
🙋♀️จงยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต
📖แวะมารับพระวาจาพระเจ้าไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตความเชื่อกัน
📌พระยาห์เวห์จะเสด็จนำหน้าท่าน พระองค์จะทรงสถิตอยู่กับท่าน จะไม่ทรงทำให้ท่านผิดหวังหรือทอดทิ้งท่าน อย่ากลัวและอย่าท้อแท้เลย (ฉธบ. 31:8)
📌พระยาห์เวห์ทรงเป็นปราการมั่นคงสำหรับผู้ถูกกดขี่ ทรงเป็นที่มั่นในยามทุกข์ร้อน ผู้ที่รู้จักพระนาม ย่อมวางใจในพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งผู้แสวงหาพระองค์เลย (สดด. 9:9-10)
📌แม้ข้าพเจ้าจะต้องเดินไปในหุบเขาที่มืดมิด ข้าพเจ้าก็จะไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า พระคทาและธารพระกรของพระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าอุ่นใจ (สดด. 23:4)
📌บรรดาผู้ชอบธรรมร้องขอความช่วยเหลือ พระยาห์เวห์ก็ทรงฟัง ทรงช่วยเขาให้รอดพ้นจากความคับแค้นทั้งหลาย (สดด. 34:17)
📌พระเจ้าทรงเป็นแหล่งลี้ภัยและทรงเป็นพละกำลังสำหรับชาวเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมเสมอในยามเดือดร้อน (สดด. 46:1)
📌จงเรียกเราในยามทุกข์ร้อน เราจะช่วยท่านให้รอดพ้น แล้วท่านจะถวายเกียรติแก่เรา (สดด. 50:15)
📌จงปลดเปลื้องความสาละวนของท่านถวายพระยาห์เวห์ แล้วพระองค์จะทรงค้ำจุนท่าน จะไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ชอบธรรมต้องสะดุดล้มเลย (สดด. 55:22)
📌ยามที่ข้าพเจ้าหวาดกลัว ข้าพเจ้าก็วางใจในพระองค์ (สดด. 56:3)
📌จงทูลพระยาห์เวห์ว่า พระองค์ทรงเป็นแหล่งลี้ภัยของข้าพเจ้า และทรงเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์ (สดด. 91:2)
📌พระองค์ทรงตอบข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าเรียกหาพระองค์ พระองค์ทรงเพิ่มพลังในใจของข้าพเจ้า (สดด. 138:3)
📌พระยาห์เวห์ประทับอยู่ใกล้ชิดทุกคนที่เรียกขานพระองค์ ทุกคนที่เรียกขานพระองค์ด้วยใจจริง (สดด. 145:18)
📌จงวางใจในพระยาห์เวห์สุดจิตใจ อย่าเชื่อมั่นเพียงความรอบรู้ของตน จงระลึกถึงพระองค์ในทุกทางของลูก และพระองค์จะทรงทำให้ทางเดินของลูกราบรื่น (สภษ. 3:5-6)
📌ดูซิ พระเจ้าทรงเป็นความรอดพ้นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะวางใจและไม่กลัว เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพละกำลังและทรงเป็นบทเพลงของข้าพเจ้า พระองค์ทรงเป็นความรอดพ้นของข้าพเจ้าแล้ว” (อสย. 12:2)
📌อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับท่าน อย่ากังวลใจ เพราะเราเป็นพระเจ้าของท่าน เราจะทำให้ท่านมีกำลังเข้มแข็งและจะมาช่วยเหลือท่านด้วย จริงซิ เราจะยึดท่านไว้ด้วยมือขวาให้ท่านมีชัยชนะ (อสย. 41:10)
📌เราจะเป็นเหมือนเดิมจนท่านถึงวัยชรา เราจะอุ้มชูท่านจนผมของท่านหงอก เราจะค้ำจุนท่านไว้อย่างที่เคยทำ เราจะอุ้มและจะช่วยให้รอดพ้น (อสย. 46:4)
📌พระเจ้าทรงพระทัยดี ทรงเป็นป้อมปราการเข้มแข็งในยามทุกข์ยาก พระองค์ทรงรู้จักผู้วางใจในพระองค์ (นฮม. 1:7)
