เราได้รับเรียกให้มาเป็นผู้รับใช้พระเจ้า ผู้เป็นนายเหนือเรา ในสถานะที่แตกต่างกันไป
ขอพระวาจาพระเจ้าเสริมแรงเรา ให้ทำหน้าที่ผู้รับใช้ที่รู้ใจนายและรอคอยนายกลับมา
ขอพระพักตร์ของพระองค์ฉายแสงลงมาเหนือข้ารับใช้ของพระองค์ โปรดทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นเพราะเห็นแก่ความรักมั่นคงของพระองค์ (สดด. 31:16)
ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ โปรดประทานความเข้าใจแก่ข้าพเจ้าเถิด แล้วข้าพเจ้าจะรู้จักกฤษฎีกาของพระองค์ (สดด. 119:125)
ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้ (มธ. 6:24)
ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นคนที่หนึ่งในบรรดาท่านทั้งหลาย ก็จะต้องทำตนเป็นผู้รับใช้ (มธ. 20:27)
ในกลุ่มของท่าน ผู้ใดเป็นใหญ่จะต้องเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น (มธ. 23:11)
ใครเล่าเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์และรอบคอบซึ่งนายแต่งตั้งให้ดูแลผู้รับใช้ เพื่อแจกจ่ายอาหารให้ตามเวลาที่กำหนด ผู้รับใช้นั้นย่อมเป็นสุข เมื่อนายกลับมาพบเขากำลังทำเช่นนี้ (มธ. 24:45-46)
นายพูดว่า ‘ดีมาก ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย เราจะให้เจ้าจัดการในเรื่องใหญ่ๆ จงมาร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด’ (มธ. 25:21)
พระองค์จึงประทับนั่ง แล้วทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามา ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดอยากเป็นคนที่หนึ่ง ก็ให้ผู้นั้นทำตนเป็นคนสุดท้าย และเป็นผู้รับใช้ของทุกคน” (มก. 9:35)
เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น และมอบชีวิตของตนเป็นสินไถ่เพื่อมวลมนุษย์” (มก. 10:45)
ใครเล่าเป็นผู้จัดการที่ซื่อสัตย์และรอบคอบ ซึ่งนายจะแต่งตั้งให้ดูแลผู้รับใช้อื่นๆ เพื่อปันส่วนอาหารให้ตามเวลาที่กำหนด ผู้รับใช้คนนั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังทำดังนี้ (ลก. 12:42-43)
ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น” (ลก. 17:10)
พระองค์จะต้องทรงยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนข้าพเจ้าจะต้องด้อยลง (ยน. 3:30)
ผู้ใดรับใช้เรา ผู้นั้นจงตามเรามา เราอยู่ที่ใด ผู้รับใช้ของเราก็จะอยู่ที่นั่นด้วย (ยน. 12:26)
ในเมื่อเราซึ่งเป็นทั้งองค์พระผู้เป็นเจ้าและอาจารย์ยังล้างเท้าให้ท่าน ท่านก็ต้องล้างเท้าให้กันและกันด้วย (ยน. 13:14)
เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ผู้รับใช้ย่อมไม่เป็นใหญ่กว่านายของตน ผู้ถูกส่งไปย่อมไม่เป็นใหญ่กว่าผู้ที่ส่งเขาไป (ยน. 13:16)
อย่าคิดว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่น แต่จงคิดให้ถูกต้องว่าพระเจ้าประทานความเชื่อให้แต่ละบุคคลมากน้อยต่างกัน (รม. 12:3)
บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามเอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า (กท. 1:10)
พี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มารับอิสรภาพ ขอเพียงแต่อย่าใช้อิสรภาพนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่จะทำตามใจตน แต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรัก (กท. 5:13)
ไม่ว่าทำสิ่งใด จงทำจากใจประหนึ่งว่าทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เพื่อมนุษย์ (คส. 3:23)
ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า ด้วยพระองค์ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าเป็นผู้น่าเชื่อถือ จึงทรงเรียกให้มารับใช้ (1ทธ. 1:12)
ท่านจงขวนขวายที่จะแสดงตนว่าพระเจ้าทรงรับรองท่านแล้ว เป็นคนงานที่ไม่ต้องอายใคร เป็นผู้สั่งสอนพระวาจาแห่งความจริงอย่างถูกต้อง (2ทธ. 2:15)
จงประพฤติตนดุจคนอิสระ อย่าใช้อิสรภาพเป็นข้ออ้างเพื่อปิดบังความชั่ว แต่จงประพฤติดุจผู้รับใช้ของพระเจ้า (1ปต. 2:16)
ถ้าจะกล่าววาจาใด ก็จงกล่าวดุจกล่าวพระวาจาของพระเจ้า ผู้ใดมีหน้าที่รับใช้ ก็จงรับใช้ตามกำลังที่พระเจ้าประทานให้ เพื่อพระเจ้าจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในทุกสิ่ง (1ปต. 4:11)