ความอ่อนแอเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน
ขอพระวาจาพระเจ้าเป็นแรงเสริมแก่เรา ช่วยเราให้อยู่ในหนทางของพระองค์เสมอ
พระยาห์เวห์ทรงเป็นพละกำลังและบทเพลงของข้าพเจ้า พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น (อพย. 15:2)
ผู้ที่ใส่ใจดูแลคนยากจนและผู้อ่อนแอย่อมเป็นสุข พระยาห์เวห์จะทรงช่วยเขาในยามทุกข์ร้อน (สดด. 41:1)
แม้ร่างกายและจิตใจข้าพเจ้าอ่อนกำลัง พระเจ้าก็ทรงเป็นหลักศิลาแห่งดวงใจ ทรงเป็นทรัพย์สมบัติของข้าพเจ้าตลอดไป (สดด. 73:26)
จงให้ความยุติธรรมแก่ผู้อ่อนแอและลูกกำพร้า จงปกป้องคนยากจนและผู้ถูกข่มเหงเถิด (สดด. 82:3)
ใจร่าเริงเป็นยาขนานเอก จิตโศกเศร้าทำให้กระดูกแห้ง (สภษ. 17:22)
พระองค์ประทานกำลังแก่ผู้อ่อนเปลี้ย ทรงเพิ่มเรี่ยวแรงแก่ผู้ไม่มีกำลัง (อสย. 40:29)
อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับท่าน อย่ากังวลใจ เพราะเราเป็นพระเจ้าของท่าน เราจะทำให้ท่านมีกำลังเข้มแข็งและจะมาช่วยเหลือท่านด้วย (อสย. 41:10)
“ท่านจะประสบผลสำเร็จมิใช่ด้วยอำนาจ มิใช่ด้วยพลัง แต่ด้วยจิตของเรา” พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัส (ศคย. 4:6)
ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อย และแบกภาระหนักจงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน (มธ. 11:28)
จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนาเพื่อจะได้ไม่เข้าสู่การทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังอ่อนกำลัง (มธ. 26:41)
เราต้องทำงานเช่นนี้เพื่อช่วยเหลือผู้อ่อนแอ โดยระลึกถึงพระวาจาของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ว่า “การให้ย่อมเป็นสุขมากกว่าการรับ” (กจ. 20:35)
ขณะที่เรายังอ่อนแอ พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อคนบาปตามเวลาที่กำหนด (รม. 5:6)
ในทำนองเดียวกัน พระจิตเจ้าเสด็จมาช่วยเหลือเราผู้อ่อนแอ เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องอธิษฐานภาวนาขอสิ่งใดที่เหมาะสม แต่พระจิตเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาวอนขอแทนเราด้วยคำที่ไม่อาจบรรยาย (รม. 8:26)
พวกเราที่เข้มเข็งต้องอดทนต่อความพลาดพลั้งของคนที่อ่อนแอ และไม่ทำตามใจชอบของเราเอง (รม. 15:1)
พระเจ้าทรงเลือกสรรคนที่โลกถือว่าอ่อนแอเพื่อทำให้ผู้แข็งแรงต้องอับอาย (1คร. 1:27)
ข้าพเจ้าทำตนเป็นผู้อ่อนแอเพื่อชนะใจผู้อ่อนแอ ข้าพเจ้าเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน เพื่อข้าพเจ้าจะได้ใช้ทุกวิถีทางช่วยบางคนให้รอดพ้น (1คร. 9:22)
แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “พระหรรษทานของเราเพียงพอสำหรับท่าน เพราะพระอานุภาพแสดงออกเต็มที่เมื่อมนุษย์มีความอ่อนแอ” ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเต็มใจที่จะโอ้อวดเรื่องความอ่อนแอ เพื่อให้พระอานุภาพของพระคริสตเจ้าพำนักอยู่ในข้าพเจ้า (2คร. 12:9)
ฉะนั้นเพราะความรักต่อพระคริสตเจ้า ข้าพเจ้าจึงพอใจความอ่อนแอต่างๆ เมื่อถูกสบประมาท เมื่อมีความคับแค้น เมื่อถูกข่มเหงและอับจน เพราะข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็ย่อมเข้มแข็งเมื่อนั้น (2คร. 12:10)
พระองค์ทรงอ่อนแอเมื่อทรงถูกตรึงกางเขนก็จริง แต่พระองค์ทรงพระชนมชีพด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เราก็เช่นกัน เราอ่อนแอกับพระองค์ แต่เราจะมีชีวิตพร้อมกับพระองค์ด้วยพระอานุภาพของพระเจ้าซึ่งแสดงออกเพื่อท่าน (2คร. 13:4)
สุดท้ายนี้ ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้เข้มแข็งในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงตักตวงพลังจากพระพลานุภาพ ของพระองค์ (อฟ. 6:10)
ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้ในพระองค์ผู้ประทานพละกำลังแก่ข้าพเจ้า (ฟป. 4:13)
ดังนั้น จงให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และจงช่วยเสริมสร้างซึ่งกันและกันดังที่ท่านกำลังกระทำอยู่แล้วนี้เถิด (1ธส. 5:11)
พี่น้องทั้งหลาย จงให้กำลังใจผู้หวาดกลัว จงค้ำจุนผู้อ่อนแอ จงอดทนต่อทุกคน (1ธส. 5:14)
พระเจ้าไม่ได้ประทานจิตที่บันดาลความขลาดกลัว แต่ประทานจิตที่บันดาลความเข้มแข็ง ความรักและการควบคุมตนเองแก่เรา (2ทธ. 1:7)
เพราะเหตุว่าเราไม่มีมหาสมณะที่ร่วมทุกข์กับเราผู้อ่อนแอไม่ได้ แต่เรามีมหาสมณะผู้ทรงผ่านการทดลองทุกอย่างเหมือนกับเรา ยกเว้นบาป (ฮบ. 4:15)
จงละความกระวนกระวายทั้งมวลของท่านไว้กับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงห่วงใยท่าน (1ปต. 5:7)