เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าแล้ว
เชิญชวนเราดำเนินชีวิตอย่างรู้ตัวมากขึ้น เพื่อการเตรียมทางของพระเจ้าในจิตใจเราให้ดีที่สุด
แวะมารับพระวาจาไปเสริมกำลังกัน
เสียงหนึ่งร้องว่า “จงเตรียมทางของพระยาห์เวห์ในถิ่นทุรกันดาร จงเปิดทางตรงในทุ่งเวิ้งว้างสำหรับพระเจ้าของเราเถิด” (อสย. 40:3)
จงสวมความชอบธรรมจากพระเจ้าเป็นเสื้อคลุม จงสวมสิริรุ่งโรจน์จากพระเจ้านิรันดรเป็นมงกุฎบนศีรษะ (บรค. 5:2)
เมื่อท่านจะแสวงหาเราท่านก็จะพบเรา เพราะท่านจะแสวงหาเราด้วยสิ้นสุดใจ (ยรม. 29:13)
แต่ผู้ใดยืนหยัดอยู่จนถึงวาระสุดท้าย ผู้นั้นก็จะรอดพ้น (มธ. 24:13)
จงตื่นเฝ้าระวังเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่านายของท่านจะมาเมื่อไร (มธ. 24:42)
ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน จงเตรียมพร้อมไว้ เพราะว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย (มธ. 24:44)
เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้วพระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด (มก. 1:15)
จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด (ลก. 3:4)
หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม ภูเขาและเนินทุกแห่งจะถูกปรับให้ต่ำลง ทางคดเคี้ยวจะกลายเป็นทางตรง ทางขรุขระจะถูกทำให้ราบเรียบ แล้วมนุษย์ทุกคนจะเห็นความรอดพ้นจากพระเจ้า (ลก. 3:5-6)
ท่านทั้งหลายจงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลาเถิด เพื่อท่านจะมีกำลังหนีพ้นเหตุการณ์ทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นนี้ไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์บุตรแห่งมนุษย์ได้ (ลก. 21:36)
อย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกนี้ แต่จงเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการฟื้นฟูความคิดขึ้นใหม่ เพื่อจะได้รู้จักวินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สิ่งใดดี และสิ่งใดเป็นที่พอพระทัยอันสมบูรณ์พร้อมของพระองค์ (รม. 12:2)
ท่านทั้งหลายจงรู้เถิดว่า เวลาที่จะประพฤติปฏิบัติเช่นนี้มาถึงแล้ว บัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องตื่นขึ้นจากความหลับ ขณะนี้ความรอดพ้นอยู่ใกล้เรามากกว่าเมื่อเราเริ่มมีความเชื่อ (รม. 13:11)
ท่านไม่รู้หรือว่า คนที่วิ่งแข่งในสนามกีฬา ทุกคนวิ่งก็จริง แต่มีเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัล ท่านจงวิ่งเช่นนั้นด้วย เพื่อชิงรางวัลให้ได้ (1คร. 9:24)
จงระมัดระวัง จงยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ จงกล้าหาญและเข้มแข็ง (1คร. 16:13)
เราจึงไม่มุ่งมั่นในสิ่งที่แลเห็นได้ แต่มุ่งมั่นในสิ่งที่แลเห็นไม่ได้ สิ่งที่แลเห็นได้เป็นสิ่งที่คงอยู่ชั่วคราว แต่สิ่งที่แลเห็นไม่ได้คงอยู่นิรันดร (2คร. 4:18)
เราจงชำระล้างตนให้สะอาดจากมลทินทั้งร่างกายและจิตใจ จงยำเกรงพระเจ้า จงพยายามทำตนให้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้น (2คร. 7:1)
เราเป็นผลงานของพระองค์ ถูกสร้างมาในพระคริสตเยซูเพื่อให้ประกอบกิจการดี ซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้เราปฏิบัติ (อฟ. 2:10)
ท่านจงถอดสภาพมนุษย์เก่า เลิกประพฤติเลวทรามตามราคตัณหาที่หลอกให้หลงไป จงมีจิตใจและความรู้สึกนึกคิดอย่างใหม่ (อฟ. 4:22-23)
ในอดีตท่านเคยเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตเช่นบุตรแห่งความสว่างเถิด (อฟ. 5:8)
จงคอยระวังว่าท่านดำเนินชีวิตอย่างไร จงดำเนินชีวิตอย่างผู้เฉลียวฉลาด มิใช่อย่างผู้ขาดสติปัญญา จงใช้เวลาปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะเราอยู่ในยุคแห่งความเลวร้าย (อฟ. 5:15-16)
ท่านจงขวนขวายที่จะแสดงตนว่าพระเจ้าทรงรับรองท่านแล้ว เป็นคนงานที่ไม่ต้องอายใคร เป็นผู้สั่งสอนพระวาจาแห่งความจริงอย่างถูกต้อง (2ทธ. 2:15)
จงประกาศพระวาจา จงพร้อมสรรพทั้งเมื่อมีโอกาสและเมื่อไม่มีโอกาส จงว่ากล่าว จงตักเตือน จงให้กำลังใจ โดยพร่ำสอนด้วยความพากเพียรอย่างเต็มที่ (2ทธ. 4:2)
ท่านทั้งหลายจงเตรียมจิตใจไว้ให้พร้อมที่จะปฏิบัติงาน จงบังคับตนเอง ตั้งความหวังทั้งหมดไว้ในพระหรรษทานซึ่งพระเจ้าจะทรงนำมาประทานให้เมื่อพระเยซูคริสตเจ้าทรงสำแดงพระองค์ (1ปต. 1:13)
จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าคือพระคริสตเจ้าในจิตใจของท่าน จงพร้อมเสมอที่จะให้คำอธิบายแก่ทุกคนที่ต้องการรู้เหตุผลแห่งความหวังของท่าน (1ปต. 3:15)