📌ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา (มธ. 5:10)
📌ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนักจงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน (มธ. 11:28)
📌ทุกสิ่งที่ท่านจะอธิษฐานภาวนาวอนขอด้วยความเชื่อ ท่านก็จะได้รับ (มธ. 21:22)
อย่ากลัวเลย จงมีความเชื่อไว้เถิด (มก. 5:36)
📌ดังนั้นเราบอกท่านทั้งหลายว่า ทุกสิ่งที่ท่านวอนขอในการอธิษฐานภาวนา จงเชื่อว่าท่านจะได้รับและท่านก็จะได้รับ (มก. 11:24)
📌ใจของท่านทั้งหลายจงอย่าหวั่นไหวเลย จงเชื่อในพระเจ้า และเชื่อในเราด้วย (ยน. 14:1)
📌เขาทั้งสองคนให้กำลังใจบรรดาศิษย์ตักเตือนให้มั่นคงอยู่ในความเชื่อ พูดว่า “พวกเราจำเป็นต้องฟันฝ่าความทุกข์ยากเป็นอันมากจึงจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าได้” (กจ. 14:22)
📌ยิ่งกว่านั้น เรายังภูมิใจในความทุกข์ เพราะรู้ว่า ความทุกข์ก่อให้เกิดความพากเพียร ความพากเพียรก่อให้เกิดคุณธรรมที่แท้จริง คุณธรรมที่แท้จริงก่อให้เกิดความหวัง (รม. 5:3-4)
📌ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะพระจิตเจ้าซึ่งพระเจ้าประทานให้เรา ได้หลั่งความรักของพระเจ้าลงในดวงใจของเรา (รม. 5:5)
📌ข้าพเจ้าคิดว่า ความทุกข์ทรมานในปัจจุบันเปรียบไม่ได้เลยกับพระสิริรุ่งโรจน์ที่จะทรงบันดาลให้ปรากฏแก่เรา (รม. 8:18)
📌เรารู้ว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์ ผู้ที่ทรงเรียกมาตามพระประสงค์ของพระองค์ (รม. 8:28)
📌พระองค์ประทานกำลังใจในความทุกข์ยากต่างๆ ของเรา เพราะเราได้รับกำลังใจจากพระเจ้าแล้ว เราจึงให้กำลังใจผู้มีความทุกข์ทั้งมวลได้ (2คร. 1:4)
📌เราไม่ท้อถอย แม้ว่าร่างกายภายนอกของเรากำลังเสื่อมสลายไป จิตใจของเราที่อยู่ภายในก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นในแต่ละวัน ความทุกข์ยากลำบากเล็กน้อยของเราในปัจจุบันนี้ กำลังเตรียมเราให้ได้รับสิริรุ่งโรจน์นิรันดรอันยิ่งใหญ่หาที่เปรียบมิได้ (2คร. 4:16-17)
📌เราจึงไม่มุ่งมั่นในสิ่งที่แลเห็นได้ แต่มุ่งมั่นในสิ่งที่แลเห็นไม่ได้ สิ่งที่แลเห็นได้เป็นสิ่งที่คงอยู่ชั่วคราว แต่สิ่งที่แลเห็นไม่ได้คงอยู่นิรันดร (2คร. 4:18)
📌เรามีความมั่นใจอยู่เสมอและรู้ว่า เมื่อเรามีชีวิตอยู่ในร่างกาย เราก็ถูกเนรเทศห่างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เราดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ มิใช่ตามที่มองเห็น (2คร. 5:6-7)
📌อย่ากระวนกระวายใจถึงสิ่งใดเลย จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบถึงความปรารถนาทุกอย่างของท่านโดยคำอธิษฐาน การวอนขอพร้อมด้วยการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกิน
📌สติปัญญาจะเข้าใจได้นั้น จะคุ้มครองดวงใจและความคิดของท่านไว้ในพระคริสตเยซู (ฟป. 4:6-7)
📌ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า (ฟป. 4:13)
📌แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงซื่อสัตย์ พระองค์ทรงเสริมกำลังให้ท่านมั่นคง และทรงคุ้มครองท่านจากมารร้าย (2ธส. 3:3)
