เชิญชวนเราไตร่ตรอง หลังจากที่รับศีลล้างบาปแล้ว ชีวิตความเชื่อเป็นอย่างไร ยังซื่อสัตย์ ยังเชื่อมั่นและดำเนินชีวิตตามคำสัญญาที่ให้ไว้หรือไม่

ให้พระวาจาช่วยเราในการคิด พิจารณา ขอพระเจ้าพระเจ้าเสริมกำลังเรา

จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้ (มธ. 6:33)

พระเจ้าทรงเป็นจิต ผู้ที่นมัสการจะต้องนมัสการเดชะพระจิตเจ้า และตามความจริง (ยน. 4:24)

เราทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปเดชะพระคริสตเยซู ก็ได้รับศีลล้างบาปเข้าร่วมกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ด้วย (รม. 6:3)

จงชื่นชมยินดีในความหวัง จงมีความอดทนต่อความทุกข์ยาก จงพากเพียรในการภาวนา (รม. 12:12)

อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว จงพยายามทำดีต่อมนุษย์ทุกคน (รม. 12:17)

อย่าให้ความชั่วเอาชนะท่าน แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี (รม. 12:21)

ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสตเจ้า ผู้นั้นก็เป็นสิ่งสร้างใหม่สภาพเก่าผ่านพ้นไป สภาพใหม่เกิดขึ้นแล้ว (2คร. 5:17)

พระเจ้าทรงทำให้โลกคืนดีกับพระองค์ในองค์พระคริสตเจ้า พระองค์มิได้ทรงเอาผิดกับมนุษย์ แต่ทรงมอบให้เราประกาศสารแห่งการคืนดีนี้ (2คร. 5:19)

ท่านทุกคนเป็นบุตรของพระเจ้า โดยอาศัยความเชื่อในพระคริสตเยซู เพราะท่านทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปในพระคริสตเจ้า ก็สวมพระคริสตเจ้าไว้ (กท. 3:26-27)

ส่วนผลของพระจิตเจ้าก็คือความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง เรื่องเหล่านี้ไม่มีธรรมบัญญัติใดห้ามไว้เลย (กท. 5:22-23)

พี่น้องทั้งหลาย ถ้าท่านพบว่าใครคนหนึ่งทำผิด ท่านซึ่งมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ จงตักเตือนแก้ไขเขาด้วยความอ่อนโยน จงระวังตัว ท่านอาจถูกทดลองด้วย (กท. 6:1)

จงแบ่งเบาภาระของกันและกัน แล้วท่านก็จะปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระคริสตเจ้าอย่างสมบูรณ์ (กท. 6:2)

ตราบใดที่ยังมีโอกาสจงทำความดีแก่ทุกคนโดยเฉพาะแก่พี่น้องผู้ร่วมความเชื่อของเรา (กท. 6:10)

มีความหวังคอยท่านอยู่ในสวรรค์แล้ว ความหวังนี้ท่านรู้มาก่อนจากการประกาศพระวาจาแห่งความจริงคือข่าวดี (คส. 1:5)

เพื่อท่านจะได้ดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมกับองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นที่สบพระทัยพระองค์ในทุกสิ่ง บังเกิดผลเป็นกิจการดีทุกประการ และเรียนรู้จักพระเจ้ามากขึ้น (คส. 1:10)

ให้ท่านทั้งหลายได้รับพละกำลังมากขึ้นจากพระฤทธานุภาพอันรุ่งเรืองของพระองค์ จะได้มีความพากเพียร เข้มแข็งและอดทนทุกสิ่ง (คส. 1:11)

ขอบพระคุณพระบิดาเจ้าด้วยความยินดี พระองค์โปรดให้ท่านเป็นบุคคลที่เหมาะสมจะเข้าอยู่ในแสงสว่าง มีส่วนได้รับมรดกร่วมกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า (คส. 1:12)

พระองค์ทรงช่วยเราให้พ้นจากอำนาจความมืดมนและทรงนำเราเข้าไปสู่พระอาณาจักรของพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ เดชะพระบุตรนี้ เราได้รับการไถ่กู้และได้รับการอภัยบาป (คส. 1:13-14)

จงอธิษฐานภาวนาอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี (1ธส. 5:17-18)

ท่านจงขวนขวายที่จะแสดงตนว่าพระเจ้าทรงรับรองท่านแล้ว เป็นคนงานที่ไม่ต้องอายใคร เป็นผู้สั่งสอนพระวาจาแห่งความจริงอย่างถูกต้อง (2ทธ. 2:15)

ท่านจะต้องเป็นแบบอย่างในกิจการที่ดี เมื่อสอนก็จงสอนด้วยความจริงใจและจริงจัง (ทต. 2:7)

พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นมิใช่เพราะกิจการชอบธรรมใดๆ ที่เรากระทำ แต่เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ ทรงใช้น้ำชำระเราให้สะอาด เราจึงเกิดใหม่และได้รับการฟื้นฟูโดยพระจิตเจ้า (ทต. 3:5)

อย่าขาดการเข้าร่วมชุมนุมกันดังที่บางคนเคยทำ แต่จงตักเตือนกัน จงกระทำเช่นนี้ให้มากยิ่งขึ้นดังที่ท่านเห็นแล้วว่าวันนั้นใกล้จะมาถึงแล้ว (ฮบ. 10:25)

เดชะพระคริสตเจ้านี้ ท่านมีความเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงบันดาลให้พระองค์กลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย และประทานพระสิริรุ่งโรจน์ เพื่อให้ความเชื่อและความหวังของท่านดำรงอยู่ในพระเจ้า (1ปต. 1:21)

จงละความกระวนกระวายทั้งมวลของท่านไว้กับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงห่วงใยท่าน (1ปต. 5:7)

จงมีสติสัมปชัญญะและตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะศัตรูของท่านคือมาร กำลังดักวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์โตคำราม เสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ จงต่อสู้มันด้วยใจมั่นคงในความเชื่อ จงรู้ว่าบรรดาพี่น้องผู้มีความเชื่อทั่วโลกก็ประสบความทุกข์ลำบากเช่นเดียวกัน (1ปต. 5:8-9)