ครูถามนักเรียนว่า
  -สภาพของจอยคนเก่าคืออะไร?
  -สภาพของจอยคนใหม่คืออะไร?
  -อะไรคือความสุขทึ่สุดของจอย? ทำไม?
  -มีใครนึกอิจฉาจอยบ้างหรือเปล่า? ทำไม?
สรุป เราคงไม่ต้องอิจฉาจอยหรอก เพราะเราเองก็โชคดีเหมือนจอยเหมือนกัน หรือยิ่งกว่าจอยเสียอีก

ขั้นที่ 3 คำสอน

           1. เราโชคดีเหมือนจอยเพราะเมื่อเรารับศีลล้างบาป เราก็ได้เข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ มีเครือญาติใหม่ คือ พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ซึ่งทุกคนรักเราและดีต่อเราอย่างยิ่ง บ้านใหม่ที่เราเข้ามาอยู่นี้คือบ้านของพระเป็นเจ้า พ่อใหม่ของเราคือพระเป็นเจ้า พระบิดาซึ่งรักและเอาใจใส่ดูแลเรายิ่งกว่าพ่อในโลกนี้เสียอีก แม่ใหม่ของเราคือแม่พระ ซึ่งรักเรายิ่งกว่าแม่ในโลกนี้หลายร้อยเท่า พี่ใหม่ของเราคือพระเยซูคริสต์ซึ่งรักเรามากจนถึงขาดยอมตายแทนเราได้ เพื่อนใหม่ก็คือบรรดานักบุญทั้งหลายที่เป็นกำลังใจให้เราในสวรรค์ และบรรดาคริสตชนทั้งหลายที่พร้อมที่จะเป็นเพื่อนร่วมชีวิตของเราตลอดไป

           2. เราได้ทิ้งชีวิตเก่าเหมือนจอยมาแล้ว บัดนี้เราอยากมีความสุขในชีวิตใหม่ บ้านใหม่ ก็จงยึดพระเป็นเจ้าเป็นพ่อของเราโดยทำตนเป็นลูกที่ดี หมั่นไปหาพระองค์ เช่น ไปวัด สวดภาวนาโดยเฉพาะบท “ข้าแต่พระบิดา” บ่อย ๆ เราอยากมีความอบอุ่น มีแม่ที่ดี ก็จงยึดแม่พระเป็นแม่ของเราโดยรักและศรัทธาต่อแม่พระมาก ๆ สวดภาวนา โดยเฉพาะบท “วันทามารีอา” บ่อย ๆ

          3. เราอยากมีความมั่งคงปลอดภัย ก็จงยึดพระเยซูคริสต์เป็นพี่ พระองค์เป็นผู้คอยปกป้องภัยให้น้องถึงกับตายแทนน้องได้ เราจงไปหาพี่ชายคนนี้บ่อย ๆ โดยไปเฝ้าศีลมหาสนิท ไปรับศีลมหาสนิท ไปฟังคำสอนของพระองค์ พระองค์สัญญาว่า “เราจะอยู่กับท่านจนสิ้นพิภพ” (มธ.28,20)

         4. ถ้าเราอยากมีความสุขสนานรื่นเริงในชีวิตก็จงยึดนักบุญทั้งหลายเป็นเพื่อน โดยเฉพาะนักบุญองค์อุปถัมภ์ของเรา นักบุญเป็นตัวอย่างที่ดีที่ชักชวนเราให้ปฏิบัติตาม และยังเป็นผู้สวดภาวนาอ้อนวอนพระเป็นเจ้าแทนเราด้วย พระศาสนจักรเชิญชวนคริสตชนให้คิดถึงนักบุญทุกวันโดยบรรจุชื่อไว้ในปฏิทินทุกวันตลอดปี

         5. สุดท้ายในบ้านของพระเป็นเจ้านี้ยังมีเพื่อนคริสตชนอีกมากมายที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลก เป็นเพื่อนร่วมชีวิตร่วมทางกับเรา เราไม่ได้อยู่คนเดียวโดดเดี่ยว แต่มีเพื่อนเหล่านี้คอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน เราจงรักเพื่อนเหล่านี้ และร่วมมือร่วมใจกันสร้างบ้านของพระเป็นเจ้าบนแผ่นดินนี้ให้เป็นสวรรค์ที่น่าอยู่ เพื่อเป็นการเปิดประตูบ้านนี้ไว้ต้อนรับเพื่อนมนุษย์อีกเป็นจำนวนมากให้ได้เข้ามาร่วมเครือญาติใหม่กับเราในศีลล้างบาปให้มากขึ้น


ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ

ก. จดเนื้อหาลงในสมุด
1.เมื่อรับศีลล้างบาป ใครเป็นพ่อคนใหม่ของเรา?
 ตอบ  เมื่อรับศีลล้างบาป พระเป็นเจ้าทรงเป็นพ่อคนใหม่ของเรา
2.เมื่อรับศีลล้างบาป ใครเป็นแม่คนใหม่ของเรา?
 ตอบ  เมื่อรับศีลล้างบาป แม่พระเป็นแม่คนใหม่ของเรา
3.เมื่อรับศีลล้างบาป ใครเป็นพี่คนใหม่ของเรา?
 ตอบ  เมื่อรับศีลล้างบาป พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพี่คนใหม่ของเรา
4.เมื่อรับศีลล้างบาป ใครเป็นพี่น้องและเพื่อนใหม่ของเรา?
 ตอบ  เมื่อรับศีลล้างบาป บรรดานักบุญในสวรรค์และบรรดาคริสตชนในโลกนี้เป็นพี่น้องและเพื่อนใหม่ของเรา

ข. กิจกรรม
เล่นเกม “แม่งูเอ๋ย”
 วิธีเล่น 
   หานักเรียนเป็นแม่งู 1 คน เป็นพ่องู 1 คน ที่เหลือเป็นลูกงู
  ลูกงูทั้งหมดเอามือเกาะเอวแม่งูไว้ทางด้านหลัง
  พ่องูยืนอยู่หน้าแม่งูแล้วร้องถามว่า “แม่งูเอย กินน้ำบ่อไปไหน?”
  แม่งูตอบ “กินน้ำบ่อหิน บินไปก็บินมา” (ทำท่าบิน ลูก ๆ ขยับตาม)
  พ่องูถามอีกว่า “แม่งูเอย กินน้ำบ่อไหน?”
  แม่งูตอบว่า “กินน้ำบ่อทราย ย้ายไปก็ย้ายมา (ทำท่าย้าย ลูก ๆ ขยับตาม)
  พ่องูถามอีกว่า “แม่งูเอย กินน้ำบ่อไหน?”
  แม่งูตอบ “กินน้ำบ่อโศก โยกไปก็โยกมา” (ทำท่าโยก ลูก ๆ ขยับตาม)
  พ่องูถามอีกว่า “กินหัวกินหาง?”
  แม่งูตอบ “กินกลางตลอดตัว”
              พ่องูไล่จับลูกงูทางด้านหลัง แม่งูคอยป้องกันลูกไว้ ถ้าลูกถูกจับได้ หรือขาดแถวถือว่าแพ้ คนที่แพ้มาทำหน้าที่พ่องูแทน

บทสอน พ่องูคือพระเป็นเจ้า แม่งูคือแม่พระ ลูกงูคือเราคริสตชน พระเป็นเจ้ารักลูก อยากได้ลูกกลับมา แม่พระรักลูก ป้องกันลูกสุดกำลัง ลูก ๆ ปลอดภัยเมื่อพระเป็นเจ้าและแม่พระเป็นที่พักพิง

 รองเพลง “พักพิงในพระเจ้า” (ปรารถนาหน้า 412 บี)

พักพิงในพระเจ้า

1. ดั่งทะเลเจอมรสุมแปรปรวน   ทุกคนมีชีวิตเป็นเช่นนั้น
    ยามทุกข์เจียนตายดั่งคลื่นและลมซัดพา  ขาดคนคุ้มครองป้องกันพักพิง
2. แต่อย่าลืมพระองค์เฝ้ามองเราอยู่  พร้อมจะเชิดชูใจที่อ่อนแรงระอา
    จงหันคืนสู่พระพักตร์ที่แสนเมตตา  มอบชีวาให้พระเจ้านำพา
3. พักพิงในพระเจ้า พักพิงในพระองค์  พระทรงเป็นศิลามั่นคง
    พระองค์เป็นพระเจ้า พระองค์เป็นพลัง  โปรดเป็นโล่เป็นกำบังที่เข็มแข็ง
    ต่อไปนี้ ฉันจะไม่ต่อสู้เพียงลำพัง
    เหตุพระองค์ผู้กอบเกียรติชัยในความตายความบาป
   โปรดเดินเคียงข้างฉัน