“จงไปและทำเช่นเดียวกัน” ถ้อยคำของพระเยซูเจ้าที่ย้ำเตือนใจ
ให้เราดำเนินชิวิตคริสตชนตามคำสอนของพระองค์อย่างดี เพื่อได้รับความรอด
ถ้าลูกมีอำนาจจะทำได้ อย่าปฏิเสธความดีแก่ผู้ที่ต้องการ (สภษ. 3:27)
ในทำนองเดียวกัน แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ (มธ. 5:16)
บทบัญญัติประการที่สองก็เช่นเดียวกัน คือท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง (มธ. 22:39)
ใครมีเสื้อสองตัว จงแบ่งตัวหนึ่งให้กับคนที่ไม่มี คนที่มีอาหาร ก็จงทำเช่นเดียวกัน (ลก. 3:11)
ท่านอยากให้เขาทำต่อท่านอย่างไร ก็จงทำต่อเขาอย่างนั้นเถิด (ลก. 6:31)
ท่านจงรักศัตรู จงทำดีต่อเขา จงให้ยืมโดยไม่หวังอะไรกลับคืน แล้วบำเหน็จรางวัลของท่านจะใหญ่ยิ่ง ท่านจะเป็นบุตรของพระผู้สูงสุด เพราะพระองค์ทรงพระกรุณาต่อคนอกตัญญูและต่อคนชั่วร้าย (ลก. 6:35)
จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงพระเมตตากรุณาเถิด (ลก. 6:36)
ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด” (ลก. 10:36-37)
เราบอกท่านทั้งหลายว่า ทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะมีความยินดีเช่นเดียวกัน เมื่อคนบาปคนหนึ่งกลับใจ (ลก. 15:10)
ถ้าพี่น้องของท่านทำผิด จงตักเตือนเขา ถ้าเขากลับใจ จงให้อภัยแก่เขา ถ้าเขาทำผิดต่อท่านวันละเจ็ดครั้ง และกลับมาหาท่านทั้งเจ็ดครั้ง พูดว่า ‘ฉันเสียใจ’ ท่านจงให้อภัยเขาเถิด (ลก. 17:3-4)
ขอให้พระเจ้าผู้ประทานความพากเพียรและการปลอบใจ โปรดให้ท่านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตามแบบฉบับของพระคริสตเยซู (รม. 15:5)
พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าใคร่ขอร้องท่านในพระนามพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ให้ท่านปรองดองกัน อย่าแตกแยก แต่จงมีจิตใจและความเห็นตรงกัน (1คร. 1:10)
จงแบ่งเบาภาระของกันและกัน แล้วท่านก็จะปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระคริสตเจ้าอย่างสมบูรณ์ (กท. 6:2)
จงมีใจโอบอ้อมอารี มีเมตตาต่อกัน ให้อภัยกันดังที่พระเจ้าทรงให้อภัยท่าน ในองค์พระคริสตเจ้าเถิด (อฟ. 4:32)
จงมีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกับที่พระคริสตเยซูทรงมีเถิด (ฟป. 2:5)
ท่านจงขวนขวายที่จะแสดงตนว่าพระเจ้าทรงรับรองท่านแล้ว เป็นคนงานที่ไม่ต้องอายใคร เป็นผู้สั่งสอนพระวาจาแห่งความจริงอย่างถูกต้อง (2ทธ. 2:15)
จงระลึกถึงผู้นำของท่าน ซึ่งประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ท่าน จงพิจารณาว่าเขาเหล่านั้นดำเนินชีวิตและตายอย่างไร จงประพฤติตามอย่างความเชื่อของเขา (ฮบ. 13:8)
ความเชื่อก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการกระทำ ก็เป็นความเชื่อที่ตายแล้ว (ยก. 2:17)
จงประดับตนในส่วนลึกของจิตใจให้งดงามอย่างถาวรโดยมีใจอ่อนโยนและสงบเสงี่ยม ความงามเช่นนี้มีค่ายิ่งเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า (1ปต. 3:4)
เนื่องจากพระคริสตเจ้าทรงรับทรมานในพระวรกายมาแล้ว ท่านทั้งหลายจึงต้องมีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกับพระองค์เป็นประดุจอาวุธ ผู้ที่รับทรมานในร่างกายแล้วก็ตัดขาดจากบาป (1ปต. 4:1)