อยากเป็นพี่น้องกับพระเยซูเจ้าไม่ยาก แค่นำคำสอนของพระองค์มาปฏิบัติในชีวิต
อ่านพระวาจา สวดภาวนาเพื่อให้รู้ว่าพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้ทำสิ่งใด
เราอย่าวิวาทกันเลย อย่าให้คนเลี้ยงสัตว์ของท่านกับคนเลี้ยงสัตว์ของฉันวิวาทกัน เพราะเราเป็นญาติกัน (ปฐก. 13:8)
ท่านจะต้องไม่แก้แค้น หรืออาฆาตชนชาติเดียวกับท่าน แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือพระยาห์เวห์ (ลนต. 19:18)
เป็นการดีและน่าชื่นชมอย่างยิ่ง ที่จะอยู่ร่วมกันฉันพี่น้อง (สดด. 133:1)
เพื่อนจะมีความรักต่อกันตลอดไป จะเป็นพี่น้องในยามเคราะห์ร้าย (สภษ. 17:17)
สองคนย่อมดีกว่าคนเดียว เพราะทั้งสองคนจะได้รับผลตอบแทนดีกว่าสำหรับความลำบากตรากตรำของตน เพราะถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้ช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้น (ปญจ. 4:9-10)
เราทุกคนมีบิดาคนเดียวมิใช่หรือ พระเจ้าพระองค์เดียวทรงสร้างพวกเรามิใช่หรือ แล้วทำไมเราจึงไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน และล่วงละเมิดพันธสัญญาที่ทรงทำไว้กับบรรพบุรุษของเราเล่า (มลค. 2:10)
ถ้าพี่น้องของท่านทำผิดจงไปตักเตือนเขาตามลำพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา (มธ. 18:15)
บทบัญญัติประการที่สองก็เช่นเดียวกัน คือท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง (มธ. 22:39)
ผู้ใดทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า ผู้นั้นเป็นพี่น้องชายหญิงและเป็นมารดาของเรา (มก. 3:35)
เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลาย ให้ท่านรักกัน เรารักท่านทั้งหลายอย่างไร ท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด (ยน. 13:34)
ผู้ที่มีบทบัญญัติของเรา และปฏิบัติตาม ผู้นั้นรักเรา และผู้ที่รักเรา พระบิดาของเราก็จะทรงรักเขา และเราเองก็จะรักเขา และจะแสดงตนแก่เขา (ยน. 14:21)
ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย (ยน. 15:13)
คนเหล่านั้นประชุมกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อฟังคำสั่งสอนของบรรดาอัครสาวก ดำเนินชีวิตร่วมกันฉันพี่น้องร่วม “พิธีบิขนมปัง” และ “อธิษฐานภาวนา” (กจ. 2:42)
จงรักกันฉันพี่น้อง จงคิดว่าผู้อื่นดีกว่าตน (รม. 12:10)
ฉะนั้น เราจงพยายามทำกิจการที่นำไปสู่สันติและเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่กันและกัน (รม. 14:19)
จงแบ่งเบาภาระของกันและกัน แล้วท่านก็จะปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระคริสตเจ้าอย่างสมบูรณ์ (กท. 6:2)
ดังนั้น ตราบใดที่ยังมีโอกาสจงทำความดีแก่ทุกคนโดยเฉพาะแก่พี่น้องผู้ร่วมความเชื่อของเรา (กท. 6:10)
จงอย่าพูดคำเลวร้ายใดๆ เลย จงพูดแต่คำดีงามเพื่อช่วยกันเสริมสร้างผู้อื่นตามโอกาสและเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่บรรดาผู้ได้ยินได้ฟัง (อฟ. 4:29)
จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน หากมีเรื่องผิดใจกันก็จงยกโทษกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยความผิดของท่านอย่างไร ท่านก็จงให้อภัยแก่เขาอย่างนั้นเถิด (คส. 3:13)
เราจงพิจารณาหาทางปลุกใจกันและกันให้มีความรักและประกอบกิจการดี (ฮบ. 10:24)
ท่านทั้งหลายจงรักกันฉันพี่น้องต่อไป (ฮบ. 13:1)
อย่าละเลยที่จะต้อนรับแขกแปลกหน้า เพราะเมื่อต้อนรับแขกแปลกหน้า บางคนได้ต้อนรับทูตสวรรค์โดยไม่รู้ตัว (ฮบ. 13:2)
เมื่อท่านทั้งหลายนอบน้อมเชื่อฟังความจริง ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์จนรักกันฉันพี่น้องแล้ว ก็จงรักกันจากใจจริงยิ่ง ๆ ขึ้นเถิด (1ปต. 1:22)
จงให้เกียรติทุกคน จงรักพี่น้องผู้มีความเชื่อ จงเคารพยำเกรงพระเจ้า (1ปต. 2:17)
ท่านทั้งหลายจงมีความคิดเห็นพ้องต้องกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน รักกันฉันพี่น้อง เห็นใจกันและรู้จักถ่อมตน (1ปต. 3:8)
ถ้าผู้ใดพูดว่า “ฉันรักพระเจ้า” แต่เกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นย่อมเป็นคนพูดเท็จ เพราะผู้ไม่รักพี่น้องที่เขาแลเห็นได้ ย่อมไม่รักพระเจ้าที่เขาแลเห็นไม่ได้ (1ยน. 4:20)
เราได้รับบทบัญญัตินี้จากพระองค์ คือให้ผู้ที่รักพระเจ้า รักพี่น้องของตนด้วย (1ยน. 4:21)