📌จงต่อสู้อย่างดีเพื่อความเชื่อ จงยึดมั่นในชีวิตนิรันดรที่พระเจ้าทรงเรียกท่านให้ดำเนินอยู่ เมื่อท่านได้ประกาศยืนยันความเชื่อต่อหน้าพยานจำนวนมาก (1ทธ. 6:12)
📌พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่บันดาลความขลาดกลัว แต่ประทานจิตที่บันดาลความเข้มแข็ง ความรักและการควบคุมตนเองแก่เรา (2ทธ. 1:7)
📌ข้าพเจ้าต่อสู้มาอย่างดีแล้ว ข้าพเจ้าวิ่งมาถึงเส้นชัยแล้ว ข้าพเจ้ารักษาความเชื่อไว้แล้ว ยังเหลืออยู่ก็เพียงมงกุฎแห่งความชอบธรรม ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างเที่ยงธรรมจะประทานให้ข้าพเจ้าในวันนั้น และไม่ใช่เพียงให้ข้าพเจ้าเท่านั้น แต่จะประทานให้ทุกคนที่เฝ้ารอคอยด้วยความรักต่อการแสดงพระองค์ด้วยเช่นเดียวกัน (2ทธ. 4:7-8)
📌มีแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงยืนอยู่เคียงข้างและประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า (2ทธ. 4:17)
📌องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการประทุษร้ายทั้งสิ้น และจะทรงนำข้าพเจ้าไปสู่พระอาณาจักรสวรรค์ของพระองค์อย่างปลอดภัย (2ทธ. 4:18)
📌พี่น้องทั้งหลาย จงคิดว่าเป็นที่น่ายินดีเมื่อประสบความยากลำบากต่างๆ เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าการที่ความเชื่อของท่านถูกทดสอบก่อให้เกิดความพากเพียร จงพากเพียรให้ถึงที่สุด เพื่อท่านจะได้เป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ไม่มีที่ตำหนิ และไม่มีสิ่งใดบกพร่อง (ยก. 1:2-4)
📌ดังนั้น ท่านจงชื่นชม แม้ว่าในเวลานี้ท่านยังต้องทนทุกข์จากการถูกทดสอบต่างๆ ชั่วขณะหนึ่ง เพื่อคุณค่าที่แท้จริงแห่งความเชื่อของท่านจะได้รับการสรรเสริญ รับสิริรุ่งโรจน์และรับเกียรติ เมื่อพระเยซูคริสตเจ้าจะทรงแสดงพระองค์ ความเชื่อนี้ประเสริฐยิ่งกว่าทองคำที่เสื่อมสลายได้ แต่ก็ยังถูกทดสอบด้วยไฟ (1ปต. 1:6-7)
📌ท่านที่รักยิ่ง อย่าประหลาดใจต่อการเบียดเบียน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นการทดสอบท่านทั้งหลาย ประหนึ่งว่าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ประหลาด แต่จงชื่นชมในการที่ท่านมีส่วนร่วมรับทรมานกับพระคริสตเจ้า เพื่อท่านจะได้มีความชื่นชมและปลื้มปิติยิ่งขึ้นเมื่อพระองค์ทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์ (1ปต. 4:12-13)
📌จงละความกระวนกระวายทั้งมวลของท่านไว้กับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงห่วงใยท่าน (1ปต. 5:7)
📌เมื่อท่านได้ทนทุกข์อยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้ว พระเจ้าผู้ประทานพระหรรษทานทุกประการ ผู้ทรงเรียกท่านให้มารับพระสิริรุ่งโรจน์นิรันดรในพระคริสตเจ้า จะทรงฟื้นฟูท่านให้มั่นคง มีกำลังเข้มแข็ง และจะทรงพยุงท่านไว้ (1ปต. 5:10)
📌ใครเล่าชนะโลกได้ ถ้ามิใช่ผู้ที่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตรของพระเจ้า (1ยน. 5:5)
